ว่าด้วยเรื่องของการ "ไดเอต" หรือการควบคุมโภชนาการที่มีให้เลือกทำด้วยกันหลายวิธีสำหรับคนรักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลดแป้ง ลดน้ำตาล ตลอดจนการหันมารับประทานอาหารธัญพืชมากขึ้น ต่างก็เป็นวิธีที่มีข้อดีและความยากต่างกันไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังมองหาผลลัพธ์แบบไหนในการดูแลร่างกาย
แน่นอนว่าเรื่องของการปรับเปลี่ยนโภชนาการในแต่ละครั้ง และเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความอดทนและความสม่ำเสมอ ยิ่งนานวันเข้าเราก็อาจจะเริ่มเบื่อกับวิธีเดิม ๆ จนต้องคอยมองหาการไดเอตที่ไม่น่าเบื่อมาทำสลับกันต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งวันนี้อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเพิ่งจะมีการเปิดเผยโดยนักวิจัยจากประเทศนอร์เวย์ ที่เราอยากนำมาเสนอก็คือ "การไดเอตด้วยการรับประทานอาหารจากพืช" เป็นหลัก
Plant-Based Diet หรือการ "เน้น" รับประทานพืชแทนเนื้อ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากรูปแบบการรับประทานอาหารเช่นนี้จะช่วยลดปริมาณการสิ้นเปลืองเนื้อสัตว์แล้ว อาหารเหล่านี้ยังมีประโยชน์ มีสารอาหารแทบจะครบถ้วน จนเกิดเป็นทางเลือกในการรับประทาน "พืช" ที่มากขึ้นในปัจจุบัน อย่างผลิตภัณฑ์เนื้อเทียม Plant-Based ที่มีรสชาติอร่อยใกล้เคียงกับเนื้อจริง หนำซ้ำจากการวิจัยล่าสุดยังพบว่า การไดเอตด้วยการรับประทานพืชเป็นหลักมีแนวโน้มที่จะยืดอายุขัยเราได้มากสุดถึง 10 ปี
Plant-Based Diet เป็นอย่างไร? ประกอบด้วยอาหารจำพวกไหนและมีวิธีการอย่างไร ? ติดตามได้ใน Main Stand
พืชผักเป็นหลัก เนื้อสัตว์เป็นรอง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2022 ได้มีการเปิดเผยงานวิจัยชื่อ "Estimating impact of food choices on life expectancy: A modeling study" ผ่านวารสาร PLOS Media จากมหาวิทยาลัยเบอร์เกน ในประเทศนอร์เวย์ ว่าการเปลี่ยนการไดเอตจากเวสเทิร์นไดเอต มาไดเอตด้วยอาหาร Plant-Based สามารถช่วยยืดอายุของเราได้ ไม่ว่าเราจะเริ่มเร็วหรือเริ่มช้าก็ได้ผล เรื่องนี้มีที่มาอย่างไร ?
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าคำว่า "ไดเอต" จริง ๆ แล้วสามารถทำหน้าที่เป็นคำนามที่มีความหมายว่า "อาหาร" หรือ "โภชนาการ" ได้เช่นกัน นอกเหนือจากคำกริยาที่แปลว่า "การควบคุมอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก" และการไดเอตแบบเวสเทิร์นที่ว่านี้คือโภชนาการแบบตะวันตกที่จะเน้นการบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากนมเป็นหลัก และบริโภคพืชหรือสารอาหารจำพวกไฟเบอร์เป็นรอง
Plant-Based Diet จึงเป็นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยการ "ลด" เนื้อสัตว์แล้วหันมากินพืชเป็นหลัก สลับกันจากที่เคยกินเนื้อสัตว์เป็นหลัก โดยเน้นอาหารจำพวกผัก ธัญพืช เมล็ดพืช ถั่ว และผลไม้ กล่าวคือเป็นการรับประทานผัก 95% ส่วนอีก 5% เป็นทางเลือกว่าจะกินหรือไม่กินเนื้อก็ได้
อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารแบบ Plant-Based Diet ก็ไม่ได้ฮาร์ดคอร์หรือมีความยากอย่างการไดเอตแบบ "วีแกน" (Vegan Diet) ที่จะไม่มีการรับประทานเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากสัตว์ทุกประเภทเลย รวมถึงการไดเอตแบบมังสวิรัติ (Vegetarian Diet) ที่เคร่งครัดน้อยลงมากว่าวีแกนที่งดเว้นเนื้อสัตว์ แต่ยังสามารถรับประทานไข่และนมได้ แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท
การรับประทานอาหารแบบ Plant-Based Diet จึงเป็นวิธีที่มีตัวเลือกค่อนข้างมากและยืดหยุ่นกว่า หากเทียบกับ 2 วิธีที่กล่าวมา แนวทางการรับประทานอาหารเช่นนี้จึงได้รับความสนใจขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดว่ามีงานวิจัยออกมาแล้วว่ามันมีประโยชน์และมีแนวโน้มที่จะช่วยยืดอายุขัยของเราได้ด้วย
10 เต็มที่ 3 ปีอย่างต่ำ
นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยการสร้างแบบจำลองจากคอมพิวเตอร์ขึ้นมา และได้นำข้อมูลจาก Global Burden of Disease Study (GBD) หรือฐานข้อมูลโครงการวิจัยเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บของผู้คนทั่วโลกมาลองคาดการณ์อายุขัยของผู้คนว่า หากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยหันมากินพืชเป็นหลักจะเกิดอะไรขึ้น
จากการศึกษาขั้นต้นพบว่า หากคนช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเริ่มปรับพฤติกรรมการกิน โดยการเปลี่ยนมารับประทานอาหารจำพวกไฟเบอร์เป็นหลัก วัยรุ่นเพศชายสามารถยืดอายุได้มากถึง 13 ปี และวัยรุ่นเพศหญิงได้มากถึง 11 ปี ในขณะที่คนช่วงอายุ 60 ปี อาจยืดอายุขัยตัวเองได้มากถึง 8 ปี แม้กระทั่งคนในช่วงอายุ 80 ปี ก็อาจยืดอายุขัยได้มากถึง 3 ปี หากเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
แบบจำลองดังกล่าวได้มีการเปิดให้ใช้แบบออนไลน์ในชื่อ Food4HealthyLife โดยเราสามารถเข้าไปเลือกคำนวณได้ว่าจะเลือกบริโภคอาหารประเภทใดบ้างหรือบริโภคในปริมาณเท่าไรอย่างละเอียด
ความน่าสนใจของงานวิจัยดังกล่าวคือ การปรับพฤติกรรมการกินที่หันมารับประทานอาหารแบบ Plant-Based Diet นั้น ไม่เคยมีข้อจำกัดทางด้านเวลาว่าควรจะเริ่มต้นเมื่อใดหรือช่วงอายุเท่าไร เราสามารถเริ่มทำตอนช่วงอายุใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการวิจัยดังกล่าวพบว่า ยิ่งเริ่มเร็วก็อาจจะยิ่งได้ผลเร็วกว่า โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมและอาจได้ผลมากที่สุดคือช่วงอายุ 20 ปี
แต่การปรับพฤติกรรมการกินในวัย 20 ปี เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายจริงหรือ ?
วิธีใหม่ที่อาจไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด
ถึงผลลัพธ์จากการคาดการณ์โดยประมาณจะน่าดึงดูด แต่การปรับพฤติกรรมการกินที่ว่าก็อาจจะไม่ได้ง่ายสักเท่าไหร่ เพราะจากคำอธิบายของ "ดอกเตอร์ เดนีน ฟรูจ" ผู้อำนวยการศูนย์อายุวัฒนะพริทิกิน ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ได้มีการอธิบายเอาไว้ว่าในวัฒนธรรมสมัยใหม่ ยิ่งผู้คนมีอายุมากขึ้นเท่าใดพวกเขาก็จะรู้สึกว่าสามารถให้อิสระกับการกินของตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น
เรื่องนี้สวนทางกันกับพฤติกรรมการกินที่ควรจะเป็น เพราะการรับประทานอาหารโดยเน้นให้ความสำคัญกับสารอาหารที่มีประโยชน์เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีอายุเพิ่มขึ้น นี่จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายประมาณหนึ่งสำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน แล้วหันมากิน "อาหารที่มีประโยชน์" แทน "อาหารที่อยากจะกิน"
แม้จะฟังดูทำได้ยาก แต่การไดเอตแบบ Plant-Based ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงแบบเคร่งครัดในทันที เราอาจจะเริ่มต้นจากการเพิ่มสัดส่วนปริมาณผักในจานให้มากกว่าเนื้อสัตว์ หรือเริ่มต้นหาเมนูผักที่ถูกปากกินก่อนก็ได้ หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับลดปริมาณของเนื้อสัตว์ลง จนในที่สุดมันอาจเป็นความคุ้นชินที่จะไม่มีเนื้อสัตว์บนจานของเราได้ในที่สุด
นอกจากนี้ในปัจจุบันเรายังมีทางเลือกเพิ่มเติมอย่าง Plant-Based Food หรือเนื้อสัตว์เทียมที่ทำมาจากพืชให้เลือกกินมากขึ้น เป็นการเพิ่มความหลากหลายให้แก่เมนูอาหารที่จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป บางครั้ง Plant-Based Diet จึงอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดก็เป็นได้
อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงงานวิจัยที่อาศัยการคำนวณและการคาดการณ์เท่านั้น การจะรู้ว่าวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีจริงหรือไม่ มีเพียงเราเท่านั้นที่ต้องลองเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อมให้ผลลัพธ์เรื่องสุขภาพที่ดีกว่าอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
https://journals.plos.org/plosmedicine/article?id=10.1371/journal.pmed.1003889#sec009
https://vegnews.com/2022/2/plant-based-diet-add-10-years-life
https://www.goodmorningamerica.com/wellness/story/eating-plant-based-diet-add-years-life-study-82769627
https://www.greenery.org/greenerycontest-2021/
https://www.healthline.com/health-news/how-switching-to-a-plant-based-diet-can-add-years-to-your-life-no-matter-what-age-you-are#Tips-for-switching-diets
MainStand,Main Stand,mainstand th,เมนสแตนด์,Feature,สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน,