อัล เคไลฟี่ ยอมรับเตรียมหาสนามเหย้าใหม่ หลังสภาปารีสลงมติ ปาร์ก เดอ แปรงซ์ ไม่ได้มีไว้ขาย

ปัญหาเรื่องซื้อสนามระหว่างสภาเมืองปารีสที่เป็นเจ้าของสนาม ปาร์ก เดอ แปรงซ์ และ เปแอสเช ที่เป็นผู้เช่าตั้งแต่ปี 1974 จะต้องจบลงแล้ว เพราะล่าสุด แอนน์ อีดัลโก นายกเทศมนตรีของปารีสได้ออกมาย้ำว่าสภาปารีสลงมติว่าจะไม่ขาย สนาม ปาร์ก เดอ แปรงซ์ ให้กับทีมใด ๆ ทั้งสิ้น 

 

ทำให้ นาสเซอร์ อัล เคไลฟี่ ประธานสโมสรเปแอสเช ออกมายอมรับต่อข้อสรุปดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะประชุมยูฟ่า คองเกรส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 

“ก่อนหน้านี้เราพยายามมาหลายปีในการซื้อสนาม แต่ตอนนี้มันง่ายขึ้นมาแล้วล่ะ เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรต่อ มันจบแล้ว เราจะย้ายออกจาก ปาร์ก เดอ แปรงซ์” 

เปแอสเช มีสัญญาเช่าสนามยาวจนถึงปี 2043 และตั้งเป้าจะใช้เวลาไปกับการพัฒนาสนามในทุกๆ ด้านด้วยวงเงินกว่า 500 ล้านยูโร หรือ ราว 19,000 ล้านบาทไทย เพื่อหวังเป็นเจ้าของสนามในอนาคต  แต่ตอนนี้โครงการพัฒนาสนามจะต้องหยุดลงก่อน และหันไปโฟกัสเรื่องสนามแข่งใหม่แทน

แม้จะมีการคาดเดาว่า เปแอสเช เบนเข็มไปที่สนาม สตาด เดอ ฟรองซ์ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของปารีส แต่เดือนที่ผ่านมาสโมสรก็ได้ถอนใบสมัครซื้อสนามเพราะกังวลด้านการเงิน วัฒนธรรม โลจิสติกส์ ที่อาจไม่เหมาะกับ เปแอสเช ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง

อย่างไรก็ดี 90min สำนักข่าวกีฬาชื่อดังได้ออกมาเผยว่า เปแอสเช มีทางเลือกสนามใหม่ไว้ในใจอยู่ 3 แห่ง ประกอบด้วยสนาม สตาด ชอง บูแอง ที่มีความจุสองหมื่นที่นั่ง ไม่ไกลจาก ปาร์ก เดอ แปรงซ์ นัก, สนาม สตาด เซบาสเตียน ชาเลตี้ ความจุสองหมื่นที่นั่ง และสนาม ปารีส ลา เดฟองส์ อารีน่า ความจุสามหมื่นที่นั่ง