เหมือนของแท้ทุกจุด, งานมิร์เรอร์ระดับ AAA หรือจะคำว่าอะไรก็แล้วแต่ ล้วนเป็นคำอธิบายถึงสินค้าผิดลิขสิทธิ์ที่พยายามจะทำให้เหมือนของจริง ซึ่งปลายทางคือการพยายามจะทำให้เหมือนต้นตำรับฉบับถูกลิขสิทธิ์มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าไม่ลังเลที่จะควักเงินซื้อไปสวมใส่หรือใช้งาน
อย่างไรก็ตามมีบางประเภทที่ยากจะเข้าใจ เสื้อก็อปบางตัวผลิตออกมาได้ฉีกแหวกแนวสุด ๆ ชนิดที่ว่าแค่เห็นก็รู้ว่าของปลอม และวันนี้เราจะลองมารวบรวมกันดูว่าหากเอาเสื้อปลอมที่ปลอมที่สุดมาจัดอันดับกัน ... เสื้อปีไหน กับทีมไหน จะดูปลอมห่างกันคนละโลกกับความเป็นจริงมากที่สุด
ลิเวอร์พูล ชุดเยือน 2012-13
ลิเวอร์พูลเคยมีสีม่วงบนชุด 3 ครั้ง คือในฤดูกาล 2012-13 เป็นชุดเยือน และในฤดูกาล 2013-14 เป็นชุดที่สาม ก่อนที่จะใช้สีม่วงอีกครั้งในฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะชุดของปีไหน ความรีบของตลาดเสื้อบอลก็ไม่เคยปราณีใคร เพราะแค่มีข่าวว่า "ปีนี้จะทำชุดเยือนสีม่วง" พร้อมรูปหลุดมาไม่กี่ใบ ก็ปรากฎเสื้อปลอมออกมาอวดโฉมวางขายในอินเตอร์เน็ตทันที ...
โดยเฉพาะเสื้อรุ่นฤดูกาล 2012-13 ที่มีจุดเด่นตรงสีขาวที่แขนทั้ง 2 ข้างจะมีลายกราฟฟิกนั้น กลุ่มผลิตเสื้อปลอมจัดการมโนลายกราฟฟิกเองขึ้นมาล้วน ๆ โดยใช้ลักษณะเหมือนกับลายสักของชนเผ่าเมารี อีกทั้งยังออกกางเกงมาเป็นสีส้มมัสตาร์ด ทั้งที่จริง ๆ แล้วกางเกงนั้นเป็นสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีเดียวกับเสื้อต่างหาก
แม้ช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่นิยมทำเสื้อแบบย้อนยุค ทว่าการ "ปลอม" ออกมาแบบไม่รอดูต้นทางก่อนก็เป็นอะไรที่ต้องยอมใจผู้ผลิตสุด ๆ เดิมพันได้เลยว่าเขาคนนั้นจะต้องได้กาวที่ดีแน่นอน
แมนฯ ซิตี้ ชุดที่สาม 2013-14
ใช้คำว่า "ไปกันคนละทิศละทาง" คงจะเป็นอะไรที่เหมาะที่สุดกับชุดที่สาม ของ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2013-14 ชุดนี้ ...
ในฤดูกาลดังกล่าว เรือใบสีฟ้า ออกเสื้อมาแล้ว 2 แบบคือชุดเหย้าที่เป็นสีฟ้าสีประจำของพวกเขา กับชุดเยือนคือสีดำที่ทำเป็นทูโทนกับสีเทา และสำหรับชุดที่สามที่ออกมาหลังสุดนั้นเป็นชุดสีขาวแต่จะมีสีฟ้ากับสีน้ำเงินเข้มพาดลงมาจากไหล่ซ้าย
"ขาว-ฟ้า-น้ำเงินเข้ม" คือคำใบ้แรกที่ทีมผลิตชุดปลอมทั่วโลกเอาไปขยายความและคาดเดากันต่อ และผลที่ออกมาคือ "สีครบ ตรงกันหมด" แต่การจัดวางเรียกได้ว่าผิดตั้งแต่กระดุมเม็ดแรกเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเลือกที่จะวางแถบสี น้ำเงินเข้ม ขาว ฟ้า เป็นแถบใหญ่ต่อกันเป็นขนมชั้น ซึ่งความจริงมันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้อยู่แล้ว หากคิดกันสักหน่อยจะพบว่ามันเหมือนกับชุดเหย้ามากจนไม่อาจจะใส่แทนกันได้เลยทีเดียว ... ดูก็รู้ว่ารีบจริง ๆ สำหรับเสื้อตัวนี้
เชลซี ชุดเหย้า 2011-12
ความจริงแล้วเสื้อเหย้าฤดูกาล 2011-12 เป็นเสื้อที่มีความหมายในความทรงจำของแฟนเชลซีเป็นอย่างมาก เพราะในปีดังกล่าวพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาคงจะโกรธมากหากได้เห็นเสื้อปลอมชุดนี้ ...
จะให้ไม่โกรธอย่างไรไหว เพราะนี่คือนิยามของคำว่า "นอกจากสีตรงไหนก็ไม่เหมือน" อย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเด่น 3 แถบของ อาดิดาส ที่ถูกเพิ่มเป็น 4 แถบ (!) ขณะที่โลโก้รูปสิงโตยังโดนเปลี่ยนไปลูกฟุตบอลและใช้ชื่อสโมสรว่า "Team Chelsea" แทน ... หนักว่านั้นคือการจับโลโก้ดังกล่าวไปแปะแทนอาร์มศึกแชมเปียนส์ลีกอีกต่างหาก
แบบนี้ไม่เกี่ยวกับรีบไม่รีบแล้ว บางทีก็ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าพวกเขาตั้งใจจะทำให้มันออกมาเป็นกระแสหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้
อาร์เซนอล ชุดที่สาม 2014-15
อาร์เซนอล เปิดตัวชุดแข่งขันสำหรับฤดูกาล 2014-15 ซึ่งเป็นปีแรกที่ใช้ชุดจาก พูม่า ทีเดียวพร้อมกัน 2 ชุด (เหย้า - แดงแขนขาว, เยือน - เหลืองแขนน้ำเงิน) และเหมือนกับเช่นทุกทีมที่มักจะปล่อยทีเด็ดชุดที่สามออกมาภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันยิ่งออกช้า โอกาสที่จะทำให้เหมือนก็ย่อมมีมากขึ้น เมื่อทีมงานสายก็อปน่าจะมีโอกาสสืบข้อมูลก่อน
แต่ทันทีที่เสื้อปลอมของชุดที่สามหลุดมา กลับกลายเป็นความปวดตับเพราะมันเพี้ยนไปเสียทุกอย่าง ตั้งแต่สีที่ของแท้เป็นสีฟ้า-น้ำเงิน แต่ของปลอมนั้นจัดเต็มด้วยสีทองมันวาว แถมยังมีรูปปืนใหญ่โบราณเป็นลายกราฟฟิกกลางเสื้ออีกต่างหาก ... จริง ๆ แล้วเรียกว่าเสื้อทำมาใส่เองเล่น ๆ ก็ยังได้หากคิดจะแหวกขนาดนี้
บาร์เซโลน่า ชุดที่สาม 2008-09
ฤดูกาล 2008-09 เป็นฤดูกาลที่ บาร์เซโลน่า มีนักเตะชื่อดังล้นทีม โดยเฉพาะแนวรุกที่มีทั้ง ซามูเอล เอโต้, เธียร์รี่ อองรี และ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งนอกจากนักเตะแล้วชุดที่สามของพวกเขาก็น่าจดจำไม่น้อยเพราะเป็นชุดที่พวกเขาใส่แข่งกับ เชลซี ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศก่อนที่ อันเดรส อิเนียสต้า จะยิงประตูระดับตำนานพาทีมเข้าชิงและกลายเป็นแชมป์ในบั้นปลาย
อย่างไรก็ตามเสื้อแข่งปลอมชุดนี้ดูจะทำร้ายหัวใจแฟน ๆ ของ บาร์ซ่า ไปไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะผู้ผลิตวางดีไซน์ออกมาชนิดที่ว่าคนละแบบและไร้กลิ่นอายของ บาร์เซโลน่า อย่างแท้จริง ที่หนักสุดคือการวางแถบสีดำเป็นแนวขวางจนเต็มเสื้อซึ่ง บาร์ซ่า ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน (ในอดีตกาล) ... มอง ๆ ไปแล้วเหมือนเสื้อ วัตฟอร์ด เสียมากกว่า หากปิดโลโก้เชื่อว่าคงยากที่จะมีใครทายถูกแน่นอน
ทีมชาติอังกฤษ เหย้า 2007-09
ทีมชาติอังกฤษไม่ได้ไปแข่งขันในยูโร 2008 ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเลวร้ายของแฟนบอลเมืองผู้ดีแล้ว แต่เทียบกับเสื้อปลอมชุดนี้ก็คงต้องยอมรับว่า "เลวร้ายไม่แพ้กัน" เลยจริง ๆ
ปกติแล้วอังกฤษจะไม่ได้ออกแบบชุดเหย้าให้มีสีแดงโดดเด่นอะไรนัก แต่ในปี 2007 พวกเขาเพิ่มขลิบสีแดงบริเวณไหล่ทั้ง 2 ข้างออกมาเล็กน้อยและมันดูดีเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นนักเตะอย่าง เดวิด เบ็คแฮม สวมใส่มัน
ทว่าเสื้อปลอมชุดนี้ทำร้ายจิตใจกันเกินไป เพราะผู้ผลิตจัดสีแดงใส่เสียเต็มแขน นอกจากนี้โลโก้ทีมชาติและโลโก้แบรนด์อัมโบรก็ทำออกมาใหญ่ผิดขนาดไปเยอะ ... ถ้าหากจะพอให้อภัยได้คือการไม่ลืมใส่ดาวแชมป์โลก 1 สมัยไว้ที่แขน ถึงแม้ว่าความจริงควรจะใส่บริเวณโลโก้ทีมก็เถอะ
เชลซี ผู้รักษาประตู 2010-11
ปีเตอร์ เช็ค จะต้องไม่ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน เพราะเดิมทีเขาเป็นคนที่ใส่เสื้อโกลแขนยาวได้เท่มาก ๆ แต่สำหรับเสื้อปลอมที่พยายามทำเลียนแบบนั้นดูโหดร้ายกับเขาเหลือเกิน เพราะนอกจากจะใส่กราฟฟิกเข้ามาเสียมั่วซั่วแล้ว ลายเซ็น 3 แถบของ อาดิดาส ก็ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนไม่ต่อกัน ในแบบที่ไม่เหมือนกับที่เคยใช้จริงอีกต่างหาก
แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็ยังมีโทนสีเข้ม ๆ ที่คล้ายของจริงอยู่บ้าง และยังถือว่าไม่เลวร้ายนักหากเทียบกับ เชลซี ชุดเหย้า 2011-12 ที่เราได้เสนอไปในก่อนหน้านี้
แมนฯ ยูไนเต็ด เหย้า 2012-13
นี่คือซีซั่นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุด และยังเป็นปีสุดท้ายในการทำงานของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฐานะผู้จัดการทีมอีกด้วย ดังนั้นชุดแข่งตราหมากรุก ซึ่งอันที่จริงมาจากลายผ้า "กิงแฮม" ของดีประจำเมืองในอดีตที่ใช้แข่งในปีนั้นจึงถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ลายผ้าอันโดดเด่นถูกนำมาขยี้ซะเสียทรงจากกลุ่มผู้ผลิตเสื้อปลอม ที่ทำตารางมาซะเข้มปรี๊ด แถมยังทำตารางมันทั้งตัวอีกด้วย และร้ายที่สุดคือการติดอาร์มทองสำหรับแชมป์พรีเมียร์ลีกพร้อมสรรพ แสดงให้เห็นว่าเสื้อตัวนี้ "น่าจะ" ผลิตหลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (หรือไม่งั้นก็ทำเจิมล่วงหน้า)
จะบอกว่ามีเวลาเตรียมการนานหรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่สุดท้ายแล้วการเลียนแบบเสื้อแชมป์ออกมาให้คล้ายกับผ้าปูโต๊ะได้ขนาดนี้ ก็คงต้องบอกว่ายอมใจกันไปเลยดีกว่า
แมนฯ ยูไนเต็ด เหย้า 2014-15
2014-15 เป็นปีแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนสปอนเซอร์มาเป็น "เชฟโรเล็ต" ซึ่งแม้กระทั่งเสื้อแท้ยังมีการคุยกันในกลุ่มของแฟนผีว่าโลโก้รถยนต์ "เชฟวี่" จากแดนมะกันนั้นดูจะใหญ่จนขโมยซีนองค์ประกอบอื่น ๆ จนหมดเกลี้ยง
แต่เชื่อเถอะ นั่นไม่ได้แย่เท่าไรนักหากคุณยังไม่ได้เห็นเสื้อปลอมตัวนี้ เพราะการนอกจากโลโก้สปอนเซอร์จะใหญ่กว่าของแท้แล้ว ยังลงสีผิดอีกต่างหาก (ของแท้ต้องสีทอง) นอกจากนี้ขลิบที่แขนและกระดุมคอก็ยังแถบดำขนาดใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ของจริงมีสีดำเพียงนิดเดียวเท่านั้น
บาร์เซโลนา ชุดที่สาม 2016-17
สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดในชุดที่สามแบบปลอมชุดนี้คือ "มันไม่มีอะไรใกล้เคียงความจริงแม้แต่น้อย" ที่สำคัญคือดันทำมา "ผิดสโมสร" อีกต่างหาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นเบสต์ออฟเดอะเบสต์ของเสื้อปลอม
ปีนั้น บาร์เซโลน่า ออกชุดเยือนมา 2 แบบ มีสีม่วงเข้ม และสีเขียวที่เป็นชุดที่สาม ขณะที่ของปลอมที่เราเอามาให้ชมกันเป็นชุดสีขาวและมีกากบาทสีแดงตรงกลางตัว ซึ่งอยากจะบอกจริง ๆ ว่า นั่นมันของ อินเตอร์ ในฤดูกาล 2007-08 ต่างหาก ... ดังนั้นเราไม่มีทางเดาเจตนาถูกเลยว่าคนผลิตนั้นคิดอะไรอยู่ หรือจริง ๆ แล้วพวกเขาแค่ติดโลโก้สโมสรผิดเท่านั้น
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยจริง ๆ
แหล่งอ้างอิง
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/hideous-liverpool-purple-and-yellow-kit-888504
https://talksport.com/uncategorized/137234/shocking-fake-kits-liverpool-man-united-arsenal-chelsea-and-spurs-170733/
https://talksport.com/football/46540/top-10-shocking-fake-football-kits-ranked-featuring-man-united-liverpool-chelsea-and/
https://www.youtube.com/watch?v=kY6YlzCCwtI