Match of the Day ของช่อง BBC ถือเป็นรายการไฮไลต์ฟุตบอลที่อยู่คู่วงการฟุตบอลอังกฤษมานาน โดยปัจจุบันมี แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษเป็นพิธีกรหลัก ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับลินิเกอร์ กลายเป็นประเด็นดราม่าสุดเดือดของวงการสื่อฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นนั้นต้องย้อนความไปเมื่อวันอังคารที่ 7 มีนาคม เมื่อ ซูเอลล่า เบรเวอร์แมน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร จากพรรคอนุรักษ์นิยม เสนอนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่จะไม่ต้อนรับผู้ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมายเข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ลี้ภัยโดยการโดยสารเรือขนาดเล็กเข้ามาทางช่องแคบอังกฤษ
ลินิเกอร์ใช้ทวิตเตอร์โพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว พร้อมกับเปรียบเปรยว่า ไม่ต่างอะไรกับนโยบายของประเทศเยอรมนีในยุค 1930s ซึ่งคือยุคสมัยของพรรคนาซีนั่นเอง
หลังจากนั้นก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ เมื่อเบรเวอร์แมนกล่าวโจมตีลินิเกอร์ผ่านพอดแคสต์รายการ Political Thinking ของ BBC ว่า การนำบริบทของพรรคนาซีมาเปรียบนั้นถือว่าผิดฝาผิดตัว และเธอเองรู้ซึ้งถึงผลกระทบจากนโยบายของพรรคนาซีดี เพราะสามีของเธอเป็นชาวยิว แต่ถึงกระนั้น นักการเมืองขั้วตรงข้าม และองค์กรการกุศล ก็ต่อต้านนโยบายใหม่นี้ของรัฐบาลเช่นกัน
ขณะเดียวกัน BBC เรียกตัวลินิเกอร์เข้าพบ และขอร้องให้เขาออกมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และหยุดแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือมิเช่นนั้นก็ขอให้ถอนตัวออกจากรายการ Match of the Day ซึ่งลินิเกอร์ไม่ยอม โดยถือว่าเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทำให้ BBC สั่งถอดเขาออกจากรายการทันที จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะหาข้อสรุปได้
และเรื่องดังกล่าวกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะเหล่าพิธีกรคนอื่น ๆ ของรายการ ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตนักเตะอาชีพดีกรีทีมชาติอังกฤษ ไม่ว่าจะ อลัน เชียเรอร์, เอียน ไรท์, เจอร์เมน จีนาส, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ และ อเล็กซ์ สก็อตต์ ต่างพร้อมใจกันยืนยันว่า จะไม่เข้ารายการ Match of the Day เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกับลินิเกอร์
ไม่เพียงเท่านั้น เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรคนดังของอังกฤษ ยังพักจากการแซะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอวย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นการชั่วคราว เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างลินิเกอร์อีกด้วย
BBC ออกแถลงการณ์หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวว่า รายการ Match Of The Day จะยังคงออนแอร์ต่อไป โดยเน้นไปที่ไฮไลต์การแข่งขันเท่านั้น ไม่มีช่วงวิเคราะห์วิจารณ์เกม และจะไม่มีการถ่ายทำในสตูดิโอด้วย
ที่มา :
https://www.bbc.com/news/uk-64920557
https://www.bbc.com/news/live/entertainment-arts-64895316