ศึกกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย รายการ Honda LPGA Thailand 2025 เปิดฉากเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเหล่าสตาร์ระดับท็อปของโลกทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาร่วมชิงชัยกันอย่างคับคั่ง
รวมถึง “ฝ้าย” พิมพ์พิศา รับรอง นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 18 ปี ที่ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ National Qualifiers จนได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
การได้โควตาของเธอในครั้งนี้ส่วนสำคัญมาจากความพยายามและความไม่ย่อท้อเลยก็ว่าได้ เพราะเส้นทางการเล่นกอล์ฟของเธอต้องฝ่าฟันกับความไม่สมหวังมาไม่น้อย ลงแข่งครั้งแรกก็ได้ที่โหล่ เดินเกือบไม่ครบ 18 หลุม แถมไปคัดตัวทีมชาติก็ยังอกหักถึง 2 ปีซ้อน
จึงไม่ง่ายเลยกว่าจะถึงวันที่ได้มาวาดลวดลายเคียงข้างมืออันดับต้น ๆ ของโลกในรายการนี้ … เรื่องราวของดาวรุ่งดวงใหม่รายนี้เป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ Main Stand
Tee-Off
จุดเริ่มต้นการเล่นกอล์ฟของฝ้ายมาจากคุณพ่อที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้อยู่ก่อนแล้ว เวลาไปออกรอบก็จะพาลูกสาวและครอบครัวไปด้วยเพื่อทำกิจกรรมที่สนามร่วมกัน
“หนูเริ่มเล่นกอล์ฟตอนอายุ 6 ขวบ คุณพ่อชอบตีกอล์ฟ ตอนออกรอบก็จะพาไปด้วยเป็นประจำ หนูเลยรู้สึกคุ้นเคยและได้ลองเล่น พอเล่นไปเล่นมาก็เริ่มชอบ ไม่ได้รู้สึกร้อนอะไร เพราะมันสนุก แล้วก็เล่นมาเรื่อย ๆ”
“พอเริ่มโตขึ้นก็คิดว่ามันเป็นกีฬาที่ท้าทายดี เพราะมันไม่ได้ตีออกมาได้ดีทุกวัน จนอายุ 10 ขวบคุณพ่อถึงให้ลงแข่งครั้งแรก” ฝ้ายย้อนความทรงจำในวัยเด็ก
แม้จะรู้จักและเริ่มเล่นกอล์ฟมาเกือบ 4 ปี แต่การตามคุณพ่อไปตีเล่นเพื่อความสนุกสนานกับการแข่งขันจริงที่เธอต้องเผชิญเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน … และความชอกช้ำครั้งแรกก็ประจันหน้าเธอเข้าอย่างจัง
ฝ้ายจบการแข่งขันครั้งแรกด้วยอันดับสุดท้าย อีกทั้งยังตีเกินไปเยอะมากจนเธอแทบจะลบสกอร์ที่ตีได้ออกจากความทรงจำ
“หนูแทบจะเดินไม่ไหว 18 หลุมจนเกือบต้องถอนตัว เพราะตอนตีกับคุณพ่อก็ไม่เคยเดินครบ วันนั้นมันเลยแย่มาก ได้ที่สุดท้าย”
“ตอนนั้นก็ผิดหวังนะ คุณพ่อเลยถามว่ายังชอบอยู่ไหม ถ้ายังชอบแล้วอยากตีดีขึ้นก็ต้องซ้อมให้มากขึ้น และออกรอบให้มากขึ้น ซึ่งหนูเองก็อยากที่จะเล่นให้เก่งขึ้นจึงตัดสินใจที่จะจริงจังให้มากขึ้น” ฝ้าย เผย
เมื่อตัดสินใจแล้ว ฝ้ายก็เดินหน้าฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยทุกเย็นหลังเลิกเรียนเธอจะไปฝึกซ้อมที่สนามไดร์ฟ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะไปออกรอบหรือซ้อมลูกสั้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ตารางการซ้อมที่เป็นระบบ
ฝ้ายเล่าให้ฟังว่าแม้คุณพ่อของเธอจะชอบการเล่นกอล์ฟ แต่ที่ผ่านมาท่านจะฝึกตีด้วยตัวเองตลอด ดังนั้นเมื่อลูกสาวต้องการที่จะเดินทางนี้อย่างจริงจัง คุณพ่อจึงตัดสินใจจ้างโค้ชมาสอนเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้อย่างถูกวิธี
เมื่อทุกอย่างถูกเซตอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน บวกกับความตั้งใจของเจ้าตัว ฝีมือของฝ้ายจึงพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเธอได้มีโอกาสไปคัดเลือกเข้าเป็นนักกอล์ฟทีมชาติ
Double bogey
หลังจากเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจัง 2 ปีถัดมาฝ้ายได้ไปคัดตัวทีมชาติไทยกับทางสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย โดยมีความหวังที่จะได้เป็นนักกอล์ฟทีมชาติในอนาคต
ท่ามกลางนักกอล์ฟหลายสิบรายที่มาคัดเลือก สมาคมมีโควตาให้แก่ผู้ที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด 6 ที่นั่ง … ฝ้ายจบอันดับ 7 พลาดโควตาไปอย่างน่าเสียดาย
และไม่ใช่แค่เพียงครั้งแรก แต่ปีต่อมาเธอก็ยังอกหักซ้ำสองด้วยการจบอันดับ 7 เช่นเดิม
“ช่วงอายุ 13-14 หนูไปคัดตัวทีมชาติแล้วไม่ได้ 2 ปีติด เขาเอา 6 คนแต่หนูได้ที่ 7 ทั้ง 2 ปี ตอนนั้นรู้สึกผิดหวังนะ เพราะอีกแค่นิดเดียวก็จะติดแล้ว แค่คนเดียว ห่างกันแค่ 1-2 แต้ม แล้ว 1 ปีมันคัดได้แค่ทีเดียว ต้องซ้อมทั้งปีเพื่อที่จะไปคัดใหม่”
“พอปีที่ 3 หนูมีความรู้สึกว่าอายุ 15 แล้ว มันต้องติดได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาเราก็ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอด สุดท้ายก็ผ่านการคัดเลือกได้ติดทีมชาติ พอทำได้ก็รู้สึกภูมิใจที่เราผ่านจุดนั้นมาได้” ฝ้าย เปิดใจ
ไม่เพียงแค่ผิดหวังจากทีมชาติถึง 2 ครั้ง แต่ในการแข่ง Honda LPGA Thailand National Qualifiers ฝ้ายก็เคยมาลงแข่งแล้วครั้งนึงเช่นกัน แต่ไม่สามารถฝ่าฟันไปถึงแชมป์ได้
สำหรับ Honda LPGA Thailand National Qualifiers ถือเป็นรายการสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้ร่วมดวลวงสวิงเพื่อเฟ้นหาแชมป์เพียงหนึ่งเดียว ที่จะได้สิทธิ์รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์หลักอย่าง Honda LPGA Thailand
โดยนักกอล์ฟที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วล้วนก้าวขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟระดับแนวหน้าของเมืองไทยในปัจจุบัน ไล่ตั้งแต่ “กิฟท์” เบญญาภา นิภัทร์โสภณ (แชมป์ 2019), รีน่า ทัตเทมัตซึ (แชมป์ 2020), “พราว” ชเนตตี วรรณแสน (แชมป์ 2021 และ 2022), “ซิม” ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ (แชมป์ 2023) และ “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม (แชมป์ 2024)
ขณะที่ฝ้ายเองยอมรับว่าในปีแรกที่ลงแข่งขันเธอยังเด็กเกินไปและการตีก็ยังไม่เสถียร จึงกลับไปฝึกซ้อมให้หนักขึ้น จนได้ติดทีมชาติและนำมาซึ่งการยกระดับฝีมือขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เพราะการติดทีมชาติทำให้เธอได้โอกาสเข้าแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องปีละมากกว่า 10 รายการ อีกทั้งยังได้ฝึกซ้อม มีการเก็บคะแนนและแข่งขันกันเองภายในทีมอย่างเข้มขัน
เมื่อการแข่งขัน Honda LPGA Thailand National Qualifiers 2025 มาถึง เธอจึงกลับมาแก้มืออีกครั้ง ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่ามีดีพอที่จะคว้าแชมป์เพื่อฉลองครบรอบวันเกิดอายุครบ 18 ปีให้กับตนเอง
“หนูคิดว่าทุกคนมีโอกาสเป็นไปได้หมด เพราะแข่งแค่ 2 วันถ้าใครทำดีก็ได้ไป เราเองก็เต็มที่เพราะซ้อมมาทั้งปี พยายามอย่าเสียเยอะและตั้งใจทำหลุมต่อหลุมให้ดีที่สุด แล้วก็ทำได้ดีตามที่ตั้งใจจริง ๆ”
“จนวันสุดท้ายหลุม 17 หนูทำโบกี้ทำให้นำอันดับ 2 อยู่แค่แต้มเดียว มันสามารถพลิกได้หมด หนูเลยพยายามโฟกัสและคุมสติตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นมาก สุดท้ายก็ตีออกมาได้ดีเก็บเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้ายจนคว้าแชมป์ได้” ฝ้าย เผย
ความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ฝ้ายได้มีโอกาสลงแข่งขันท่ามกลางนักกอล์ฟมือดังระดับท็อปของโลกอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้ง 4 วันโดยไม่มีการตัดตัว … และแน่นอนว่าห้วงเวลาหลังจากนี้ทุกอย่างคือประสบการณ์ที่เจ้าตัวจะได้รับไปเต็ม ๆ
Scrambling
Scrambling ในกีฬากอล์ฟแสดงให้เห็นถึงทักษะของผู้เล่นที่สามารถกู้สถานการณ์จากการตีลูกที่ออกนอกกรีนไปแล้วให้กลับมาเซฟพาร์หรือทำแต้มได้ดีกว่านั้นได้ … ซึ่งล้วนเกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดจนช่ำชอง
หากเปรียบก็คงไม่ต่างจากเส้นทางกอล์ฟของฝ้ายในเวลานี้ หลังจากที่เคยผิดหวังมาหลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ไม่ย่อท้อ มุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างไม่หยุดหย่อนจนได้มาเล่นในศึก Honda LPGA Thailand 2025
และไม่ว่าผลลัพธ์ในสนามจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เส้นทางหลังจากนี้เจ้าตัวมีแต่ได้กับได้
“หนูจะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด คิดว่าถ้าจบท็อป 10-15 ได้ก็โอเคแล้ว เพราะการได้ไปออกรอบกับพี่ ๆ ระดับโลกถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สามารถนำไปปรับใช้ในอนาคตได้”
“หนูมาดูการแข่งขันเกือบทุกปี เป็นแมตช์ที่คนไทยแข่งเยอะและคนดูก็เยอะ มันเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับมืองไทย ซึ่งบรรยากาศจะแตกต่างจากเวลาแข่งต่างประเทศ ไปที่อื่นคนดูอาจเยอะแต่เขาไม่รู้จักเรา ไม่ได้มาจับจ้องเรา เหมือนแค่ดูผ่าน ๆ”
“แต่รายการนี้นักกอล์ฟไทยเป็นที่สนใจ ซึ่งสำหรับหนูไม่ได้มองว่ามันเป็นการกดดัน แต่มองเป็นความตื่นเต้นมากกว่า อยากให้แฟน ๆ เข้ามาเชียร์นักกอล์ฟไทยกันเยอะ ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเรา” ฝ้าย กล่าว
ก้านเหล็กสาววัย 18 ปี ทิ้งท้ายว่าอนาคตหลังจากนี้วางแพลนที่จะไปเรียนต่อที่ Arizona State University ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อหาประสบการณ์และเรียนรู้การใช้ชีวิตประมาณ 1-2 ปีก่อนเทิร์นโปรที่นั่นเลย
แล้วมาติดตามกันว่าอนาคตของดาวรุ่งดวงใหม่รายนี้จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เธอได้แสดงให้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็คือความไม่ย่อท้อ ที่แม้จะผิดหวังชอกช้ำเพียงใดก็ยังลุกขึ้นสู้ต่อเพื่อทำเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ