กรานิต ชาก้า อดีตกองกลางของอาร์เซนอล วัย 30 ปี ยอมรับว่าการที่เขาถูกแฟนบอล "ปืนใหญ่" โห่เสียงไม่พอใจใส่ ในศึกพรีเมียร์ลีก เกมเปิดบ้านเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 เมื่อปี 2019 ช่วยทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งขึ้น
โดยเกมดังกล่าว เจ้าตัวได้ถอดเสื้อของทีมหลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 61 พร้อมกับแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อแฟนบอลอาร์เซนอลที่กำลังส่งเสียงโห่ใส่ จากนั้น ชาก้าก็ถูก อูไน เอเมรี่ กุนซือของอาร์เซนอลในเวลานั้น ริบปลอกแขนกัปตันทีมทันที
แต่ทว่า 4 ปีต่อมา เจ้าตัวก็สร้างชื่อตัวเองใหม่และกลายมาเป็นอีกหนึ่งแข้งขวัญใจของแฟนบอลอาร์เซนอลอีกครั้ง ซึ่งชาก้าก็ได้เปิดเผยผ่าน Blick สื่อจากสวิตเซอร์แลนด์ ว่าเหตุการณ์ที่เขาถูกแฟนบอลอาร์เซนอล ส่งเสียงโห่ใส่ในครั้งนั้น ได้ทำให้เขาเติบโตเป็นนักเตะที่ดีขึ้น
"ผมเคยเป็นกัปตันทีมของอาร์เซนอล เมื่อปี 2019 จากนั้นเรื่องกับแฟนบอลก็ได้เกิดขึ้น ผมไม่เคยมีปัญหาใด ๆ กับสโมสรเลย มันอาจเป็นความเข้าใจผิดระหว่างแฟน ๆ กับผมมากกว่า แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น มันได้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น" กรานิต ชาก้า กล่าวกับ Blick
"คุณสามารถเรียนรู้กับเรื่องราวเหล่านี้ได้ มันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น และสุดท้ายผมก็สามารถก้าวเท้าออกจากที่นี่ (อาร์เซนอล) ไปด้วยเสียงปรบมือ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ ผมมั่นใจว่าผมจะยังคงก่อความผิดพลาดให้กับทีมอยู่ แต่มันคือสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่เสมอ และแน่นอนว่ามันจะเกิดขึ้นน้อยกว่าเมื่อก่อน"
ปัจจุบัน กรานิต ชาก้า ได้ย้ายจากอาร์เซนอล ไปร่วมทีมกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในบุนเดสลีก้า ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร เซ็นสัญญาถึงปี 2028