Feature

ฮัดสัน เวย์ คือ ? : รู้จัก แอนโธนี่ ฮัดสัน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงบทบาทแม่ทัพช้างศึก | Main Stand

ดราม่าเต็ม 24 ชั่วโมง ได้คำตอบแล้วว่าคนที่จะมาคุมทีมชาติไทยแทนที่ของ มาซาทาดะ อิชิอิ คือ แอนโธนี ฮัดสัน อดีตโค้ชชาวอังกฤษของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

 


มาถึงตรงนี้คงต้องมูฟออนเพราะวันเวลาหวนคืนกลับมาไม่ได้แล้ว ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกุนซือใหม่ช้างศึกตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

เขาเป็นใคร ? ปรัชญาฟุตบอลของเขาเป็นแบบไหน ? และผลงานที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ? ติดตามกับ Main Stand

 

หนีเงาของพ่อไม่พ้น จนต้องมาเป็นโค้ช

พ่อของ แอนโธนี่ ฮัดสัน คือ 1 ในบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษในยุค 1970s อย่าง อลัน ฮัดสัน ผู้เคยคว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ กับ เชลซี ในปี 1971 และยังเคยเล่นให้กับ อาร์เซน่อล รวมถึงเคยติดทีมยอดเยี่ยมประจำดิวิชั่น 1 (ลีกสูงสุดในปัจจุบัน) ถึง 2 สมัย

หลังจากนั้น อลัน ฮัดสัน ไปค้าแข้งในอเมริกากับ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส ในช่วงปลายอาชีพ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว แอนโธนี ฮัดสัน ก็ลืมตาดูโลก และเรื่องราวของกุนซือทีมชาติไทยคนปัจจุบันก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น

หลังหมดสัญญากับ ซีแอตเทิล ครอบครัวฮัดสันก็กลับมาใช้ชีวิตในอังกฤษอีกครั้ง โดย แอนโธนี ฮัดสัน ก็ได้เข้าสู่ระบบอคาเดมีของทีมอย่าง เวสต์แฮม และถูกปล่อยยืมตัวกับ ลูตัน ทาวน์ และ ไนจ์เมเก้น ในดัตช์ลีกตามลำดับ ... ความสำคัญของการเล่าถึงจุดนี้คือ ฮัดสัน พบว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับความกดดันของการเป็น "ลูกตำนาน" ใครหลายคนพยายามเปรียบเทียบเขาและพ่ออยู่เสมอ และนั่นทำให้เขาเลิกเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 23 ปี เพราะรู้สึกว่ารับไม่ไหวกับความกดดันที่เกิดขึ้นรอบตัวของเขาเสมอ

"ความคิดนี่แหละคืออุปสรรคใหญ่ของผม ผมไม่มีคู่มือที่จะผ่านสถานการณ์แบบนั้นได้ ทุก ๆ ที่ที่ผมไป ผู้คนจะบอกว่าพ่อของผมเก่งแค่ไหน และเริ่มเปรียบเทียบผมกับพ่อ"

"หลายคนเริ่มพูดว่าผมไม่มีทางจะเก่งเท่ากับพ่อของผมได้ นั่นแหละที่มันรบกวนจิตใจของผมตลอดเวลา ผมไม่เคยสร้างความมั่นใจและก้าวผ่านคำวิจารณ์นั้นได้เลย ... ผมอยากจะเป็นนักเตะธรรมดา ๆ ที่โค้ชเรียกผมไปถามว่า 'นายเป็นไงบ้าง ?' แต่ไม่เคยได้รับสิ่งนั้น ผมอยากจะพูดความในใจมาโดยตลอด แต่ผมก็ไม่เคยทำได้" ฮัดสัน กล่าว

ช่วงเวลาที่สับสนและบอกใครต่อไม่ได้ทำให้เขาเริ่มติดสุรา เขาใช้เวลาอยู่นานเพื่อรักษามัน จนกระทั่งในที่สุดเขาได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรเลิกเหล้า ก่อนที่เขาจะทำสำเร็จในปี 2005 และสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เขาเลิกเหล้าได้อย่างเด็ดขาด และกลับมามีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้งคือการเป็น... "โค้ชฟุตบอล"

 

เริ่มต้นที่ตัวเอง

ฮัดสัน ใช้เวลาทบทวนในช่วงแขวนสตั๊ดและพบว่า เขารักฟุตบอลจริง ๆ แม้จะเป็นนักเตะที่ดีไม่ได้ แต่อนาคตของเขาอาจอยู่ที่การเป็นโค้ชที่ดีได้หากเขาลองดู

การเปลี่ยนแปลงตัวเองเริ่มต้นขึ้นเมื่อมรสุมชีวิตผ่านไป เขาเริ่มทำงานด้านโค้ชเยาวชนกับ เลย์ตัน โอเรียนท์ จนกระทั่งได้ย้ายไปเป็นหัวหน้าโค้ชทีมอคาเดมีของ ดิอาโบส เอฟซี ในนิวเจอร์ซีย์ และอีกหลาย ๆ ทีมในอเมริกา

"ผมเกิดความเชื่อมั่นว่าตัวเองจะสามารถเป็นเฮดโค้ชที่ดีได้ แต่ในทางเดียวกันผมก็รู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเริ่มต้นและได้งานคุมทีมสโมสรในอังกฤษเลยทันที"

"ผมยังอายุน้อยมาก และต้องหาความรู้อีกมาก ผมจึงไปที่อเมริกาและได้ทำงานกับอีกหลายคน เป้าหมายคือได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่วันหนึ่งผมจะได้เป็นโค้ชที่ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้"

ยิ่งค้นคว้า เขาก็ยิ่งค้นพบ ภาพในหัวของ ฮัดสัน เริ่มชัดขึ้นว่าการเป็นโค้ชคืองานที่เขาใฝ่ฝัน เขาเริ่มเดินหน้าแบบไม่มองข้างหลัง มีการลงเรียนหลักสูตรโค้ชกับยูฟ่า และเขาเริ่มนำเงินเก็บที่มีเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อกลับมาที่ยุโรปอีกครั้งเพื่อจัดโปรแกรมที่เรียกว่า "โค้ชทริป" ของตัวเอง

ฮัดสัน เช่ารถ 1 คัน และออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วดินแดนยุโรป โดยเฉพาะที่ที่มีทีมฟุตบอลชั้นนำของโลกตั้งอยู่ เป้าหมายหลักคือการศึกษางานของโค้ชหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นโค้ชระดับท้องถิ่น ไปจนถึงโค้ชระดับตำนานของโลกฟุตบอลอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

การเดินทางเก็บเกี่ยวความรู้นำไปสู่งานในวงการฟุตบอลที่เขาต้องการทีละนิด ฮัดสัน ทำงานฟุตบอลกับหลาย ๆ ที่ทั้งในอเมริกา ในอังกฤษกับทีมสำรองของ สเปอร์ส จนกระทั่งรับตำแหน่งกุนซือใหญ่เต็มตัวครั้งแรกในปี 2011 หรือตอนที่เขาอายุ 30 ปี กับ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ทีมในระดับลีกทู

ข่าวร้ายคือ ฮัดสัน ได้คุมนิวพอร์ท แค่ 5 เดือนเท่านั้น แต่ข่าวดีคือถ้าไม่เริ่มคุณก็ไม่มีทางได้รู้ว่ารสชาติของความฝันที่แท้จริงนั้นไม่ได้มีแต่ด้านบวก มันมีความผิดหวังที่เขาต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันไปพร้อม ๆ กันด้วย

"การตกงานครั้งแรกเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ทุกอย่างนิ่งเหมือนกับโลกหยุดหมุน อาชีพโค้ชคือการรับผิดชอบทุกอย่าง โทรศัพท์ของคุณจะดังตลอดทั้งวัน และไม่มีที่ไหนให้คุณได้เกาะเกี่ยวเลยนอกจากตัวของคุณเอง" ฮัดสัน เล่าความผิดหวังแรกในงานกุนซือของเขา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันกลายเป็นเชื้อไฟที่ทำให้เขาทำงานโค้ชมาจนถึงวันที่เป็นโค้ชทีมชาติไทย ณ เวลานี้

 

ฮัดสัน เวย์ สไตล์ไหน ?

ต้องขอ "เล่าเร็ว ๆ" สำหรับเส้นทางก่อนถึงทีมชาติของ ฮัดสัน หลังจากนี้จนถึงการเป็นโค้ชทีมชาติไทย เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่า ไม่ใช่เขามาจากไหน แต่เป็นเขาจะนำอะไรมาสู่ทีมชาติไทยชุดปัจจุบันได้บ้าง ?

ฮัดสัน ได้รับการทาบทามจากกุนซือ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ 1 ในตำนานโค้ชผู้ล่วงลับของอังกฤษ ให้มาช่วยทำงานกับทีมชาติบาห์เรนในช่วงปี 2011-2014 ก่อนที่เขาจะสร้างชื่อของตัวเองจริง ๆ ในเวลาต่อมากับทีมชาตินิวซีแลนด์ ทั้งชุดใหญ่ ชุด U17 และ U20 โดยพาทีมทั้ง 2 ชุดเยาวชนนี้ไปฟุตบอลโลกได้สำเร็จ ขณะที่ทีมชุดใหญ่นั้นทำได้แค่เกือบ จากการแพ้ เปรู ในรอบเพลย์ออฟกับตัวแทนจากฝั่งอเมริกาใต้

นี่คือความพ่ายแพ้ที่ใครก็คาดเดาได้ไม่ยาก มาตรฐานของ เปรู และของ นิวซีแลนด์ นั้นห่างกันหลายช่วงตัว แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงเวลานี้แหละที่เรื่องราวของเขาถูกสื่อตีแผ่มากขึ้น และที่สำคัญคือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เล่าเรื่องปรัชญาฟุตบอลในมุมมองของตัวเองให้กับสื่อได้ฟัง ... ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทยโดยตรง เพราะมันคือปรัชญาที่ติดตัวเขามาจนทุกวันนี้

"ที่นิวซีแลนด์ผมได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างของการเป็นโค้ชฟุตบอลมากขึ้น" ฮัดสัน เริ่มเล่า

"ในฐานะโค้ช คุณต้องมีหลักการและปรัชญาของตัวเอง สำหรับผมมันคือ ตั้งเป้าหมายที่เชื่อว่าจะเป็นไปได้และจากนั้นก็ทุ่มมันให้สุดตัวโดยไร้ข้อแม้"

"กับทีมชาตินิวซีแลนด์มีการบอกว่าเราจะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่การทำงานย่อมต้องเริ่มจากการตั้งจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ก่อน ไม่ใช่แค่การเข้ามาทำทีมและเอาชนะเท่านั้น แต่มันคือการสร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ผมพยายามท้าทายตัวเองในทุก ๆ วัน พยายามสู้กับแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับงานที่อยู่ข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง"

"สิ่งเหล่านี้คือราคาที่คนเป็นโค้ชจะต้องจ่าย คุณจะต้องยืนหยัดในสิ่งที่คุณเชื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่กำหนดวิธีการเป็นโค้ชของคุณ" ฮัดสัน กล่าวผ่านเว็บไซต์ playerdevelopmentproject.com

โดยสรุปคือ ฮัดสัน อธิบายว่าปรัชญาของเขาเป็นฟุตบอลไดเร็กต์ในแบบที่เหมือนกับที่ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า บรมครูวงการโค้ชที่เคยคุมทีมชาติอาร์เจนตินา, มาร์กเซย, ลีดส์ และอีกหลาย ๆ ทีม

ปรัชญาดังกล่าวคือการทำให้นักเตะเกิดมุมมองที่แตกต่างออกไปในการมองเกม ให้ความสำคัญกับการทำซ้ำ ให้นักเตะทุกคนเข้าใจหน้าที่ของตัวเองเพื่อทำให้เกิดสไตล์การเล่นโดยรวมของทีม รวมถึงการใส่ใจการฝึกซ้อมที่เน้นเทคโนโลยีทุกอย่างมาช่วยให้ได้ผลลัพธ์ในสนามซ้อมที่ดีขึ้น

ตอนคุมทีมชาตินิวซีแลนด์ชุดใหญ่ ฮัดสัน เคยอธิบายว่า เขาต้องการสร้างสไตล์การเล่นที่เป็นแม่พิมพ์ที่ทีมชาติทุกรุ่นอายุสามารถเข้าใจตรงกันได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และทำให้ทีมชาติชุดใหญ่สามารถหยิบเอานักเตะจากชุดอื่น ๆ ขึ้นมาเสริมทัพได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

"ผมอยากให้ทีมของผมเล่นฟุตบอลได้ดี บุกอย่างมีแบบแผน มีระเบียบวินัยและดุดัน"

"สิ่งสำคัญคือความกล้าที่จะเสี่ยงในยามที่มีบอลหรือไม่มีบอล ผมพยายามทำให้มั่นใจว่าสไตล์การคุมทีมของผมนั้น เน้นที่ความรอบคอบและเตรียมตัวให้พร้อม และสิ่งสำคัญที่ผมจะสร้างปรัชญาฟุตบอลแบบที่คิดได้คือ 'เวลา' นั่นคือสิ่งสำคัญ และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในสนามฝึกซ้อมและการลงเล่นในการแข่งขันจริงเท่านั้น" ฮัดสัน อธิบาย

ส่วนเรื่องการคุมทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เจ้าตัวมีเวลาคุมไม่ถึง 2 เดือน คงยากที่จะอธิบายได้ว่าเขาได้ใส่ปรัชญาฟุตบอลอะไรลงไปให้ทัพนักเตะกระต่ายแก้วได้บ้าง แต่ ณ เวลานี้ความสนใจใคร่รู้ของแฟนบอลไทยที่มีต่อเขาจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะการคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ในช่วงเวลาที่กระแสมวลชนแสดงความไม่พอใจ ณ ตอนนี้ อาจจะทำให้ ฮัดสัน ไม่มีเวลาในการสร้างปรัชญาฟุตบอลหรือ "ฮัดสัน เวย์" มากนัก

อย่างไรก็ตาม จากเส้นเรื่องที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ เราสามารถบอกได้ถึงคาแร็คเตอร์คร่าว ๆ ว่าตัวของ ฮัดสัน เองก็ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาเยอะทั้งการโดนสบประมาทตั้งแต่ยังเด็ก และการถูกปรามาสในวันที่เริ่มเป็นโค้ช ... แม้ความกดดันที่ผ่านมาอาจจะเทียบกับความกดดันจากแฟนบอลชาวไทยตอนนี้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีภูมิคุ้มกันที่อาจจะช่วยให้เขาโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้ แม้กระแสเชิงลบจะถาโถมตั้งแต่วันเปิดตัว 

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้สำหรับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทย คือการทำผลงานให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับที่โค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ สร้างไว้ให้มากที่สุด ... ฮัดสัน ได้ทุ่มสุดตัวตามที่เขาได้บอกถึงลักษณะการทำงานของเขาแน่ ๆ กับงานที่โหดหินกับทัพช้างศึกครั้งนี้

 

แหล่งอ้างอิง

https://thesefootballtimes.co/2015/06/11/anthony-hudson-interview/
https://playerdevelopmentproject.com/man-on-a-mission/
https://rg.org/news/soccer/anthony-hudson-reflects-on-globetrotting-career
https://en.wikipedia.org/wiki/Anthony_Hudson_(soccer)

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ