บริษัทไทยลีกได้ประกาศสโมสรที่ผ่านการประเมินคลับ ไลเซนซิ่ง ในระดับลงเล่นในไทยลีก 1 ปรากฏว่าประเด็นของสโมสรลำพูน วอริเออร์ถูกหยิบยกขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันสโมสรได้มีการผิดสัญญากับไทยลีกในเรื่องของการยื่นคลับ ไลเซนซิ่ง ที่สนามแม่กวง สเตเดี้ยม ที่เดิมต้องมีการยื่นให้เสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์แต่ทางไทยลีกไม่ได้รับจดหมายอธิบายเพิ่มเติม ดังนั้นสโมสรจึงจำเป็นที่จะต้องยื่นคลับ ไลเซนซิ่ง ให้ทันก่อนวันที่ 30 มิถุนายนโดยไม่มีเงื่อนไขของการเปลี่ยนสนามอีกต่อไปเนื่องจากเป็นการกระทำความผิดด้วยการไม่แจ้งกับไทยลีกในช่วงก่อนหน้านี้
“ในฤดูกาลที่ผ่านมา สโมสรลำพูน วอริเออร์ ผ่านใบอนุญาตสโมสรในระดับ Thai League 1 โดยมีเงื่อนไขในการปรับปรุง สนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน (แม่กวง) ให้แล้วเสร็จและให้ใช้ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เป็นสนามสำรองจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2565 แต่หลังจากนั้นสโมสรลำพูน วอริเออร์ ได้ส่งหนังสือขอขยายเวลาในการใช้สนามสำรองจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ทั้งนี้ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้อนุญาตเนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมและการแข่งขัน แต่เป็นการผิดเงื่อนไขในการพิจารณาใบอนุญาตสโมสรของคณะกรรมการพิจารณาออกใบอนุญาตสโมสร (FIB)
และในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งเข้าสู่การขอใบอนุญาตสโมสรในฤดูกาลหน้าแล้ว ไทยลีกได้จัดการประชุมนอกรอบชึ้แจงเรื่องเงื่อนไขและเงื่อนเวลาในเรื่องหลักเกณฑ์ด้านโครงสร้าง สำหรับสโมสรที่มีสิทธิลุ้นขึ้นชั้นระดับ Thai League 1
และในวันเดียวกันนั้นเอง คณะกรรมการพิจารณาออกใบอนุญาตสโมสร ได้ส่งจดหมายติดตามเงื่อนไขที่สโมสรแจ้งว่าจะทำการปรับปรุงสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ให้แล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากสโมสร ทั้งนี้สโมสรในหลักเกณฑ์ด้านโครงสร้างสนามหมดเขตส่งเอกสารวันที่ 31 มีนาคม 2566 สโมสรลำพูน วอริเออร์ ได้ยื่นสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน (แม่กวง) เป็นสนามการแข่งขันหลัก
ผลจากพิจารณา ระบุว่า สโมสรจะต้องส่งเอกสารรับรองค่าไฟส่องสว่างสนามแข่งขันที่ถูกต้องและครบถ้วนตามระเบียบหรือส่งเอกสารสัญญาการจัดซื้อการจัดซื้อจัดจ้างให้ครบถ้วนตามระเบียบ โดยต้องระบุระยะเวลาแล้วเสร็จและพร้อมใช้งานก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2566 พร้อมแผนดำเนินงานที่ระบุกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน รวมไปถึงการส่งแผนการเพิ่มที่นั่งผู้ชมในสนามการแข่งขันโดยสามารถแบ่งเป็นระยะการทำงานได้ชัดเจน พร้อมแผนการปรับปรุงที่ระบุกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ทั้งนี้ต้องมีการปรับปรุงตามแผนในระยะแรกของการปรับปรุงให้ปรากฏเห็นผลภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และสโมสรลำพูน วอริเออร์ ไม่มีสิทธิ์ส่งสนามสำรองได้ จะต้องทำการปรับปรุงสนามให้เสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น เนื่องจากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นควรให้มีบทลงโทษเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่สามารถปรับปรุงสนามหลักให้แล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้”
ทั้งนี้หากไม่ผ่านการประเมินมีโอกาสที่สโมสร จะไม่สามารถลงเล่นในระดับไทยลีกหนึ่งและถูกปรับตกชั้นลงไปเล่นในระดับที่ผ่านมาตรฐาน