Feature

"อโมริม" ไม่เอา "รุด" : การตัดสินใจที่แย่ หรือแค่ทำในสิ่งที่จำเป็น ? | Main Stand

4 นัดกับผลงานที่ฝากเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม และบรรยากาศในทีม บรรยากาศการเชียร์แบบที่ไม่ได้เห็นมานาน ทำให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากจะเห็น รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่รับบทกุนซือชั่วคราว เป็นส่วนหนึ่งในยุคของ รูเบน อโมริม โค้ชใหม่ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด

 


อย่างไรก็ตาม เมื่อ อโมริม มาถึง ... เขายืนยันด้วยตัวเองว่า มีทีมงานอีกหลายคนตามมาด้วย และ รุด จะไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมงานของเขา จน รุด ต้องอำลาไป

การตัดสินใจนี้ถูกวิจารณ์ และวิเคราะห์กันในวงกว้าง บ้างก็บอกว่าคิดผิด ส่วนอีกฝั่งก็บอกว่าถูกต้องแล้ว ... เราลองหยิบข้อดีข้อเสียทั้งหมดมาวิเคราะห์ที่นี่กับ Main Stand 

 

เพื่อความชัดเจน 

"รุด เป็น และจะเป็นตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดไป เราซาบซึ้งในผลงานของเขา และวิธีการที่เขาทำหน้าที่ของเขาตลอดเวลาที่อยู่กับสโมสร เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเสมอที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด" นี่คือคำประกาศจากสโมสร หลัง รูเบน อโมริม โค้ชคนใหม่เดินทางมายังสนามซ้อม แคร์ริงตัน ได้ไม่นานนัก 

อโมริม ได้รับการต้อนรับจาก โอมาร์ เบอร์ราดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของ ยูไนเต็ด, แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬา และ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค แม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าคุมทีมฝึกซ้อม แต่อโมริมได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสโมสรและจัดการประชุมได้ โดยทาง ยูไนเต็ด คาดว่ากระบวนการในการขอวีซ่าทำงานในอังกฤษ จะดำเนินไปอย่างรวดเร็วและแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้

จากนั้นไม่นานนักก็มีการระบุว่า อโมริม มีทีมโค้ชจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมเก่าของเขาตามมาด้วย และแม้ว่าจะยังไม่ได้รับการยืนยันทีมงานเบื้องหลังของเขา แต่คาดว่าเขาจะร่วมงานกับโค้ช เอ็มมานูเอล เฟอร์โร่, อเดลิโอ คานดิโด และ คาร์ลอส แฟร์นันด์ส, โค้ชผู้รักษาประตู ฮอร์เก้ วิทัล และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เปาโล บาร์เรร่า ... ไม่มีชื่อของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ยืนยันด้วยตัวเองหลายหนว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน อโมริม ของ ปีศาจแดง ยุคใหม่ 

เหตุผลประการแรก นี่อาจจะเป็นเรื่องเชิงแท็คติก ที่รูปแบบและวิธีการที่ อโมริม เตรียมนำมาใช้ อาจจะมีความแตกต่างกับยุค เอริค เทน ฮาก และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งก็อย่างที่หลายคนรู้กัน นั่นคือเรื่องของระบบการเล่นที่ อโมริม ชอบและถนัดในระบบ 3-4-3 ซึ่งเป็นการเล่นแบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก ขณะที่ เทน ฮาก และ รุด ดูจะถนัดในระบบ 4-2-3-1 มากกว่า 

โดยบทความของ The Guardian ที่เกี่ยวกับเรื่องการไม่เลือก รุด ฟาน นิสเตลรอย ของ อโมริม นั้น เกิดขึ้นจากเรื่องของการทำให้แน่ใจได้ว่า สารทุกอย่างที่ออกจากเขา จะไม่ถูกบิดเบือด แทรกแซง แม้ว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย จะทำสิ่งนั้นหรือไม่ แต่นั่นคือการเตรียมปัจจุบัน เพื่ออนาคต และแน่ใจว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้ว เรื่องเหล่านี้จะจัดการได้ยาก และจะหาทางลงได้แบบไม่สวย ไม่ว่าจะสำหรับใครทั้งนั้น 

สิ่งสำคัญคือ นี่เป็นการเริ่มใหม่ และเขาอยากให้มันเป็นการเริ่มใหม่จริง ๆ เขาจึงตัดสินใจไม่เลือก ฟาน นิสเตลรอย และพร้อมจะเดิมพันตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยตัวเองล้วน ๆ แม้ว่าเขาอาจจะพลาดสิ่งที่ดีต่าง ๆ มากมาย ที่จะได้จาก รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งยืนยันโดยนักเตะของ ยูไนเต็ด หลายคนที่บอกว่า "รุดคือคนที่ทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น" ก็ตาม และแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ข้อดีข้อเดียวที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย มี

 

ประโยชน์จาก รุด ฟาน นิสเตลรอย 

หาก รุด ฟาน นิสเตลรอย ยังอยู่ในทีม และเป็นหนึ่งในทีมงาน หรืออาจจะเป็นผู้ช่วยของ อโมริม สิ่งที่กุนซือป้ายแดงชาวโปรตุกีสจะได้จากเขาก็คือ เรื่องการปรับตัวเข้าหานักเตะ เพราะนักเตะในทีมชุดนี้หลายคน เป็นคนที่ ฟาน นิสเตลรอย ซื้อใจได้ไปแล้ว 

นักเตะที่เคยดูเหมือนจะมีรอยร้าวเล็ก ๆ กับกุนซือเก่าอย่าง เอริก เทน ฮาก ทั้ง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ คาเซมิโร่ ต่างก็เป็นคนที่เปิดหน้าพูด และชื่นชมการทำงานของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำเหล่านี้ หายไปพักใหญ่แล้วในยุค เทน ฮาก 

"เขาพูดกับพวกเราตั้งแต่ครั้งแรกว่า ขอให้สนุกกับการแข่งขัน มีความสุขในการเล่น และใช้เวลาในการเป็นผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้มากที่สุด นี่อาจจจะเป็นคำง่าย ๆ แต่มันคือการเตือนสติทุกคนว่าพวกเราได้หลงลืมอะไรไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา ... ขอบคุณตลอดไป" นี่คือสิ่งที่ คาเซมิโร่ พูดถึง ฟาน นิสเตลรอย 

เช่นเดียวกับ การ์นาโช่ ที่บอกว่า "ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็พิเศษและน่าจดจำมาก ผมเรียนรู้อะไรจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย มากมาย และจะเก็บมันไว้ตลอดอาชีพที่เหลือ สิ่งที่ผมจะจดจำเกี่ยวกับเขาที่สุดคือ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน หวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกันอีก ตำนานของผม" 

หาก อโมริม ยังมี รุด เป็นหนึ่งในทีมงาน หรือผู้ช่วยที่ใกล้มือที่สุด เขาจะเข้าหาทุกคนได้อย่างรวดเร็ว และได้รับการยอมรับผ่านความสนิทสนมที่ รุด มีต่อนักเตะทุก ๆ คน ทีมงานในสโมสร หรือแม้กระทั่งกับแฟนบอล ที่รัก รุด ฟาน นิสเตลรอย มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะแล้ว 

นอกจากการเข้ากับทุกคนได้เร็ว และสนิทใจมากขึ้นแล้ว รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ยังเป็นคนที่เห็นปัญหามากมายในทีม ๆ นี้ ซึ่งเขาก็อยากมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ไข ดังนั้นเขาจึงอยากจะทำงานนี้ต่อไป โดยหลังเกมที่ ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เขาพูดออกตัวไว้ว่า 

"ผมอยากช่วย ผมอยากทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ สโมสรอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ที่เราทุกคนต้องการ ทุกคนกำลังมองไปที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เราในฐานะคนใน เรามีความกระหายและต้องทำให้ดีที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากแฟน ๆ และนี่คือกระบวนการที่เราจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น" รุด ว่าแบบนั้น 

ว่าง่าย ๆ ก็คือ ถ้าหาก อโมริม มี รุด ในทีมงาน ก็เหมือนมีนายพรานผู้เชี่ยวชาญท้องที่ พาเดินลุยสมรภูมิที่เขาไม่เคยไป ... นอกจากเรื่องของความชำนาญและเป็นคนในแบบที่ รุด เคลมแล้ว เจ้าตัวยังน่าจะมีตำแหน่งที่เหมาะสมลงตัวในสายตาคนนอก อย่างเช่นการเป็นโค้ชกองหน้า สอนนักเตะเรื่องการจบสกอร์ที่ทีมกำลังมีปัญหา และมีนักเตะหนุ่มหลายคนที่น่าจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ของอดีตกองหน้าระดับโลกอย่างรุดด้วย 

อย่างไรก็ตาม ... ข้อดีดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น และเป็นเพียงการมโนภาพของแฟนบอลและนักวิจารณ์เท่านั้น อโมริม เองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีไม่แพ้ใคร และมันสำคัญกว่าที่เขาจะต้องเอาข้อดีที่คิดว่าจะได้หากมี รุด ฟาน นิสเตลรอย อยู่เป็นทีมงาน มาชั่งน้ำหนักกับข้อเสียที่จะตามมาด้วย ซึ่งดูแล้ว การมองกรณีนี้แบบ Worst case scenario หรือมองไปในสถานการณ์ที่แย่สุด อาจเป็นสิ่งที่ อโมริม เลือกตัดสินใจ "ไม่เอา" รุด ฟาน นิสเตลรอย ตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ และเจ้าตัวก็เป็นได้ 

 

Worst case scenario

การมองโลกในแง่ร้ายที่สุด เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรควรทำสำหรับการวางแผนริเริ่มอะไรใหม่ ๆ เพราะเมื่อคุณคาดการณ์เอาไว้ว่า สิ่งที่แย่ที่สุดหลังจากการตัดสินใจเกิดขึ้นแล้ว คุณจะรับมือกับได้หรือไม่ ถ้าได้ ... จะมีข้อเสียอะไรตามมาหรือไม่

มันไม่ใช่การมองโลกในแง่ร้าย แต่มันคือการเตรียมพร้อมระวังภัย ดีกว่ารอให้เรื่องเกิดขึ้น และไม่มีมาตรการรับมือใด ๆ เลย เพราะไม่เคยเตรียมตัวเอาไว้ ซึ่งการชั่งน้ำหนักดังกล่าว บางทีมันอาจนำมาสู่การตัดสินใจของ อโมริม ครั้งนี้ 

ประการแรก รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ใจนักเตะในทีมไปเรียบร้อย และเป็นที่รักของแฟนบอล แถมรู้จักคนในบอร์ดบริหาร หรือพนักงานในสโมสรดีกว่า อโมริม ผู้มาใหม่เป็นอย่างแน่นอน ... การชิงอำนาจในห้องแต่งตัว ก็ถือเป็นเกมการเมืองแบบหนึ่งเหมือนกัน ... ถ้าคุณมีผู้ช่วยที่รู้และเชี่ยวชาญเฉพาะทางดีกว่าคุณบางเรื่อง มันอาจจะเป็นเรื่องดี ถ้าเขาหวังดีกับคุณจากใจจริง เขาจะทำงานยากของคุณให้เป็นงานง่าย แต่กลับกัน ถ้าหากเขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามล่ะ ? แน่นอนว่าปัญหาสารพัดมันจะมาถึงคุณแน่ 

เรื่องนี้มันเหมือนกับการมีเสือสองตัว และเสือสองตัวยากที่จะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ ... ยกตัวอย่างสักเคสก็คือกรณีที่ โชเซ่ มูรินโญ่ โดนปลดจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปลายปี 2018 เขาโดนต่อต้านจากนักเตะในทีม นำโดย ปอล ป็อกบา จนเสียห้องแต่งตัว นั่นจึงมีข่าวว่า ป็อกบา ไม่ฟังคำสั่งของ มูรินโญ่ และเลือกฟัง "คนใน" ที่ถูกเลือกให้เข้ามาเป็นทีมสตาฟฟ์โค้ชของ มูรินโญ่ อย่าง ไมเคิล คาร์ริค อดีตนักเตะยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 

แม้ คาร์ริค จะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนี้ไปแบบไม่รู้ตัว มีภาพยืนยันหลายหนในการซ้อมของ ยูไนเต็ด ยุคนั้น ที่นักเตะหัวเราะร่วนเมื่อ คาร์ริค เป็นคนคุมซ้อม แต่พอ มูรินโญ่ เดินเข้ามากลับกลายเป็นบรรยากาศตึงเครียด และมีความเงียบเกิดขึ้นทันที ... เห็นได้ชัดว่านักเตะเลือกจะฟังคนอื่นมากกว่าเฮดโค้ช โดยที่ คาร์ริค นั้นก็ไม่ได้ตั้งใจ และเหตุผลที่นักเตะฟังเขา ก็เพราะเขาเป็นอีกขั้วหนึ่งที่ไม่ได้เข้ามาพร้อมกับทีมงาน มูรินโญ่ ตั้งแต่แรก 

เรื่องนี้สถานการณ์คล้าย ๆ กันกับเรื่องของ อโมริม และ ฟาน นิสเตลรอย ... อโมริม มีทีมงานมาด้วยแล้ว ส่วน รุด เป็นคนที่เกิดขึ้นจากการ "ผลักดัน" ของผู้บริหาร นักเตะ และ แฟนบอล 

ดังนั้น เมื่อ อโมริม ต้องเริ่มงานของเขาในฐานะผู้นำ แน่นอนว่าผู้นำทุกคนล้วนอยากให้เสียงของตัวเองดังฟังชัดที่สุด เป็นคำพูดชี้ขาดที่ทุกคนต้องทำตาม ... การมี ฟาน นิสเตลรอย ที่เหมือนน้ำเย็นเข้าลูบ อาจจะกลายเป็นเรื่องร้ายในภายหลัง เพราะความใจดีของเขาอาจจะรวมนักเตะให้เป็นอีกฝั่ง จนนำไปสู่การแปลกแยกภายในห้องแต่งตัวก็ได้ใครจะรู้ 

แน่นอนว่าการเป็นผู้ช่วยที่ใจดี สนิทชิดเชื้อกับนักเตะมันเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าพวกเขารับบทเป็น "ตำรวจดี" (Good Cop - Bad Cop) ได้ ก็เพราะพวกเขามีส่วนในการรับผิดชอบของผลการแข่งขันน้อยกว่า ทุกการพ่ายแพ้ทุกคนจะเล็งไปที่โค้ชใหญ่เป็นหลัก ตามบทบาทหน้าที่ที่สื่อรู้ 

และในกรณีที่ช่วงเริ่มต้น หาก อโมริม และทีมงานเกิดผลงานไม่ดีขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนบนหน้าสื่อ นั่นก็คือการเปรียบเทียบการทำงานของเขาที่กำลังย่ำแย่ กับ 4 เกมแห่งความสุขของแฟนบอลและนักเตะที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้

อีกประการหนึ่งสิ่งที่คุณเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็คือสื่ออังกฤษเป็นพวกปากไวมือไว รู้อะไรไม่ได้ ต่อให้รู้น้อยแค่หยิบมือก็เอาไปเขียนข่าวใหญ่โตได้ง่าย ๆ ...เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ มูรินโญ่ ที่มีข่าวว่าเขากับ ไมเคิล คาร์ริค และ คีแรน แม็คเคนน่า เห็นแนวทางการทำทีมคนละแบบ และนำมาซึ่งข่าวรอยร้าวที่จริงหรือไม่จริงก็ไม่มีใครรู้ แต่มันออกอากาศไปเรียบร้อยแล้ว 

มองย้อนกลับไปไม่ต้องไกลนัก เอริก เทน ฮาก ก็รับงานกับ ยูไนเต็ด โดยที่ไม่เอาคนเก่าไว้เช่นกัน ทั้ง คาร์ริค และ แม็คเคนน่า ในเชิงแท็คติก และงานบริหารจัดการทรัพยการหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "การซื้อ-ขาย" เทน ฮาก ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ราล์ฟ รังนิก ตัดสินใจออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา ทั้ง ๆ ที่เซ็นสัญญาไว้หลังจบภาระคุมทีมขัดตาทัพช่วงกลางปี 2022 

ทุกคนล้วนอยากทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ และเมื่อคุณเป็นผู้นำ การตัดสินของคุณคือสิ่งที่ต้องเด็ดขาด เพราะต้องไม่ลืมว่าคุณคือคนที่ต้องรับผิดชอบเป็นคนแรกหากความล้มเหลวเกิดขึ้น ... ดังนั้น อโมริม จะเก็บความเสี่ยงเอาไว้ไม่ได้ เขาแค่ต้องเริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง ทำงานตามแบบที่เขาเตรียมตัวมา และถ้ามันเกิดความล้มเหลว ผิดหวัง อย่างน้อย ๆ เขาก็พูดได้เต็มปากว่า มันคือความรับผิดชอบของเขาทั้งหมด ไม่ใช่เกิดจากใครคนหนึ่งที่เป็นคลื่นใต้น้ำ และทำให้เขาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ 

เส้นทางของการเป็นใหญ่ต้องเด็ดเดี่ยวและเชื่อมั่นในตัวเอง รูเบน อโมริม เลือกตัดสินใจจากเหตุผลนี้ ... ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคสมัยของเขาจะประสบความสำเร็จแค่ไหน จากแผนงานที่เขาได้เตรียมมาและจัดเต็มแบบไม่มีใครมาขัดใด ๆ ทั้งสิ้น 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/teams/manchester-united
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/alejandro-garnacho-makes-ruud-van-30350282
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-14071959/Rio-Ferdinand-Ruud-van-Nistelrooy-Ruben-Amorim-Manchester-United.html
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/casemiro-ruud-vannistelrooy-manutd-amorim-34087741
https://www.theguardian.com/football/2024/nov/11/ruud-van-nistelrooy-leaves-manchester-united-ruben-amorim

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ