ไม่มีการรั้งรอ และไม่มีความเห็นใจเกิดขึ้นอีกแล้ว เอริค เทน ฮาก สิ้นสุดการเป็นกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้จะให้คุมทีมถึงปี 2026 ด้วยการใช้ออปชั่นจากสัญญาที่เซ็นไว้ตอนเข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2022 ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
การปลดครั้งนี้เป็นธรรมหรือไม่ ? และเหตุใดที่ทุกคนไม่สามารถอดทนรอสิ่งที่เขาขายฝันไว้ได้อีกต่อไป
ติดตามเรื่องทั้งหมดที่ Main Stand
อยู่ต่อเพราะอะไร ?
จริง ๆ อนาคตของ เอริค เทน ฮาก ควรจะถูกตัดสินตั้งแต่วันจบฤดูกาล 2023-24 (ซีซั่นที่แล้ว) แล้วด้วยซ้ำ ... สุดท้ายเรื่องนี้ก็ลากมาจากวันนั้นได้เพียงไม่กี่เดือน สุดท้ายก็ไม่มีใครหรืออะไรช่วย เทน ฮาก ได้ในที่สุด
เรื่องของเขาถูกนำขึ้นมาพิจารณาภายใต้การเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารยุคใหม่ที่นำโดย เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ การพิจารณาครั้งแรกเกิดขึ้นในเกมพ่าย กาลาตาซาราย ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2023 ทำให้ ปีศาจแดง แพ้ 6 จาก 10 เกมในช่วงเปิดซีซั่นดังกล่าว
แต่ ณ เวลานั้น การประชุมได้ข้อสรุปว่าการปลดจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก เซอร์จิม และกลุ่ม INEOS มองว่า "โค้ชไม่ใช่ปัญหาหลัก" พร้อมตบท้ายว่า "ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ และ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะวางระบบเกี่ยวกับฟุตบอลที่ทันสมัย เพื่อไล่ตามทีมระดับแถวหน้าให้ทัน พร้อมทั้งมีถ้วยรางวัลประดับสโมสรด้วย"
จากปณิธานที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรก นำมาสู่การคว้าถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2023-24 เหนือ แมนฯ ซิตี้ อย่างสะใจแฟนบอล ย้อนกลับไปวันนั้นบรรยากาศแห่งความดีใจและดื่มด่ำกับความสุขหอมกรุ่นเสียจนกลบทุกกลิ่นที่เน่าเสียอยู่เบื้องหลัง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้วยแชมป์นั้น ทำให้ เทน ฮาก ได้ไปต่อ ด้วยการใช้ออปชั่นขยายสัญญาจากที่จะหมดหลังจบฤดูกาล 2024-25 ให้มีผลต่อเนื่องจนถึงหลังจบฤดูกาล 2025-26 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นสโมสรจะถูกต่ยอดไปอีกระดับ
สิ่งที่ INEOS เปิดเผยมามันค่อนข้างชัดว่า ทำไมพวกเขาถึงทนความผิดพลาดและผลงานที่น่าผิดหวังมาตลอด จนกระทั่งมาถึงตอนจบในวันนี้ ... พวกเขาไม่อยากจะปลดโค้ชและเปลี่ยนตัวเฮดโค้ชบ่อย ๆ เพราะมีบทเรียนจากโค้ชหลายคน ทั้ง หลุยส์ ฟาน กัล และ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่โดนปลดออกก่อนสัญญาหมด และเป็นการปลดในแบบที่บอร์ดบริหารชุดเก่าที่นำโดย "บ้านเกลเซอร์" ไม่ได้สนับสนุนโค้ชของตัวเองมากนัก
ดังนั้น ด้วยถ้วยรางวัลและประสบการณ์เลวร้ายครั้งเก่า เทน ฮาก จึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ อย่างน้อยมันก็สะท้อนมาในการใช้ออปชั่นขยายสัญญา รวมถึงการอนุมัติงบประมาณกว่า 200 ล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะใหม่ในแบบที่ เทน ฮาก ต้องการ แม้เจ้าตัวจะใช้เงินรวม ๆ กันทุกตลาดไปแล้วราว ๆ 600 ล้านปอนด์ก็ตาม
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลังคือ ผลงานในซีซั่น 2024-25 กลับสวนทาง และล้มเหลวเกินความเป็นจริง ... มันชัดเจน เข้าตาเสียจนบอร์ดบริหารยุคปัจจุบันไม่สามารถปล่อยผ่านได้อีกต่อไปแล้ว
รายงานจาก The Athletic ระบุเพิ่มว่า ความตั้งใจเดิมของบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด คือการให้ เอริค เทน ฮาก คุมทีมต่อไป ตามสัญญาที่เพิ่งต่อออปชั่นไปจนถึงกลางปี 2026
แต่ผลงานสุดย่ำแย่ ชนะเพียง 4 จาก 14 เกมรวมทุกรายการตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2024-25 ทำให้กลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจ อาทิ โอมาร์ แบร์ราด้า ซีอีโอ, แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬา และ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการเทคนิค หมดความอดทนและต้องเปลี่ยนใจ
โดยข้อมูลจาก ClubElo ที่ให้คะแนนวิเคราะห์ตามผลการแข่งขันและความแข็งแกร่งของคู่แข่ง ระบุว่า ขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเรตติ้ง ClubElo ต่ำที่สุด ตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือเมื่อปี 2013 โดยยุคที่ต่ำสุดก่อนหน้านี้ คือยุคที่ หลุยส์ ฟาน กัล คุมทีม ก่อนขึ้น ๆ ลง ๆ ในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก่อนดิ่งมาจนถึงตอนนี้ ... 10 ปีผ่านไป นอกจากจะไม่พัฒนาแล้ว พวกเขายังเดินถอยหลังไปหลายก้าว
และฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลงจากการนำทีม ปีศาจแดง บุกแพ้ เวสต์แฮม 1-2 และหลังจากจบเกมได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แถลงการณ์ปลด เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งก็ส่งตรงจากเว็บไซต์ของสโมสรจนได้
ความผิดพลาด ... ที่เขาไม่ยอมรับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แฟนบอลปีศาจแดงบางกลุ่มยังคงเชื่อว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ เอริค เทน ฮาก เพราะสโมสรแห่งนี้เหมือนกับคนป่วยที่จี้ไปตรงไหนก็เจ็บปวดร้องโอดโอยตรงนั้น ราวกับแผลเก่าแผลใหม่ปนเปกันเต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม การที่ เทน ฮาก จะลอยตัวเหนือความรับผิดชอบด้วยการบอกว่า "ไม่ใช่ความผิดของเขา" นั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีทีมไหนในโลกตัดสินกันแบบนั้น ... หน้าที่ของคนเป็นโค้ช คือคนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องผลงานในสนาม ต่อให้หลังบ้านคนจะทะเลาะกับนักเตะ คุมห้องแต่งตัวไม่ดีแค่ไหน แต่ตราบใดที่ลงสนามแล้วยังกระซวกคู่แข่งแบบเมามัน เมื่อนั้นจึงจะพูดได้เต็มปากว่า "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่โค้ช"
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ปีศาจแดง ในมือของ เทน ฮาก นั้นตรงข้ามโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าคุณจะตัดสินจากจุดไหนก็ตาม ทั้งความสำเร็จตามเป้าหมายหลักที่ตั้งไว้, สถิติตัวเลขเกี่ยวกับเกมการแข่งขัน ไปจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม พวกเขาสอบตกแบบที่โทษใครไม่ได้
จริงอยู่ที่ผลงานและพัฒนาการในระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญ แต่ผลงานระยะสั้นหรือว่ากันที่ปัจจุบันนั้นสำคัญอย่างที่สุด ปัจจุบันต้องดี หรืออย่างน้อยต้องแสดงให้เห็นทิศทางที่จะไปข้างหน้าให้ได้เท่านั้น การรออย่างอดทนของแฟน ๆ และบอร์ดบริหารจึงจะเกิดขึ้นได้ ... ซึ่งที่เป็นอยู่ต้องยอมรับว่า ถ้าจะให้รอและเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ย่อมมีข้อเสียมากกว่าข้อดีอย่างแน่นอน
ด้าน เอริค เทน ฮาก เอง ก็ยืนยันในทิศทางของการปฏิเสธความรับผิดชอบมาโดยตลอด ครั้งหนึ่งหลังเกมแพ้ สเปอร์ส คาบ้าน 0-3 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2024 เขาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองไม่ควรถูกไล่ออก และเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้
"เราต้องปรับปรุงองค์กรโดยรวม เรายังมีผู้เล่นบาดเจ็บอยู่บ้าง เราต้องการเวลาอีกสักหน่อย พวกเราทุกคนอยู่ในเรือลำเดียวกัน เจ้าของ ทีมงาน และผู้เล่นก็เช่นกัน ผมไม่มีความกังวลในเรื่องนั้น" เทน ฮาก ว่าไว้
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นแค่ 4 วัน เขาเพิ่งพาทีมเปิดบ้านเสมอ ทเวนเต้ 1-1 ใน ยูโรป้า ลีก และกล่าวหลังจบเกมว่า "เราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง"
ถึงตอนนี้มันแทบไม่สำคัญว่าเขาพูดอะไรไว้ตอนไหนบ้าง แต่ที่แน่นอนคือ สิ่งที่เขาพูดมันสวนทางกับความรู้สึกของคนที่ฟังแบบสุด ๆ เหมือนเป็นการพูดเพียงลมปาก ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บอกว่าทีมกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องจริง ๆ ให้เห็นเลย
สิ่งที่แฟนบอลและคนดูเห็น คือความผิดพลาดเดิม ๆ ไม่แตกต่างออกไปจาก 1 หรือ 2 ปีที่แล้ว การเล่นเกมรับที่ไม่มีระบบระเบียบ เกมรุกที่ต่างคนต่างไป หรือที่พูดกันในหมู่แฟนบอลว่า "บอลไม่มีทรง" ซึ่งเรื่องดังกล่าว แพทริก เดวิดสัน นักข่าวของ Sky Sports ก็ถาม เทน ฮาก ว่า
"ทำไมความผิดพลาดที่ซ้ำซากจึงเกิดขึ้นประจำ ... สิ่งเหล่านี้ทำไมไม่ถูกแก้ ?" ... เทน ฮาก ก็ตอบบกลับในเชิงปฏิเสธเหมือนเดิมว่า "ผมไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่หรือหมายถึงอะไร ?"
เดวิดสัน ตอบกลับทันทีด้วยประโยคแทงใจ และแทนใจแฟนบอลปีศาจแดงว่า "ผมหมายถึงการเสียประตูจากการสูญเสียการครองบอลเพื่อพยายามจะเล่นเกมรุกไง ? ... ผมหมายถึงการประสานงานที่ห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบไปเยอะเลย"
เทน ฮาก ถึงกับตอบไม่ถูก และเลิกปฏิเสธคำถามนี้ เขาตอบสั้น ๆ ว่าเขาเห็นด้วยว่าทีมเสียบอลจากจังหวะโต้กลับง่ายเกินไป ... และเขาตบท้ายด้วยประโยคคลาสสิกว่า "เรามีเวลาที่จะแก้ไขเพื่อไม่ให้มันเกิดซ้ำอีก"
นี่คือประโยคที่เขามักพูดอยู่บ่อย ๆ ... งานแก้ปัญหาในสนามคืองานหลักของโค้ช แต่ปัญหาในสนามมากมายของ ยูไนเต็ด ก็เหมือนเดิม คุณจะเอาเรื่องอะไรล่ะ ? การเสียประตูง่าย ๆ การป้องกันลูกตั้งเตะ การสื่อสารภายในสนาม การเล่นเกมรุก การจบสกอร์ หรือ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดคือใคร ? คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเหตุผลเดียว นั่นคือมันไม่เคยถูกแก้ไขให้เกิดขึ้นจริง
การแก้ปัญหาไม่ได้ หมายความว่าเฮดโค้ชของคุณกำลังทำงานได้ไม่ตรงที่มอบหมาย และบวกกับเรตติ้ง ClubElo ที่กล่าวถึงในช่วงแรก ที่สุดแล้วมันจึงเป็นเวลาอันสมควรที่ เอริค เทน ฮาก พ้นจากตำแหน่งที่เขาพยายามปกป้องตัวเองมาโดยตลอด
คุณหนีความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อถึงเวลาที่ต้องพิพากษาและมองกลับไปในปี 2022 ปีที่ ยูไนเต็ด แต่งตั้ง เทน ฮาก ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือคนที่แฟน แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนโหวตว่า คนนี้คือคนที่พวกเขาต้องการมากที่สุดจากแคนดิเดตทั้งหมดที่มี
ไล่เรียงความสำเร็จครั้งเก่า เทน ฮาก คุมทีม อูเทร็คท์ ไปเล่นถ้วยยุโรปได้สำเร็จในช่วงที่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าโค้ชครั้งแรก ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ได้สามสมัยกับ อาแจ็กซ์ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้พาอาแจ็กซ์เข้าสู่รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2018-19 ได้อย่างน่าตื่นเต้น และได้รับคำชมมากมายจากสไตล์การเล่นที่ไหลลื่นและกล้าหาญของทีม
อาแจ็กซ์เป็นสโมสรใหญ่ในแบบของตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้รับการคาดหวังให้แข่งขันกับทีมชั้นนำของยุโรปทุกปี และไม่ได้เผชิญกับการตรวจสอบในระดับเดียวกันกับยูไนเต็ด
การเป็นโค้ชที่ดีไม่เพียงพอต่อการประสบความสำเร็จที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด คุณต้องสามารถเติบโตได้แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล และนั่นหมายความว่า คุณต้องมีลักษณะการรับมือกับความกดดันระดับพิเศษ และคุณเองก็ต้องมีความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์รอบด้าน บริหารงาน และบริหารคนไปพร้อม ๆ กันด้วย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีเสน่ห์อันเร่าร้อนและได้รับความเคารพจากทุกคนรอบข้าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งที่ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะเป็น น่าเสียดายที่ เทน ฮาก กลับเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
โค้ชชาวดัตช์คนนี้ดูเป็นคนดี แต่ก็ไม่ค่อยสร้างความมั่นใจให้ใคร เขาไม่ใช่คนสื่อสารเก่ง มักพูดเป็นปริศนาแทนที่จะพูดเป็นประโยคชัดเจน ซึ่งความไม่ชัดเจนนี่แหละที่ทำให้โดนนักข่าวถามจี้ จนตอบประโยคที่ทำให้เขาโดนล้อเลียนอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเรื่อง 2 ปี 2 แชมป์ของเขา หรือเรื่องใด ๆ ก็ตามที่เขากล่าวอ้างขึ้นมาแบบข้าง ๆ คู ๆ โดยที่ไม่สามารถเอาหลักฐานมายืนยันได้เลยจริง ๆ ว่าเขาคือคนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด รอคอย และเป็นคนที่ใช่ในระยะยาว
งานที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใหญ่เกินกว่าที่ เทน ฮาก จะรับมือได้ และมันก็เป็นเช่นนั้นมาตลอด แม้แต่โทรฟี่แชมป์ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ที่ เทน ฮาก ชี้ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเขา แต่ถึงตอนนี้มันก็ไม่ได้มีน้ำหนักอย่างที่เขาคิดอีกต่อไป เพราะปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ... สิ่งที่คุณทำในปัจจุบันจะส่งผลโดยตรงไปยังอนาคต และต้องกลับสู่ประโยคคลาสสิกอีกครั้งว่า "ถ้าปัจจุบันไม่ดี อนาคตจะดีได้อย่างไร ?"
การปลดในเวลานี้คือสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด แม้กระทั่งสำหรับ เทน ฮาก เอง เขาได้ทุกอย่างที่เขาได้รับ ทีมงานโค้ชที่คัดเลือกด้วยตัวเอง นักเตะในแบบที่จิ้มคนไหนก็ได้คนนั้น หรือแม้กระทั่งระยะเวลาการคุมทีมที่นานเกือบ ๆ 3 ปี ทั้ง ๆ ที่มีเรื่องให้วิจารณ์ในทุก ๆ สัปดาห์ ... แม้จะไม่อยากรับผิดชอบ แต่ตอนนี้เขาหนีความรับผิดชอบนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ดังนั้น เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขอเวลาเพิ่มเติมอีกต่อไป ทั้งหมดที่เราได้เห็น นี่คือทีมของเขา นี่คือผลงานของเขา และมีเขาเพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/athletic/5854757/2024/10/28/erik-ten-hag-sacked-manchester-united/
https://www.goal.com/en/lists/six-reasons-man-utd-must-sack-erik-ten-hag-disgusting-tottenham-defeat/blt18e0f0328c0f2c5f#csd3c4fc3c65589df0
https://www.goal.com/en-gb/lists/sir-jim-ratcliffe-man-utd-shambles-erik-ten-hag-2024-25-season-unsalvageable-ineos-renege-contract-call/blta075c758a2c7d142#cs87cd24a17c116efc
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/ten-hag-sacked-man-utd-30036238
https://www.manutd.com/en/news/detail/man-utd-official-club-statement-on-erik-ten-hag-28-oct
