Feature

เศรษฐศาสตร์ของกอล์ฟ : ทำไมเงินรางวัลสูงกว่ากีฬาประเภทเดี่ยวอื่นหลายเท่า? | Main Stand

กอล์ฟคือกีฬาที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลก ทั้งที่จำนวนผู้ชมอาจไม่มากเท่าเทนนิสหรือแบดมินตัน? ตัวอย่างเช่น รายการใน PGA Tour และ LIV Golf มีเงินรางวัลรวมระดับ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปหลายรายการ โดยรายการที่เงินรางวัลสูงสุดประจำปี แชมป์ได้คนเดียว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ส่วน LPGA Tour ของฝ่ายหญิง เงินรางวัลรวมเฉลี่ยมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อรายการ โดยรายการที่เงินรางวัลสูงสุดประจำปี แชมป์ได้คนเดียว 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่เทนนิสระดับแกรนด์สแลม ให้เงินรางวัลแก่แชมป์ประเภทเดี่ยวมากสุดแค่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแบดมินตัน BWF World Tour Finals ให้เงินรางวัลสำหรับแชมป์ประเภทเดี่ยวเพียง 240,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ทำไม "ตัวเลข" ของกอล์ฟถึงสูงลิ่วขนาดนี้?

Main Stand จะพาไปสำรวจเรื่องราวทางเศรษฐศาสตร์ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ และโครงสร้างรายได้ที่ทำให้กอล์ฟเป็นกีฬาที่ "รวยที่สุดในโลก" แบบที่กีฬาประเภทเดี่ยวอื่น ๆ เทียบได้ยาก

 

จุดกำเนิดก่อให้เกิดความแตกต่าง

หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 15–16 "กอล์ฟ" ถูกบันทึกว่าเริ่มจากสกอตแลนด์ และในเวลานั้นมันไม่ใช่กีฬามหาชน แต่เป็นกิจกรรมของชนชั้นสูง ขุนนาง และผู้มีฐานะในสังคม ต้นทุนของการเล่นกอล์ฟในยุคนั้นสูงมาก ทั้งค่าพื้นที่สนาม (สนามกอล์ฟต้องมีขนาดใหญ่ เพราะมีถึง 18 หลุม), ค่าอุปกรณ์, ค่าแรงงานดูแลสนาม ไปจนถึงค่าธรรมเนียมในการเป็นสมาชิกของสโมสร

และเมื่อมีต้นกำเนิดต่างกัน เศรษฐกิจของกีฬาจึงเติบโตคนละแบบ เปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เห็นภาพก็คงต้องเปรียบกับฟุตบอล ที่แม้จะเป็นกีฬามหาชน แต่ก็มีจุดกำเนิดจากชนชั้นแรงงาน ทำให้คนมีส่วนร่วมกับฟุตบอลได้มาก เกิดการกระจายรายได้มากขึ้น จากเงินก้อนใหญ่ ก็ถูกซอยเป็นก้อนเล็ก ๆ กระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

แต่กับกอล์ฟ ที่เกิดมาในฐานะกีฬาของกลุ่มคนที่มีฐานะ พร้อมจะเจอกับค่าใช้จ่ายที่สูง จึงทำให้มีคนเข้ามามีส่วนร่วมได้น้อยกว่าหากเทียบกับฟุตบอล แต่ข้อดีของกอล์ฟก็คือ เมื่อคนมีส่วนร่วมน้อยกว่า รายได้ที่เกิดในอุตสาหกรรมนี้ ก็จะไม่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง แต่จะกระจุกในผู้เกี่ยวข้องที่มีจำนวนน้อยกว่าฟุตบอล พูดง่าย ๆ คือตัวเงินรวมอาจจะเท่ากัน แต่กับกอล์ฟนั้น เป็นกีฬาที่มี "ตัวหาร" น้อยกว่านั่นเอง 

แม้หลังผ่านพ้นยุคของขุนนาง หรือชนชั้นสูง กอล์ฟเริ่มขยายตัวสู่ประชาชนทั่วไปมากขึ้น แต่ภาพจำของ "กีฬาระดับไฮเอนด์" ยังคงอยู่เต็มรูปแบบ นี่คือรากฐานที่พากอล์ฟเข้าสู่การเป็น "อุตสาหกรรมหรูหรามูลค่าสูง" ที่แตกต่างจากกีฬาประเภทเดี่ยวอื่นทั้งหมด

 

กอล์ฟขายอะไร?

ข้อได้เปรียบสำคัญที่สุดของวงการกอล์ฟคือ กำลังซื้อของผู้ชมและผู้เล่นสูงมาก แม้จำนวนผู้ชมอาจน้อยกว่ากีฬาอย่างฟุตบอล แต่ "คุณภาพของผู้ชม" คือจุดที่แบรนด์ยอมทุ่มเงินสนับสนุนอย่างหนัก 

คนที่ดูกอล์ฟมักจะเป็นนักธุรกิจ หรือคนมีรายได้สูง ที่ใช้กอล์ฟในการเจรจาธุรกิจ หรือสร้างเครือข่ายพันธมิตรต่าง ๆ 

เมื่อผู้เล่น ผู้ชม และคนดูผ่านการถ่ายทอดสด เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ยอมทุ่มเงินสนับสนุนอย่างหนัก เพื่อเข้ามาใช้พื้นที่ในการแข่งขันกอล์ฟ แสดงตัวตนและจุดยืนของแบรนด์ ว่าพวกเขาเป็น "แบรนด์ระดับไฮเอนด์" เหมาะสำหรับคนที่มีรายได้สูง และใช้ความหรูหราเป็นตัวแสดงจุดยืนในสังคม 

เราจึงสามารถเห็นได้ว่าแบรนด์หรูอย่าง นาฬิกา Rolex, รถยนต์ Mercedes-Benz และ BMW, ไปจนถึง บริษัทการเงิน ธนาคารระดับโลก และบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้า ต่างเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟรายการต่าง ๆ มากมายในปัจจุบัน 

ตามตัวอย่างที่กล่าวไป แสดงให้เห็นว่ากอล์ฟเปรียบเสมือนกับ "แพลตฟอร์มโฆษณาที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามีฐานะ" อย่างชัดเจน จุดนี้นำไปสู่สูตรสำเร็จที่ว่า 

"สปอนเซอร์ยอมจ่ายมากขึ้น > เงินไหลเข้าทัวร์นาเมนต์การแข่งขันมากขึ้น > เงินรางวัลจึงสูงขึ้นแบบทวีคูณ" 

ทุกวันนี้แม้แต่รายการใหญ่อย่าง PGA Tour ก็ยังจำเป็นต้องเพิ่มเงินรางวัล เพื่อแข่งกับรายการเกิดใหม่อย่าง LIV Golf ที่เพิ่งเกิดขึ้นโดยกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ที่แม้จะมีเงินรางวัลพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ฝั่งซาอุฯ ก็สร้างแรงจูงใจให้กับนักกอล์ฟระดับโลก ด้วยการกระจายเงินรางวัลให้ทั่วถึง แค่มาร่วมแข่งรายการนี้ก็ได้เงินรางวัลแน่นอน 

นอกจากนี้ยังมีการจ่ายค่าเซ็นสัญญาก้อนโตกับนักกอล์ฟเบอร์ใหญ่ อาทิ รอรี่ แม็คอิลรอย อดีตมือ 1 ของโลก ที่มีข่าวลือว่าเขาได้ข้อเสนอจาก LIV Golf สูงถึง 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้เจ้าตัวออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ แต่อย่างไรเสียข่าวลือก็มีเค้า เพราะก่อนหน้านี้ LIV Golf ก็เพิ่งจ่ายค่าเซ็นสัญญาให้ จอน ราห์ม อดีตมือ 1 ของโลกอีกราย เป็นเงินถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมทัวร์อย่าง LIV Golf ที่เพิ่งเกิดขึ้นโดยกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย จึงกล้าทุ่มเงินรางวัลและค่าจ้างมหาศาลให้นักกีฬาระดับโลกมาแข่งขัน รวมถึงกระจายเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่ง ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้แชมป์ หรือตกรอบก็ตาม 

และไม่ใช่แค่รางวัลเท่านั้นที่สูงกว่ากีฬาชนิดอื่น ๆ แต่ กอล์ฟ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนสูง ตั้งแต่ที่ใครสักคนคิดจะเป็นนักกีฬากอล์ฟขึ้นมาอีกด้วย 

 

 ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่คือโครงสร้างต้นทุน

หลายคนอาจจะเอียนคำว่า "ชนชั้นสูง" "หรูหรา" หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเรื่องฐานะ เราจะพาไปดูเหตุผลข้ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์เท่านั้น 

เพราะนอกจากเรื่องของภาพลักษณ์ โครงสร้างต้นทุนของกอล์ฟก็สูงเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน และต้นทุนเหล่านี้สร้างระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่ "แพงตั้งแต่ต้นน้ำ" ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด แถมยังสูงด้วย ไม่ว่าจะค่าอุปกรณ์, ค่าเช่าสนาม, ค่าโค้ชส่วนตัว, ค่าเดินทางเพื่อไปแข่งขัน 

ทั้งหมดเหล่านี้ คือเรื่องที่นักกีฬากอล์ฟทุกคนต้องลงทุน เพื่อจะไปให้ถึงรายการระดับท็อป ที่มีทั้งค่าจ้าง และเงินรางวัลสูงคุ้มค่ากับที่พวกเขาได้ลงทุนพัฒนาตัวเองตั้งแต่แรก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของเงินรางวัลเท่านั้น หากนักกอล์ฟคนไหนพัฒนาตัวเองขึ้นมาจนเป็นเบอร์ต้น ๆ พวกเขาก็จะได้เงินจากสปอนเซอร์ต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มอีก 

สปอนเซอร์ต่าง ๆ มักจะเลือกลงทุนสูง ๆ กับนักกีฬากอล์ฟ เนื่องจากนักกอล์ฟอาชีพสามารถเล่นในระดับสูงได้จนถึงอายุ 40–50 ปี ซึ่งยาวกว่ากีฬาประเภทเดี่ยวอื่น ๆ แทบทุกชนิด ดังนั้นเมื่ออาชีพยืนยาว การลงทุนจากสปอนเซอร์ก็มีโอกาสจะคุ้มค่าเงินที่ได้จ่ายไป 

แม้กอล์ฟจะเป็นกีฬาที่เข้าถึงได้ยากกว่ากีฬาชนิดอื่น แต่การที่ "ทุกอย่างแพง" ก็ทำให้เกิดประโยชน์ในแง่ของตัวเงินตามมา เพราะมันทำให้เม็ดเงินในตลาดสูงกว่ากีฬาทั่วไป ทำให้เงินไหลเข้าตัวนักกีฬามากกว่า 

เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาประเภทเดี่ยว ที่รายได้ไหลเข้าตรงสู่ตัวนักกีฬาและทีมงานส่วนตัวเพียงไม่กี่คน นักกอล์ฟที่ชนะจึงรับเงินรางวัลไปเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งให้ทีมขนาดใหญ่ เช่น ฟุตบอล, บาสเกตบอล NBA หรือ อเมริกันฟุตบอล NFL ทำให้ตัวเลข "เงินรางวัลแชมป์" โผล่ขึ้นมาในสื่อแบบมหาศาล 

เรื่องนี้สรุปเป็นภาพรวมได้ว่า ทำไมตัวเลขเงินรางวัลของกอล์ฟดูเยอะกว่ากีฬาประเภทเดี่ยวอื่น ๆ อย่างมาก แม้ความจริงแล้ว เงินหมุนเวียนในกีฬาอาจไม่ได้ต่างกันมากเท่าที่เห็น และกว่าที่นักกีฬากอล์ฟคนหนึ่งจะไปถึงจุดนั้นได้ พวกเขาต้องลงทุนทั้งแรงกาย แรงใจ และแรงทรัพย์สูงมาก ... แต่ถ้าไปแตะคำว่า "ระดับท็อป" ได้ ก็สามารถคืนทุนแบบถล่มทลายอย่างไม่ต้องสงสัย 

 

แหล่งอ้างอิง

https://shungolf.com/article/why-are-golf-purses-so-big
https://shungolf.com/article/who-pays-golf-purses
https://www.economyinsights.com/p/the-business-behind-pga-tournaments
https://golflifewiki.com/why-do-golfers-get-paid-so-much/
https://www.espn.com/golf/story/_/id/39954802/agent-dismisses-report-rory-mcilroy-liv-golf-850m

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ