Feature

WWE x Netflix : ดีลยักษ์ 5,000 ล้าน ที่จะพามวยปล้ำไปขึ้นจอเมืองไทยและทั่วโลก | Main Stand

"จะดูมวยปล้ำของ WWE ได้ที่ไหน ?"

 


เป็นคำถามที่แฟนมวยปล้ำไทย คอมเมนต์สอบถามอยู่บ่อยครั้ง เมื่อ WWE สมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปี 2024 จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในศึก WrestleMania 40 จนทำให้แฟนมวยปล้ำยุคเก่าที่เลิกติดตามไปนานแล้ว หรือคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งสนใจมวยปล้ำ อยากหาช่องทางติดตามรับชม

แล้วในที่สุด สิ่งที่แฟนมวยปล้ำ WWE เมืองไทยถามถึงก็ได้คำตอบ เมื่อ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลก เตรียมนำมวยปล้ำของ WWE มาสตรีมถ่ายทอดสดให้ชมในปี 2025 ทั้งรายการรายสัปดาห์ RAW, Smackdown!, NXT หรือกระทั่งศึกใหญ่แบบ Royal Rumble, WrestleMania และ Summerslam ก็จะมีให้ชมด้วยเช่นกัน

การจับมือกันของ WWE และ Netflix ถือเป็นดีลที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการมวยปล้ำสไตล์ สปอร์ต เอนเตอร์เทน ไปทั่วโลก ทุกฝ่ายมีแต่ได้กับได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้บริโภค และที่มาที่ไปเป็นอย่างไร Main Stand จะพาไปหาคำตอบ

 

ดีลสะท้านโลก 5,000 ล้าน

ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2024 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกอย่าง Netflix และ TKO Group ผู้ถือสิทธิ์ของ WWE ประกาศจับมือกัน โดยระบุว่า มวยปล้ำของ WWE ไม่ว่าจะเป็นโชว์รายสัปดาห์อย่าง RAW, Smackdown! และโชว์ของเหล่าดาวรุ่งกำลังพัฒนา NXT จะถูกนำมาออนแอร์แบบสด ๆ ทาง Netflix ทุกสัปดาห์ ดูพร้อมกันทั่วโลกตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 เป็นต้นไป

รายงานเผยว่า Netflix ทุ่มทุนสร้างควักเงินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโชว์มวยปล้ำของ WWE จำนวน 10 ปี มูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เล่นเอาสถานีทีวีเจ้าต่าง ๆ ที่อยากได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมวยปล้ำของ WWE ต้องม้วนเสื่อยอมแพ้กลับบ้านไป เช่นเดียวกับ USA Network สถานีทีวียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่ถ่ายทอดสดรายการ RAW อยู่ ก็จะฉายไปจนถึงสิ้นปี 2024 ก่อนหมดสัญญาแล้วส่งต่อให้ Netflix

อย่างไรก็ตาม ทาง USA Network ยังมีดีลปลอบใจ คือการได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการ Smackdown! ในสหรัฐอเมริกาจนถึงปี 2029 ส่วน NXT ในสหรัฐอเมริกาจะฉายทาง The CW จนถึงปี 2029 เช่นกัน หลังจากนั้นก็จะส่งต่อให้ Netflix ต่อไป

เดิมที Netflix จะเริ่มฉายมวยปล้ำของ WWE ที่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และ ละตินอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของ WWE ต้อนรับปีใหม่ 2025 แต่อันที่จริงแล้ว ดีลนี้จะทำให้ Netflix ได้ลิขสิทธิ์ฉายมวยปล้ำของ WWE ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่แฟนมวยปล้ำไทยซึ่งเป็นสมาชิกของ Netflix ก็จะได้ชมมวยปล้ำที่พวกเขาชื่นชอบในสตรีมมิ่งยี่ห้อนี้ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เช่นเดียวกับศึกใหญ่ Royal Rumble, WrestleMania และ Summerslam ก็จะชมสดและดูย้อนหลังได้ด้วย

นอกเหนือจากมวยปล้ำถ่ายทอดสด WWE ยังเตรียมขนคอนเทนต์ออริจินัลต่างๆ เช่น สารคดีนักมวยปล้ำชื่อดัง, บทสัมภาษณ์ในอดีต, แมตช์ในความทรงจำ และคอนเทนต์ต่าง ๆ ในอนาคต มาให้ชมกันแบบจุใจ

สำหรับกำหนดการถ่ายทอดสด Netflix ในไทย จะประเดิมถ่ายทอดสดโชว์ของ Smackdown! วันที่ 4 มกราคม 2025 ต่อด้วย RAW วันที่ 7 มกราคม 2025 และ NXT วันที่ 8 มกราคม 2025 ส่วนศึกใหญ่โชว์แรกของปีอย่าง Royal Rumble ก็จะถ่ายทอดสดดูพร้อมกันทั่วโลก 1 กุมภาพันธ์ 2025

 

WWE และ Netflix ได้อะไรจากดีลนี้ ?

ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับโลกธุรกิจ ที่ถ้าหากบริษัทเอกชนทั้งสองฝ่าย มองเห็นประโยชน์และเม็ดเงินมหาศาลจากการร่วมงานกัน ดังนั้นไม่ว่าดีลอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะดีลของ Netflix กับ WWE แม้จะไม่เคยร่วมงานกันแบบจริงจังมาก่อน

ใครที่ติดตามมวยปล้ำของ WWE ในช่วงปี 2023 เป็นต้นมา จะเห็นว่าสมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก เติบโตและประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยคุณภาพโชว์มวยปล้ำทั้งรายการรายสัปดาห์ และศึกใหญ่ประจำเดือนที่ยกระดับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนมาถึงจุดพีคที่สุดในปี 2024 กับเรื่องราว "Finish the Story" การไล่ล่าเข็มขัดแชมป์โลกของ โคดี้ โรดส์ พระเอกเบอร์ 1 ของสมาคม โดยมีตัวร้ายอย่าง โรมัน เรนจ์ส และ เดอะ ร็อก ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล เป็นตัวขัดขวาง

การเล่าเรื่อง Finish the Story ที่เข้มข้นมาตลอด 3 เดือน บวกกับ เดอะ ร็อก ที่เล่นบท "ไฟนอล บอส" ตัวร้ายที่ไล่กระทืบพระเอกแบบเข้าถึงบทบาท เรียกความสนใจจากแฟนมวยปล้ำพันธุ์แท้ที่ติดตามมานาน และคนที่เลิกดูไปแล้วให้กลับมาติดตามอีกครั้งได้แบบอักโข ก่อนมาถึงบทสรุปอันงดงามในศึก WrestleMania 40 เดือนเมษายน ที่ โคดี้ โรดส์ โค่น โรมัน เรนจ์ส คว้าแชมป์โลกสมัยแรกในชีวิตได้สำเร็จ

ที่ผ่านมา WWE แม้จะเป็นสมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้มีแฟนคลับทั่วโลก ไปที่ไหนใครก็รู้จัก ลูกค้าส่วนใหญ่คือตลาดแฟนฝั่งอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ลาตินอเมริกา, ซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ฝั่งยุโรป และ เอเชีย มีฐานแฟนคลับไม่เยอะเท่า โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่มีสมาคมมวยปล้ำของตัวเองหลายแห่ง และชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะดูจะเชียร์นักมวยปล้ำโลคอลกันมากกว่า

แต่เมื่อจบศึก WrestleMania 40 ความนิยมของ WWE ของทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น กระแสตอบรับในโชว์รายสัปดาห์ของทั้ง RAWกับ Smackdown! เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะอยากติดตามดูนักมวยปล้ำยุคปัจจุบันอย่าง โคดี้ โรดส์, กุนเธอร์, เซมี่ เซน, เจย์ อูโซ่ ว่ามีเส้นทางอย่างไรต่อไป เสมือนดูละครภาคต่อ ขณะที่อีเวนต์ในต่างประเทศเช่น Backlash ที่ฝรั่งเศส, Clash at the Castle ที่สกอตแลนด์ และ Bash in Berlin คนดูก็ส่งเสียงกันดังกระหึ่ม และเชียร์กันแบบถึงรสยิ่งกว่าคนดูในอเมริกาเสียอีก

เช่นเดียวกับอีเวนต์ที่ญี่ปุ่น ที่ WWE ตัดสินใจกลับไปทำอีเวนต์ที่แดนปลาดิบอีกครั้งในรอบ 5 ปี กระแสตอบรับจากแฟนมวยปล้ำที่ญี่ปุ่นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ตั๋วเข้าชม Sold Out ที่โตเกียวและโอซาก้า แฟนมวยปล้ำมารอต่อคิวซื้อของที่ระลึกกันตั้งแต่เช้าจนของหมดเกลี้ยง แล้วเมื่อถึงคิวที่เหล่าซูเปอร์สตาร์ออกมาขึ้นเวที ก็ส่งเสียงเชียร์กันดังสนั่นจนทีมงาน WWE ประทับใจอย่างมาก

นั่นเลยทำให้ WWE ต้องการขยายฐานแฟนคลับต่างประเทศของตัวเองให้เพิ่มขึ้น ซึ่งพวกเขาวางแผนกันมาตั้งแต่ปี 2023 แล้ว ก่อนจะได้ Netflix มาช่วยเติมเต็มให้โชว์มวยปล้ำของ WWE ออกไปสู่วงกว้างยิ่งกว่าเดิม ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่มีสมาชิกจ่ายค่าบริการรับชมอยู่มากกว่า 277 ล้านคนทั่วโลก

ส่วน Netflix การได้ WWE มาก็ยิ่งตอกย้ำแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม คนที่เป็นสมาชิกมาตลอดจะเห็นได้ว่าช่วงหลังนอกจากสรรหาซีรีส์ สารคดี และภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลกมาให้สมาชิกรับชมแล้ว Netflix ยังกระโดดเข้าสู่โลกกีฬา ด้วยการถ่ายทอดสดกีฬาต่าง ๆ ให้ชมอย่าง เทนนิส มวย อเมริกันฟุตบอล รวมถึง มวยปล้ำ ที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้รับชม

ด้วยค่าสมัครสมาชิกรายเดือนที่มีให้เลือกหลายระดับ ความชัดระดับ HD และ 4K ใช้ง่าย แถมเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอยู่แล้ว Netflix จะได้สมาชิกหน้าใหม่ เป็นแฟนมวยปล้ำเข้ามาสมัครสมาชิกเพื่อชมมวยปล้ำของ WWE กันมากขึ้น

ส่วนแฟนมวยปล้ำที่เป็นสมาชิกของ Netflix อยู่แล้ว นอกจากจะได้ดูได้เชียร์นักมวยปล้ำคนโปรดง่ายขึ้น ยังไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิกเพิ่มด้วย เพราะเดิมทีใครจะดู WWE หรือศึกใหญ่ประจำเดือน ต้องเสียเงินค่าสมัครดูในแอปพลิเคชั่น WWE Network เดือนละเกือบ 400 บาท แต่พอมารวมกัน Netflix แล้ว ก็ไม่ต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อนอีกต่อไป ประหยัดได้เยอะ

 

มวยปล้ำพากย์ไทยใน Netflix ?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า มวยปล้ำของ WWE ที่เคยได้รับความนิยมในเมืองไทยมากที่สุดในยุค 90 จนถึงยุคมิลเลนเนียม มาจากเสียงพากย์ภาษาไทยที่ทั้งสนุกสนาน เฮฮา และถึงกึ๋นของ "น้าติง" อาจารย์ สุวัฒน์ กลิ่นเกษร นักพากย์มวยปล้ำชื่อดังผู้เป็นตำนานของประเทศไทย

ช่วงเวลาที่มวยปล้ำ WWE ฉายในเมืองไทย น้าติง ได้ฝากเสียงพากย์สนุก ๆ ให้แฟนมวยปล้ำไทยได้ติดตามกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยฉายทาง IBC (หรือ TrueVisions ในปัจจุบัน), CTH และ 3BB โดยยุคหลังที่มวยปล้ำถ่ายทอดสดทาง 3BB น้าติง ได้ชวน "ปอ" วสุ กลิ่นเกษร ลูกชาย มาพากย์คู่กัน ช่วยเสริมข้อมูลเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อ 3BB หมดสัญญาฉายมวยปล้ำ WWE ในปี 2024 ก่อนที่จะรอเข้า Netflix ตามสัญญาใหม่ ทำให้แฟนมวยปล้ำไทยตั้งคำถามว่า มวยปล้ำของ WWE ที่ถ่ายทอดสดทาง Netflix ประเทศไทย น้าติง กับ ปอ จะมีโอกาสมาให้เสียงภาษาไทยหรือไม่ ซึ่งทั้งสองคนระบุว่ายังไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้ได้ ณ เวลานี้

ทั้งนี้ ย้อนไปดูการถ่ายทอดสดเทนนิสทาง Netflix คู่ระหว่าง ราฟาเอล นาดาล กับ คาร์ลอส อัลคาราซ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2024 จะพบว่านอกจากเสียงพากย์ภาษาอังกฤษของต้นทางแล้ว ไม่มีเสียงพากย์หรือคำบรรยายภาษาอื่นให้เลือกฟังเลย ดังนั้นหากแฟนมวยปล้ำอยากฟังเสียงพากย์ภาษาไทย ก็ต้องลุ้นกันว่า Netflix จะลงทุนทำเพิ่มในส่วนนี้หรือไม่

แต่สำหรับแฟนมวยปล้ำที่ไม่ได้เน้นเรื่องเสียงพากย์ไทย ขอแค่มีมวยปล้ำให้รับชมได้แบบสะดวกสบาย เข้าถึงง่าย ในราคาที่ไม่แพงเกินไป ก็ถือเป็นเรื่องที่แฟน ๆ พึงพอใจแล้ว

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.reuters.com/business/media-telecom/netflix-stream-wwe-raw-2025-2024-01-23/
https://about.netflix.com/en/news/netflix-to-become-new-home-of-wwe-raw-beginning-2025
https://www.netflix.com/tudum/articles/wwe-raw-netflix-release-date-news
https://www.statista.com/statistics/250934/quarterly-number-of-netflix-streaming-subscribers-worldwide/

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ