Seiko คือสุดยอดแบรนด์นาฬิกาจากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความละเมียดละไมในการออกแบบและขั้นตอนการผลิต รวมถึงฟังค์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ล่าสุดซีรีส์ที่ทำให้โดนใจสาย Sport ดุดัน คงหนีไม่พ้น SEIKO PROSPEX BLACK SERIES LIMITED EDITION เจเนอเรชั่นใหม่ของปี 2022 ที่ทำให้สร้างกระแสความสนใจไปยังนักสะสมทั่วโลก
และนี่คือความยอดเยี่ยมและเรื่องราวของ Seiko Prospex “Black Series”
ทำไมต้องดำล้วน ?
Black Series เป็นการนำนาฬิกาดำน้ำที่อยู่ในกลุ่ม Prospex หรือ "นาฬิกาที่ถูกพัฒนาในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง" แค่ชื่อ Series ก็บอกจุดเด่นอย่างชัดเจนว่านี่จะเป็นนาฬิกาที่เน้นสีดำเป็นหลัก
นอกจากสีดำจะเป็นสีที่ยอดนิยมและได้เรื่องความสวยหรู แล้ว Seiko ตั้งใจจะทำซีรีส์นี้ให้เป็นสีดำโดยได้แรงบันดาลใจมาจากความหลงไหลในการดำน้ำ "ยามค่ำคืน" (Night dive) ซึ่งจะค้นพบวิถีแห่งความท้าทายไปกับประสบการณ์ใต้ทะเลที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการดำน้ำในตอนกลางวัน ความลึกลับ และความสวยงามของมหาสมุทรในช่วงเวลาที่มืดมิด จะทำให้คุณเห็นบางสิ่งที่สำคัญได้ชัดขึ้นกว่าที่เคย
คอนเซ็ปต์ของการออกแบบคือมีการเคลือบดำในแบบ Hard Black Coating เพื่อสะท้อนถึงความมืดและความเงียบของมหาสมุทรยามค่ำคืน และตัดกับเข็มนาทีสีส้ม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงไฟที่สาดส่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการดำน้ำในยามวิกาล
เมื่อคุณลงไปในทะเลลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืนเข็มนาทีสีส้มจะชัดเจนขึ้นมา ท่ามกลางความมืดมิด SEIKO PROSPEX BLACK SERIES LIMITED EDITION เรือนนี้จะโดดเด่นเหมือนกับอัญมณีกลางทะเลลึกเลยทีเดียว
การใช้สีดำทำให้รายละเอียดต่าง ๆ ของตัวเรือนโดดเด่นชัดเจนขึ้นมา นอกจากเข็มนาฬิกาแล้ว ยังมีการเคลือบสารเรืองแสง ‘LumiBrite’ (ลูมิไบรต์) ที่เปล่งแสงสีเขียวสดไว้เป็นจุดกลม ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เพื่อให้อ่านค่าได้ชัดเจนแม้ในที่มืดสนิท
เมื่อสีทั้งสองเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนในพื้นที่ดำมืด มันยิ่งให้คุณรู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นผู้กล้าที่ลงไปในทะเลลึก ไม่ว่าจะมืดมิดแค่ไหนแสงสว่างของ SEIKO PROSPEX BLACK SERIES LIMITED EDITION จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
เข้ม ทนทาน
นอกจากการออกแบบเรื่องสีของตัวเรือนและรายละเอียดต่าง ๆ แล้ว SEIKO PROSPEX BLACK SERIES LIMITED EDITION สามารถให้ความทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย
ตัวเรือนกระจกเป็นคริสตัลแซพไฟร์ที่เคลือบด้วยสารกันแสงสะท้อน ต่อให้คุณไม่ต้องดำลงไปในน้ำลึกและเดินกลางแดดจ้า ตัวเรือนก็จะแสดงเวลาอย่างชัดเจนไม่ต่างกัน
ตัวของสายรัดนั้นเป็นสายผ้าโพลีเอสเตอร์ที่ทอด้วยเทคนิคฉบับญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘Seichu’ (เซชู) จุดเด่นของสายนาฬิกาเซชูนั้นคือจะมีความแข็งแรงทนทานต่อการเสื่อมสภาพที่เกิดจากการโดนแสงเป็นเวลานาน แห้งเร็วและลดความอับชื้นซึ่งเป็นไปตามความต้องการในมาตรฐานสูงสุดของนาฬิกาดำน้ำ Seiko Prospex
นอกจากสายผ้าโพลิเอสเตอร์เเล้ว ยังมีสายที่ทำมาจากซิลิโคนไว้ให้คอยสับเปลี่ยน ให้เหมาะกับการใช้การและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำ
ในส่วนเรื่องของการกักเก็บพลังงาน SEIKO PROSPEX BLACK SERIES LIMITED EDITION เคลื่อนด้วยเครื่อง ‘In-house’ (อินเฮาส์) อัตโนมัติ Cal.6R35 กักเก็บพลังงานได้ 70 ชั่วโมง ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง อัตราความเที่ยงตรง +25 ถึง -15 วินาที/วัน จำนวนทับทิม 24 ชิ้น บอกเวลา 3 เข็ม
ต่อยอดจากตำนาน
เดิมที Seiko Black Series นั้นมีการวางขายมาเเล้วทั้งหมด 3 เจเนอเรชั่น ตั้งแต่ปี 2018, 2020 และ 2021 ซึ่งก็ประสบความสำเร็จกลายเป็นไอเท็มที่นักสะสมต่างก็ต้องมีไว้กับตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดเจเนอเรชั่นล่าสุดซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่เรากล่าวไปในข้างต้นจะออกมาวางขายในเดือนมีนาคม ปี 2022 นี้
โดยในเจเนอเรชั่นที่ 4 นี้ มีทั้งหมด 4 รุ่นที่วางจำหน่ายเป็นสองส่วน ได้แก่รุ่นที่สืบทอดดีไซน์มาจากเรือนดำน้ำ 3 รุ่นจาก ค.ศ. 1965, 1968 และ 1970 ที่ขับเคลื่อนด้วยชุดกลไกอัตโนมัติ Cal.6R35 ได้แก่รุ่น "SPB253J1" mechanical diver's จากรุ่นดั้งเดิมในปี 1965
นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของญี่ปุ่น ที่เปิดตัวในปี 1965 นาฬิกาได้รับการพิสูจน์ถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อนำไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนของทวีปแอนตาร์กติกาในช่วงทศวรรษ 1960 การนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่นี้สืบทอดมรดกในเชิงการออกแบบ แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Prospex (พรอสเป็กซ์) ในปัจจุบัน นาฬิกาเรือนนี้เหมาะกับการสวมใส่ใช้งานในทุกวันด้วยรูปทรงเพรียวบางและตัวเรือนที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำที่มีจุดเด่นด้านการสะท้อนความสวยงามและละเมียดละไมในขั้นตลอดการผลิตแบบ Seiko โดยจะผลิตออกมาที่จำนวน 5,500 เรือนทั่วโลกเท่านั้น
รุ่นที่ 2 ของเจเนอเรชั่น 2022 ได้แก่ "SPB255J" รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจากตำนานนาฬิกาดำน้ำแบบ Hi-Beat รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1968 ด้วยความสามารถกันน้ำได้ 300 เมตรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกลไกอัตโนมัติความถี่ 10 บีท ในขณะที่ยังคงดีไซน์เฉียบคมและทรงพลังของรุ่นดั้งเดิมไว้ แต่ให้ความสบายและพอดีกับข้อมือด้วยตัวเรือนที่เล็กลงในขนาด 42 มิลลิเมตรโดยในส่วนของรุ่นนี้จะผลิตออกมา 5,500 เรือนทั่วโลก
รุ่นที่ 3 ได้แก่ "SPB257J1" mechanical diver's จากรุ่นดั้งเดิมในปี 1970
นาฬิกาดำน้ำที่มีรูปทรงเพรียวบางอันเปี่ยมเอกลักษณ์ ที่ได้รับการใช้งานโดยนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงชาวญี่ปุ่น Naomi Uemura (นาโอมิ อูเอมูระ) ในระหว่างปี 1974 - 1976 ที่ใช้ในการเดินทางด้วยสุนัขลากเลื่อนแบบโซโลเป็นระยะทาง 12,500 กิโลเมตรจาก กรีนแลนด์สู่อลาสก้า ซึ่งพิสูจน์ความน่าเชื่อถือท่ามกลางสภาวะที่หฤโหด ในขณะที่ยังคงรูปแบบตัวเรือนของรุ่นดั้งเดิมไว้ หากเพิ่มความสามารถกันน้ำจาก 150 เมตร เป็น 200 เมตร และวัสดุกระจกได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นกระจกแซฟไฟร์ กลายเป็นรุ่นยอดนิยมและตำนานของ Seiko โดยที่รุ่นนี้ผลิตออกมา 5,500 เรือนทั่วโลกเช่นเดียวกัน
และรุ่นท้อปของเจเนอเรชั่นนี้อย่าง SLA061J/SBDX051 ที่มีลวดลายของหน้าปัดสื่อถึงพื้นทรายใต้ทะเล เข็มวินาทีสีส้มเพิ่มความละเอียดอ่อนและสะท้อนถึงความเงียบสงัด เป็นการนำตัว Captain Willard มา Re-Issue นาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1970 เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ทั่วโลกมายาวนานจากคุณสมบัติเฉพาะในด้านความทนทาน และการออกแบบตัวเรือนที่ลื่นไหลพร้อมส่วนต่อขยายแบบอสมมาตรของบ่าปกป้องเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา กระจกเป็นกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โค้งเคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน ส่วนด้านข้างตัวเรือนได้รับการขัดเงาอย่างประณีต และประกอบสายนาฬิกาสตีลดีไซน์ 5 แถว เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่เฉียบคมทันสมัยที่จะผลิตออกมาเพียง 1,000 เรือนทั่วโลก และมีเพียง 12 เรือนในประเทศไทย
หากการดำน้ำในเวลากลางคืนคือหนึ่งในกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมและเหมือนเป็นการเดินทางเข้าไปสู่โลกที่แตกต่างอีกใบ The Black Series ของ Seiko คงเป็นเหมือนเครื่องช่วยเดินทางข้ามไปยังโลกที่มืดมิดที่รอให้คุณเข้าไปสร้างแสงสว่าง
โดดเด่นในท้องทะเล เข้มและสุขุมในการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดนี้คือความยอดเยี่ยมที่ Seiko พร้อมส่งมอบ The Black Series ให้เป็นหนึ่งในนาฬิกาคู่ใจคุณ ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง
รายละเอียดเพิ่มเติม :
Website : https://www.seikowatches.com/th-th/products/prospex/special/blackseries_limited-2nd/
Facebook : SeikoThailandOfficial
Instagram : seiko_Thailand
Line : @Seiko_Thailand
Twitter : SeikoThailand
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-2551245-50 Ext. 888