News

ริตสึ โดอัน ชี้ ญี่ปุ่นเน้นครองบอลมากไป จนขาดการเข้าทำที่นำไปสู่โอกาสได้ประตู ในเกมพบอุรุกวัย, โคลอมเบีย

ริตสึ โดอัน ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่น วัย 24 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Number.Bunshun สื่อกีฬาชั้นนำของญี่ปุ่น เกี่ยวกับผลงานการเล่นของทีมชาติญี่ปุ่น ในเกมอุ่นเครื่องสองนัดล่าสุด ที่เสมอ อุรุกวัย 1-1 วันที่ 24 มีนาคม และแพ้ โคลอมเบีย 1-2 วันที่ 28 มีนาคม

 


โดยเขากล่าวว่า ในสองเกมดังกล่าว ญี่ปุ่นเน้นครองบอล พยายามจ่ายบอลกันแบบไม่กล้าเสี่ยงมากเกินไป จากการค่อย ๆ สร้างเกมรุกขึ้นไปในแดนของคู่แข่งอย่างช้า ๆ จนกลายเป็นว่าทีมทิ้งโอกาสไปหลายครั้งที่จะได้สร้างเกมรุกเร็ว เพื่อหวังทำประตู

อีกทั้งการเล่นแบบนี้ มันยังทำให้ตัวรุกริมเส้นที่มีความเร็วอย่าง คาโอรุ มิโตมะ และ จุนยะ อิโตะ ไม่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะการขึ้นเกมบุกของทีมที่ช้าและเน้นรัดกุมมากเกินไป

"ผมว่าเรา (ทีมชาติญี่ปุ่น) ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากสองเกมนี้ (เกมพบอุรุกวัยและโคลอมเบีย)" ริตสึ โดอัน กล่าวกับ Number.Bunshun

"ประตูของคาโอรุ (มิโตมะ) ในครึ่งแรกของเกมที่พบโคลอมเบีย นั้นวิเศษมาก แต่พอมองดูรูปเกมโดยรวม ดูเหมือนว่าคาโอรุ และ จุนยะ (อิโตะ) จะไม่สามารถแสดงศักยภาพของพวกเขาออกมาได้อย่างเต็มที่ เรามีผู้เล่นที่ดี แต่กลับไม่สามารถใช้งานพวกเขาได้ถึงขีดสุด เรายิงไม่ได้อีกหลังจากนั้น"

"ฟุตบอลไม่ใช่กีฬาที่จ่ายบอลอย่างเดียวแล้วจะชนะ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องทำประตู การทำประตูเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในเกมพบโคลอมเบีย เรากลับไม่กล้าที่จะจ่ายบอลเสี่ยง ๆ ให้ตัวรุกในแดนบน เรากลับหวงบอลมากเกินไป เน้นครองบอลมากเกินไป"

"เรามีตัวรุกริมเส้นดี ๆ อย่าง จุนยะ อิโตะ แต่กลับไม่ใช้ประโยชน์จากเขาในการสร้างโอกาสทำประตูเพิ่ม เรากลับจ่ายบอลคืนหลังแล้วค่อย ๆ สร้างเกมรุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ เราชนะเยอรมนีกับสเปนได้ในฟุตบอลโลก แต่หลังจากนั้นเราก็ยังพาทีมเก็บชัยชนะไมได้เลยแม้แต่เกมเดียว เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้อีกไม่ได้"

สำหรับ ริตสึ โดอัน เจ้าตัวติดทีมชาติญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ลงเล่นไป 36 นัด ยิงไปแล้ว 5 ประตู เป็นแข้งคนสำคัญที่ทำ 2 ประตู ในรอบแบ่งกลุ่ม ช่วยญี่ปุ่นตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ในฐานะแชมป์กลุ่ม E

Author

อิสรา อิ่มเจริญ

ชายผู้สนใจญี่ปุ่นเพียงเพราะได้ดูฟุตบอลเจลีก โปรดปรานข้าวไข่เจียวเป็นที่สุด

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1