Feature

ท่ารถทัวร์ CR7 : เกิดอะไรขึ้นกับการพูดผ่านสื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ณ ตอนนี้ ? | Main Stand

ถ้าคุณติดตามฟุตบอลมานาน และทันได้เห็นช่วงวัยต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนเป็นดาวรุ่ง จนถึงการเป็นตำนานของโลกฟุตบอล คุณจะพบว่า ณ ตอนนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย "หลักสี่" แทบไม่มีความแตกต่างในเชิงคุณภาพในสนามของเขาเลย 

 

แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปมากในเวลานี้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มักให้สัมภาษณ์หรือพูดผ่านสื่อในแนวทางที่ "เปิดเผยมากขึ้น – ขัดแย้งมากขึ้น – เป็นตัวเองมากขึ้น"

หลายครั้งที่บทสัมภาษณ์เหล่านั้น "เรียกแขก" กระทบกับอดีตคนเคยร่วมงาาน และแน่นอนว่ามันนำมาซึ่งเกิดความโกลาหลในโลกโซเชี่ยลให้ถกเถียงต่อจากสิ่งที่เขาพูดมากขึ้น 

ทำไมคำสัมภาษณ์ของเขาจึงแซ่บมากขึ้น ? มันมีกลยุทธ์ หรืออะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ?  ติดตามกับ Main Stand 

 

ถ้าคุณไม่เล่า คนอื่นก็จะตีความแทน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ของโลกฟุตบอลอย่างเต็มตัวในช่วงปลายยุค 2000 จุดเด่นของเขาคือการเป็นนักฟุตบอลที่หมกมุ่นกับการพัฒนาตัวเองให้ถึงขีดสุด และการไล่ล่าความสำเร็จทุกอย่างเท่าที่เขาจะคว้าได้ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรู้ และเข้าใจในความเป็นตัวตนของเขามาเสมอ 

การโฟกัสกับการไล่ล่าความยิ่งใหญ่ประดับความภาคภูมิใจให้ตัวเองของ โรนัลโด้ ทำให้เขาแทบไม่ได้ปริปากคุยกับสื่อในแง่การขายข่าวฉาว หรือข่าวดราม่าเลยในอดีต จะมีก็เพียงแต่การออกสื่อตามงานพรีเซนเตอร์ต่าง ๆ เท่านั้น 

คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ผู้คนอยากจะรู้เรื่องราวของเขาในทุกแง่มุม และเป็นธรรมดาของมนุษย์ขี้เหม็นที่ชอบเรื่องราวดราม่าเชิงลึก เรื่องที่พูดแล้วต้องมีใครได้รับผลกระทบ ยิ่งเป็นเรื่องจาก โรนัลโด้ แล้ว ความสนใจใคร่รู้ยิ่งต้องจับคูณอีกเป็นสิบ ๆ เท่า 

เมื่อ โรนัลโด้ ไม่พูดด้วยตัวเอง วิธีที่จะทำให้ผู้คนที่ "ใส่ใจ" เรื่องของเขาได้เสพสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินจากเหล่าสื่อก็คือ การเล่าเรื่องราวของเขาในลักษณะของ "ข้อมูลวงใน" หรือ "คนใกล้ชิด" ซึ่งเราต่างรู้ดีว่าข่าวหรือเรื่องเล่าจากบุคคลที่ 3 เหล่านี้ต้องเอาไปหารด้วย 2 หรืออาจจะมากกว่านั้น เพื่อค้นหาความจริงทั้งหมดของเรื่องนี้ 

คุณเองก็น่าจะเคยได้ยินข่าวลือ หรือเรื่องเล่าของเขา  เช่นเรื่องของเขากับ คริสเตียโน่ จูเนียร์ ลูกชายของเขา ที่มีการวิเคราะห์ถึงขั้นที่ว่า "แม่ของจูเนียร์คือใคร ?" หลังมีข่าวว่า โรนัลโด้ จ่ายเงิน "ปิดปาก" ไม่ให้ผู้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกเปิดเผยตัว หรือแม้กระทั่งเรื่องแต่งขึ้นมาของ โรนัลโด้ ในวัยเด็กที่ได้รับการผลักดันจากเพื่อนสนิทที่จ่ายบอลให้เขายิงประตูเพื่อให้เขาได้เป็นเด็กฝึกของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ... นี่คือตัวอย่างของ "เฟคนิวส์" ที่โรนัลโด้ ไม่เคยพูด แต่คนอื่นก็เอามาเล่า เอามาเล่นกันสนุกปากเสมอมา 

ดังนั้น ณ เวลานี้ ในวัย 40 ปี โรนัลโด้ อยู่ในช่วงปลายอาชีพแล้ว และเขาไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์แบบเดิมอีกต่อไป ในอดีต การเลี่ยงพูดเรื่องเสี่ยง ๆ ออกสื่อ อาจจะส่งผลต่อโอกาสในอนาคต เช่นการย้ายทีม, ควาามสัมพันธ์ในห้องแต่งตัว, หรืองานโฆษณาพรีเซนเตอร์ที่เข้ามา 

ย้ำอีกทีคือ ณ ตอนนี้เขาอยู่ในสถานะ "ไอคอนระดับตำนาน" มากกว่านักฟุตบอลหนุ่ม ๆ ที่ต้องคำนวณความเสี่ยง เขาจึงสามารถออกมาพูดด้วยตัวเองในเรื่องที่เขาอยากจะพูดโดยไม่ต้องปกปิด เขาจึงกล้าพูดในสิ่งที่อดีตตัวเองอาจไม่พูด เช่น ความผิดหวังต่อสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัด, การทำงานของโค้ช, ความสัมพันธ์กับผู้เล่นบางคน ไปจนถึงการบริหารของสโมสร 

สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ มันคล้าย ๆ กับว่า โรนัลโด้ต้องการ "ควบคุมการเล่าเรื่องของตัวเอง" เหมือนการทวงคืนพื้นที่สื่อเพื่อเล่าเรื่องในแบบของเขาเอง คล้ายกับการจะบอกว่า "ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะเล่าเรื่องของฉันเอง โดยไม่ให้คนอื่นต้องมาตีความแทน"

 

เขาเรียกว่าแบรนดิ้ง 

โรนัลโด้ ถูกตีความและถูกเขียนข่าวถึงโดยไม่คำนึงถึงความจริงมาทั้งชีวิต ต่อจากนี้เขาจะเป็นคนคุมเกมนี้เอง ทุกเรื่องที่คนอยากฟังจากเขา "เขาจะพูดด้วยตัวเอง" เรื่องนี้ยืนยันได้การสัมภาษณ์ของเขาในช่วงหลัง มักจะเกิดขึ้นจากสื่อที่เขาสามารถควบคุมเองได้ 

เช่นการพูดคุยผ่านช่อง YouTube ของเขาที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2024 รวมถึงการให้สัมภาษณ์กับพิธีกรที่เป็น "พวกกัน" อย่าง เพียร์ส มอร์แกน นักข่าว พิธีกร ปากตะไกร หรืออดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ มากกว่าจะไปออกข่าวและให้สัมภาษณ์กับสื่อกีฬาสาธารณะ ที่มักจะเอาคำพูดของเขาไปตีความ และพาดหัวใหม่ ซึ่งบางครั้งมันอาจจะบิดเบือนจากสิ่งที่เขาพูด

ตอนนี้เกมเปลี่ยน ... ถ้าทุกคนอยากรู้ ต้องมาฟังจากปากเขาเอง โรนัลโด้ เปลี่ยนความคิดเห็นของเขาให้มีราคาขึ้น สิ่งนี้เรียกว่าการสร้าง "แบรนดิ้ง" ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญกับมันมาตั้งแต่เริ่มมีชื่อเสียงแล้ว 

CR7 ไม่ใช่นักฟุตบอลธรรมดา แต่เป็น "แบรนด์ระดับโลก" มูลค่าหลายพันล้านยูโร ในยุคนี้ ยุคที่ผู้ชมต้องการความจริง ไม่ต้องการความเฟอร์เฟ็กต์ราวกับเป็นเทพบุตรจากนิยายเหมือนในอดีต 

สิ่งที่เกิดขึ้นในแง่การตลาดแทบทุกแพลตฟอร์มในเวลานี้คือ แบรนด์ที่ "พูดตรง" มักจะมีพลังมากกว่าแบรนด์ที่ "เพอร์เฟ็กต์จนดูไม่จริง" ... นั่นอาจจะเป็นแนวคิดที่ โรนัลโด้ มักให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่สามารถสร้างไวรัลได้จากทุกคำพูดของเขา 

ณ ตอนนี้ การให้สัมภาษณ์แบบเปิดเบื้องหลัง ทำให้เขาดูเป็นมนุษย์ที่มีตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่มหาบุรุษที่ถูกยกย่องแต่ด้านดี ๆ หรือแง่บวกเท่านั้น โรนัลโด้ ได้สร้าง "ความเรียล" ที่ทำให้แง่มุมของเขาถูกเล่าแบบมีมิติ และสร้างอารมณ์หรือความรู้สึกร่วมจากแฟน ๆ ของเขาได้มากขึ้น 

สิ่งที่ตามมาก็คือ กลุ่มนักลงทุนและแฟนคลับ มักให้รางวัลแก่ภาพลักษณ์ที่มีมิติ ไม่เพอร์เฟ็กต์แต่จริงใจ การแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาจึงอาจช่วยแบรนด์ในเชิง Long-term Engagement (การมีส่วนร่วมระยะยาว) ยกตัวอย่างเช่น ไม่ใช่แค่ลูกค้ากดไลก์โพสต์ หรือซื้อสินค้าครั้งเดียวแล้วหายไป แต่คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเรื่อย ๆ ติดตามข่าวสารของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ และรู้สึกผูกพันกับแบรนด์จนกลายเป็นลูกค้าประจำที่ภักดี

อย่างไรก็ตาม การสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะถึงจะทำให้เกิดการเกาะติดมากขึ้น แต่ก็จะเสี่ยงต่อความขัดแย้งในระยะสั้น เช่น คำพูดที่โจมตีอดีตเพื่อนร่วมงานหรือสโมสร อาจเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ธุรกิจ แต่ถ้าแบรนด์ของ CR7 นั้นแข็งแรงพอ พลังการตลาดและรายได้จากการตลาดยังพอชดเชยความเสี่ยงนั้นได้ 

 

เพราะโลก และเขาต้องการแบบนี้ 

การพูดของ โรนัลโด้ ไม่ได้จบในสตูดิโอสัมภาษณ์ มันกระจายไปในเชิงวัฒนธรรมออนไลน์ ชนิดที่แต่ละประโยคจะถูกตีความ ขยายความ และกลายเป็นเนื้อหาสร้างปฏิกิริยา 

คำพูดที่ขัดแย้งหรือพลิกคาด เช่น การบอกว่า "แชมป์โลกไม่ใช่ความฝัน" จะเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้ข่าว แฟน ๆ และคอลัมนิสต์ปะทะกัน นั่นทำให้ทุกสัมภาษณ์ของเขาทวีความสำคัญในเชิงข่าวสารและการมีส่วนร่วม

ไม่ใช่แค่แฟนคลับของ โรนัลโด้ เท่านั้นที่ชอบ แต่สื่อเองก็ชอบด้วย เพราะสื่อรับบทเป็นกระจกและเครื่องขยายเสียงพร้อมกัน สื่อบางสำนักจะตีความเชิงบวก สื่อบางแห่งเน้นเชิงวิจารณ์ และในโลกข่าวออนไลน์ ความหลากหลายของการตีความนี้ยิ่งทำให้ โรนัลโด้ กลายเป็น "บุคคลสาธารณะที่ไม่มีกรอบตายตัว" คุณสามารถถกเถียงกันได้ว่า คนรักเขาหรือคนเกลียดเขามากกว่ากัน ? เขากับ ลิโอเนล เมสซี่ ใครเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่กว่า ?

แต่สิ่งที่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ในตอนนี้ก็คือ "ไม่มีใครในอุตสาหกรรมฟุตบอลที่เพิกเฉยเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดได้" ดังเช่นการให้สัมภาษณ์ของเขาที่ออกมาบอกว่า "ถ้าคุณถามผมว่า ผมมีความฝันที่จะคว้าแชมป์โลกหรือไม่ ? ... ผมจะบอกว่า นั่นไม่ใช่ความฝันของผมเลย" หรือแม้กระทั่งการตอบคำถามที่ว่า "เมสซี่ ยอดเยี่ยมกว่าผมไหมน่ะเหรอ ? ... ผมไม่เห็นด้วยนะ และผมก็ไม่อยากจะพูดในลักษณะของการถ่อมตัวด้วย" 

โรนัลโด้ กำลังสร้างเรื่องราวของตัวเขาเอง โดยไม่ยอมให้มาตรฐานแบบโลกฟุตบอล เช่น แชมป์ฟุตบอลโลก เป็นเครื่องชี้วัดเพียงอย่างเดียว 

และหากมองในอีกทางก็คือ ในเมื่อโลกชอบอะไรแบบนี้ มันก็เป็นโอกาสดีของเขาในวัย 40 ปี ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเหลือเวลาอีกไม่นานที่เขาจะอำลาผืนหญ้าและแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ

ในช่วงวัยหนุ่ม โรนัลโด้ขับเคลื่อนตัวเองด้วย "ความต้องการเป็นที่หนึ่ง" แต่ในวัยปลายอาชีพ แรงขับนี้มองอีกด้าน ก็กลายเป็นการสะท้อนความกลัวอย่างเงียบ ๆ ของเขาเช่นกัน 

อาจจะกลัวว่า จะไม่ใช่ตัวหลักของทุกบทสนทนา กลัวว่าวันหนึ่ง โลกฟุตบอลจะเดินต่อโดยไม่เอ่ยชื่อเขา และกลัวว่า ความสำเร็จจะถูกแฟนรุ่นใหม่มองเป็นแค่สถิติใน Wikipedia

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มพูดเยอะขึ้น เปิดใจมากขึ้น และแสดงมุมมองที่ "คมขึ้น จนบางครั้งบาดตัวเอง" เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การได้มาซึ่งแบรนดิ้ง ก็ทำให้คำพูดของเขากลายเป็นเรื่องตลกที่โซเชี่ยลแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย และคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นสิ่งที่ไร้สาระ 

ดูเหมือนว่าสำหรับ โรนัลโด้ แล้ว ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับเขา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะไม่ว่าจะแก่ตัวลงแค่ไหน สิ่งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชื่อเสมอก็คือ เขาคือ "ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกฟุตบอล" ไม่เปลี่ยนแปลง 

 

แหล่งอ้างอิง

https://timesofindia.indiatimes.com/world/middle-east/i-consider-myself-a-saudi-now-cristiano-ronaldo-says-his-crazy-move-has-been-proven-right/articleshow/125291577.cms
https://indianexpress.com/article/sports/football/brand-cristiano-ronaldo-valued-at-850-million-euros-generates-an-average-of-22-3-million-newspaper-articles-a-year-worldwide-9825175/
https://www.goal.com/en/lists/cristiano-ronaldo-debunking-ridiculous-claims-piers-morgan-interview/blt23b723b7e559cc74
https://www.businessinsider.com/cristiano-ronaldo-questions-teammates-mentality-criticizes-younger-players-2022-1
https://www.forbes.com/sites/zakgarnerpurkis/2022/11/15/cristiano-ronaldo-protecting-his-brand-with-explosive-interview/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ