Feature

ฮันซี่ ฟลิค : ครูใหญ่เยอรมันที่ปลุกพลังห้าวหนุ่ม ๆ จาก ลา มาเซีย | Main Stand

"ผมยอมรับว่าตอนแรกผมนึกภาพไม่ออกว่ากุนซืออย่าง ฮันซี่ ฟลิค จะสามารถปรับตัวและทำ บาร์เซโลน่า ได้ดีขนาดนี้" "เม้ง" ชุมพตน์ ทรงสายสกุล หรือที่หลายคนคุ้นชื่อจากนามปากกา "ซัมเมอร์ฮิลล์" กูรูด้านฟุตบอลต่างประเทศว่าเช่นนั้น ก่อนจะเริ่มยกย่องชื่นชมการทำงานของ ฟลิค ที่เปลี่ยน บาร์เซโลน่า ได้จริง ๆ 

 

ณ ตอนนี้ บาร์เซโลน่า คือจ่าฝูงของ ลา ลีกา สเปน หลังลงสนามฤดูกาล 2024-25 ไป 9 นัด พวกเขานำ เรอัล มาดริด อยู่ 3 คะแนน ... แม้ไม่มากนัก แต่ใครจะคิดว่า บาร์ซ่า จะเข้าที่เข้าทางได้เร็วขนาดนี้ 

ดังนั้นคำถามที่น่าสนใจคือ ฮันซี่ ฟลิค ทำงานของเขาแบบไหน ทำไมจึงเกิดผลงานยอดเยี่ยมที่หลายคนไม่อยากจะเชื่อ ? ติดตามที่ Main Stand

 

เรียกร้องคุณภาพขั้นสุด

ฮันซี่ ฟลิค อาจจะประสบความสำเร็จมากกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ก็ล้มเหลวมาก ๆ เช่นกันในการคุมทีมชาติเยอรมัน ซึ่งทำให้เขาว่างงานอยู่พักใหญ่ จนกระทั่ง บาร์เซโลน่า ยักษ์หลับแห่งสเปน กำลังต้องการใครสักคนเข้ามาช่วยแก้วิกฤติของทีมที่เกิดขึ้นมาหลายปี

ปัญหาของ บาร์เซโลน่า ในช่วงหลังคือการเสริมทัพซื้อนักเตะ อันที่จริงไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีเงิน แต่ปัญหารายรับที่ไม่มากพอจะรองรับรายจ่าย ทำให้พวกเขามีปัญหากับ ลาลีกา ในเรื่องเพดานค่าเหนื่อยนักเตะ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเปย์ไม่อั้นตามประสาเจ้าบุญทุ่ม แต่เมื่อถูกสั่งให้ลด ก็จำเป็นต้องขอลดค่าเหนื่อยลง ไม่ก็ต้องหาทางจำหน่ายออก ซึ่งก็ไปติดเรื่องค่าเหนื่อยอีก กลายเป็นปัญหาซ้อนปัญหาตามมาอีกหลายเรื่อง

เรื่องดังกล่าวทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องทำทีมแบบมีข้อจำกัดสูงในช่วงเวลานี้ นอกจากความต้องการผลงานดี ๆ ในฟุตบอลลีกและฟุตบอลยุโรปแล้ว พวกเขายังมีข้อจำกัดในการเลือกใช้นักเตะ ที่เมื่อเจอปัญหาการเสริมทัพ ก็จำต้องผลักดันผลผลิตจากระบบอคาเดมี่สโมสร โดยเฉพาะกลุ่มนักเตะหนุ่มที่โตมาจาก ลา มาเซีย ศูนย์ฝึกชื่อดังที่พวกเขาแสนภาคภูมิใจ 

ในเมื่อเป้าหมายค่อนข้างสูง และข้อจำกัดที่มีก็ไม่น้อย ฟลิค ที่เป็นคนนอก จึงเริ่มต้องทำให้นักเตะของ บาร์เซโลน่า เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจากทุก ๆ คน ณ ตอนนี้เขาไม่สนว่าใครจะเด็ก ใครจะแก่ มีแต่ทุกคนต้องมีผลงานที่ดีพอที่จะได้ลงเล่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือต้องแสดงความมุ่งมั่นออกมาให้มากที่สุดด้วย นั่นคือสิ่งแรกที่เขาเรียกร้องจากเด็ก ๆ ในทีม 

ย้อนกลับไปในเกมกระชับมิตรช่วงปรีซีซั่นนัดแรกของ บาร์เซโลน่า จบลงด้วยชัยชนะในการดวลจุดโทษเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ ฟลิค กลับแสดงความโกรธออกมาหลังจากนักเตะเข้าห้องแต่งตัวที่สนาม แคมปิ้งเวิลด์ เมือง ออร์แลนโด้ สหรัฐอเมริกา 

"ฮันซี่ ฟลิค โกรธมาก สิ่งที่เขาสั่งให้ลูกทีมทำในเกมแรกคืออย่าให้ แมนฯ ซิตี้ เล่นง่ายเด็ดขาด แม้ว่าทีมชุดนั้นเราจะใช้เด็กท้องถิ่นที่โตจากอคาเดมี่ลงสนามเกือบครึ่งทีม ... ผลลัพธ์ออกมาคือเด็ก ๆ ของเรากดดัน แมนฯ ซิตี้ ได้แค่ 70 นาทีเท่านั้น พวกเขาก็หมดแรงเพราะเพิ่งกลับมารวมตัว ซึ่งนั่นทำให้ฟลิคโกรธมาก นั่นคือวินาทีแรกที่ผมประทับใจ ผมชอบการเรียกร้องของเขามาก ๆ" โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ว่าเช่นนั้น 

สิ่งนี้แหละที่ทำให้ ฟลิค ได้มาเป็นโค้ชของ บาร์เซโลน่า เพราะมีการเปิดเผยจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ ลาปอร์ต้า ว่า ท่านประธานรายนี้หลงรักแพชชั่น และวิธีการของฟลิกมานานแล้ว เขาเคยพยายามคิดจะจ้าง ฟลิค เข้ามาคุมบาร์เซโลน่าตั้งแต่ปี 2021 แล้ว เพียงแต่ ฟลิค ที่เพิ่งออกจาก บาเยิร์น เลือกที่จะไปคุมทีมชาติเยอรมันก่อน 

การปฏิเสธครั้งนั้นทำให้ ลาปอร์ต้า จึงแต่งตั้ง ชาบี เอร์นานเดซ มาเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และอย่างที่เราได้ทราบกัน เมื่อ ชาบี ผลงานไม่ดี และ ฟลิค กำลังว่าง สุดท้าย บาร์เซโลน่า ก็จ้าง ฟลิค คนที่เคยพา บาเยิร์น ถล่ม บาร์เซโลน่า 8-2 ก่อนพาทีมคว้า 3 แชมป์เมื่อปี 2020 เข้ามาคุมทีมได้ในท้ายที่สุด

เมื่อฟลิคเข้ามาก็อย่างที่ได้กล่าวไว้ คาแร็คเตอร์แบบโค้ชเยอรมัน แข็งกร้าว เชื่อมั่นในระบบและแนวทางของการทำงานร่วมกัน ไม่อ่อนข้อให้กับข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ... เขาพยายามจัดการทุกอย่างเท่าที่ตัวเองจัดการได้ และนั่นคือวิธีการที่ทำให้นักเตะ บาร์เซโลน่า ให้ใจกับเขา ... ขนาดที่ว่าในเกมแรกของ ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ ฟลิค ใช้นักเตะอายุ 17 ปีลงสนามถึง 3 คนเลยทีเดียว 

แหล่งข่าวใกล้ชิดได้เปิดเผยกับ ESPN อีกว่า ข้อความที่ฟลิกส่งถึงนักเตะ บาร์เซโลน่า นั้น "ตรงไปตรงมาและชัดเจน" ความตรงต่อเวลาคือหนึ่งในความเชื่อพื้นฐานของเขา แต่เขาก็ไม่ได้ออกกฎเกณฑ์อะไรมากมายเกินกว่านั้น ไม่มีระบบปรับหรือลงโทษใด ๆ ทั้งสิ้น  เขาปล่อยให้นักเตะดูแลตัวเอง และเห็นคุณค่าของจุดที่พวกเขากำลังยืนอยู่ และรู้ว่างานที่พวกเขาทำสำคัญแค่ไหน 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฟลิคเริ่มแก้เพื่อให้ทีมเป็นทีมมากขึ้น นั่นคือเรื่องของวันแข่งขันที่เขาต้องการให้นักเตะใส่ชุดฟอร์มของสโมสร แทนที่จะแต่งแบบไหนก็ได้เหมือนการเดินแฟชั่นก่อนเกม นอกจากนี้ยังมีการนัดรวมตัวค้างคืนกันที่โรงแรมในคืนก่อนการแข่งขันเพื่อสร้างความสามัคคีในทีม ... เขาจะขุดสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของนักเตะคนหนึ่งออกมานั่นคือ "ทัศนคติ" เพราะทัศนคติที่ดี จะนำมาซึ่งความทุ่มเทในการทำงาน และมันจะทำให้พวกเขาเป็นนักเตะที่ดีขึ้นได้แม้ว่าจะอายุน้อยหรือมากแค่ไหนก็ตาม

 

บอลฟลิค ต้องฟิต

ในซีซั่น 2023-24 ตอนที่ ชาบี คุมทีมอยู่ บาร์เซโลน่า เป็นทีมอ่อนลงในช่วงท้ายเกม จนโดนแซงกลับมาเป็นฝ่ายแพ้ในลีกบ่อยครั้ง โดยมีเกมที่เห็นภาพชัด ๆ นั่นคือเกมกับ เรอัล มาดริด ทั้ง 2 เกมที่พวกเขาแพ้เพราะประตูท้ายเกม, 1 เกมกับ จีโรน่า และ 1 เกมกับ บียาร์เรอัล ซึ่งเกมเหล่านี้เป็นเกมที่พวกเขาเสียประตูหลังนาทีที่ 65 ทั้งสิ้น รวมเสียถึง 12 ลูก ... ฟลิค ถูกสั่งมาเป็นพิเศษให้แก้เรื่องนี้

ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้ไม่มีคนสั่ง เขาก็ต้องแก้เรื่องนี้อยู่แล้ว 

ทุกคนรู้ดีว่าฟุตบอลของ ฮันซี่ ฟลิค เป็นแบบไหนจากตอนที่เขาคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค นักเตะในยุคนั้นแต่ละคนมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น และพวกเขามีความอึดที่จะวิ่งขึ้นลงทั้งเกม ไม่ว่าจะเกมใหญ่หรือเล็ก ดังนั้นเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าบอลของเขา ถ้านักเตะคนไหนไม่ฟิต ไม่น่าจะเล่นไหวแน่ ๆ 

เรื่องการเปลี่ยนทีมงานโค้ชถือเป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ แต่ ฟลิค ติดต่อและพูดคุยกับ เดโก้ ที่เป็นผู้อำนวยการสโมสรในเวลานี้มาตลอด เพื่อให้นำโค้ชฟิตเนส หรือทีมฟิตเนสที่เชี่ยวชาญเข้ามาทำงานเพื่อรีดศักยภาพของนักเตะออกมาให้เต็มที่ 

ซึ่งหลังจากพวกเขา 2 คนคุยกันได้ไม่กี่วันหลังจาก ฟลิค รับงาน บาร์เซโลน่า ก็มีโค้ชใหม่ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านความฟิตและสภาพร่างกายเพิ่มขึ้นอีกหลายราย โดยโค้ชที่มาพร้อม ๆ หรือต่อจาก ฟลิค ได้แก่ มาร์คุส ซอร์ก, โทนี่ ทาปาโลวิช และ ไฮโก้ เวสเตอร์มันน์ ที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยโค้ชของเขา

ขณะที่ทีมฟิตเนสนั้น เดโก้ จัดให้ด้วยการไปตามจีบ ฮูลิโอ ตูส ซึ่งเคยร่วมงานกับ อันโตนิโอ คอนเต้ ตอนที่ทำงานกับ ยูเวนตุส, อินเตอร์ และ สเปอร์ส เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมฟิตเนสคนใหม่ 

"ผมดีใจเป็นอย่างยิ่งที่เราได้กลุ่มโค้ชที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามา เขาจะทำให้นักเตะของเราสามารถฝึกฝนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีพละกำลังที่มากพอจะเล่นในความเข้มข้นระดับสูงได้ครบ 90 นาที ตัวของผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสเลย ดังนั้นผมจึงพยายามเอาคนที่เก่งที่สุดเข้ามา เพราะนั่นคือสิ่งที่เราพอจะปรับปรุงได้" เดโก้ ตำแหน่ง ผอ.ฟุตบอล กล่าว

เรื่องนี้นักเตะในทีมหลายคนก็ออกมายอมรับว่าความเข้มข้นในการซ้อมสูงกว่าที่ผ่าน ๆ มา โดยกลุ่มดาวรุ่งหลายคนที่ขยับจากทีมชุดเบขึ้นมาเป็นทีมชุดใหญ่เต็มตัวในปีนี้ อาทิ มาร์ค คาซาโด, เปา กูบาร์ซี่, เอ็คตอร์ ฟอร์ต, เคร์ราร์ด มาร์ติน, แซร์จี้ โดมิงเกวซ ถูกสร้างกล้ามเนื้อด้วยโปรแกรมเฉพาะ เพื่อให้พวกเขาทนทานกับการเข้าปะทะในเกมระดับสูงได้ 

แม้ปัจจุบันกลุ่มนักเตะที่เอ่ยชื่อมาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แต่พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการหมุนเวียนนักเตะของ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนี้ ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้พวกเขาอายุแค่ 17-19 ปีเท่านั้น พวกเขายังมีอนาคตที่ดีมาก ๆ รออยู่แน่ ๆ ถ้าพวกเขาเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้ลงสนาม และการมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นแบบนี้ 

"ตอนนี้ทีมของเราทำงานหนักมากกว่าเมื่อก่อนมาก ๆ ผมคิดว่าโค้ชฟิตเนสที่มาใหม่เข้ามาช่วยข้อนี้ได้เยอะจริง ๆ การซ้อมของเขา ทำให้มันเห็นผลในการแข่งขันจริง ทีมของเราไม่ยุบง่าย ๆ เรามีแรงมากพอที่จะเล่นด้วยความเข้มข้นแบบเดิมในช่วง 70 หรือ 80 นาที ร่างกายของพวกเขาอยูี่ในระดับที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ" เปดรี้ กองกลางดาวรุ่งที่กลายเป็นหัวใจของทีมชุดนี้ซูฮกเรื่องความฟิตของทีม

 

มีแรงเมื่อไหร่ ใส่สไตล์เมื่อนั้น 

นักเตะเกมรุกของทีมเพิ่มมาแค่คนเดียวคือ ดานี่ โอลโม่ ขณะที่คนอื่น ๆ อยู่กันมาตั้งแต่ยุคของ ชาบี แล้ว แต่ที่สิ่งแนวรุกของ บาร์เซโลน่า แสดงให้เห็นในซีซั่นนี้คือความเข้าขารู้ใจ วิธีการเล่นที่โฉบเฉี่ยว เร็วกว่าเดิมมาก 

ฟุตบอลของ บาร์เซโลน่า มี DNA ของการครองบอลไปเรื่อย ๆ ถ่ายบอลไปยังที่ว่างจนคู่แข่งเปิดช่องจึงค่อยเข้าทำ แต่ ณ ตอนนี้ ฟลิค เข้ามาเปลี่ยนให้มีการลดจังหวะการเล่นที่น้อยลง โดยเฉพาะการสวนกลับที่แทบจะเป็นการเล่นแบบไดเร็กต์ไปเลย พวกเขาให้ความสำคัญกับการแแย่งบอลคืนหรือที่เรียกว่าการ "เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง" เป็นอย่างมาก และการเคาน์เตอร์เพรสซิ่งนี่แหละที่นำมาซึ่งหลากหลายประตูของ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนี้

ในซีซั่น 2023-24 บาร์เซโลน่า แย่งบอลคืนได้ในแดนคู่แข่งแค่ 45% และแย่งบอลจากพื้นที่สุดท้าย 9% ที่เหลือเป็นการแย่งในแดนตัวเอง แต่ในซีซั่นนี้ ฟลิค เปลี่ยนทีมของเขาให้แย่งบอลในแดนคู่แข่งเพิ่มเป็น 48.4% และแย่งบอลในพื้นที่สุดท้ายได้ถึง 13.2% ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขายิงประตูได้มากมายในปีนี้ เพราะเมื่อคุณแย่งบอลได้ในจุดที่ใกล้ประตูคู่ต่อสู้เท่าไหร่ โอกาสในการเจาะคู่แข่งก็ง่ายขึ้นมากเท่านั้น เพราะพวกเขาก็กำลังเสียขบวน 

นักเตะของ บาร์เซโลน่า ถ้าว่ากันตามตรงคือหากใครไม่ได้ดูบอลสเปนคุณคงจะแทบไม่รู้จักชื่อของพวกเขาเลย แต่ที่แน่ ๆ วิธีการเล่นและสไตล์ที่ ฟลิค นำมา ช่วยทำให้ทีมชุดนี้มีความโดดเด่นในเชิงแท็คติกและวิธีการเล่น ที่เข้ามาช่วยทำให้นักเตะแต่ละคนโดดเด่นมากขึ้นเมื่อได้เล่นร่วมกัน 

เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าบาร์ซ่าฟิตกว่า เพรสซิ่งได้ดีกว่า และเข้าทำประตูได้เร็วกว่าโดยไม่เสียดีเอ็นเอ ความคิดสร้างสรรค์ในการเข้าทำที่เกิดขึ้นจากนักเตะอย่าง เปดรี้, โอลโม่, ลามีน ยามาล และ ราฟินญ่า ทำให้งานของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในวัยบั้นปลายลดน้อยลง เหลือแค่หน้าที่จบสกอร์เป็นหลัก ซึ่งทำให้เขาเล่นได้ง่ายขึ้น มีเวลาให้ได้ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น ล่าสุด เลวานดอฟสกี้ ก็เพิ่งทำแฮตทริกในเกม ลา ลีกา ที่ชนะ อลาเบส 3-0 ซึ่งเป็นแฮตทริกแรกในรอบหลายเดือนของเขาด้วย 

ท้ายที่สุดนอกจากเรื่องของสไตล์และวิธีการที่ดีแล้ว ฟลิค ยังทำในสิ่งที่โค้ชทุกคนควรทำ คือการตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเอง แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แทนที่จะใช้ปัญหานั้นเป็นข้ออ้าง 

ในฤดูกาล 2024-25 บาร์เซโลน่า เผชิญปัญหาเยอะมาก ทั้งเรื่องการลงทะเบียน โอลโม่ ที่กว่าจะเล่นได้ก็ต้องรอจนเกือบปิดตลาดซื้อขาย ไหนจะมีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บโดยเฉพาะตัวหลักในแนวรับอย่าง อันเดรียส คริสเตียนเซ่น, โรนัลด์ อเราโฆ่ ขณะที่แดนกลางพวกเขายังไม่มี เฟรงกี้ เดอ ยอง และ กาบี ที่พักยาวกันทั้งคู่ 

แต่ถึงอย่างนั้น ฟลิค ก็แก้ไขปัญหาใหญ่เหล่านี้อย่างสุดความสามารถ นักเตะดาวรุ่งหลายคนถูกดันขึ้นมารับผิดชอบงานใหญ่แบบที่ทำผลลัพธ์ออกมาได้ดีเหลือเชื่อ ผ่านการสอน การฝึกซ้อม และการดูแลให้คำแนะนำเด็ก ๆ เหล่านี้แม้จะนอกเวลางานก็ตาม

"ฟลิค เป็นโค้ชที่เข้าใจว่า ลา มาเซีย คือสมบัติล้ำค่าของสโมสรแห่งนี้แค่ไหน อคาเดมี่คือศูนย์กลางของโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ของเราเสมอ และผมดีใจที่เห็นเขาเจอปัญหาและแก้ปัญหาด้วยการส่งนักเตะเยาวชนของเราคนแล้วคนเล่าลงเล่น และทำให้นักเตะเหล่านั้นปรับตัวกับทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ... นี่มันชัดเจนว่าเขาคือโค้ชที่กล้าหาญ และไม่เคยหาข้ออ้างเลยแม้ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม" ลาปอร์ต้า ชมโค้ชของเขาไม่ขาดปาก

แม้เส้นทางจะยังอีกยาวไกลและไม่มีใครรู้ว่า ฟลิค จะพา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ใหญ่ได้หรือไม่ในวันสุดท้ายของฤดูกาล แต่ตอนนี้การวางรากฐานของเขาทำสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังต่อยอดได้อย่างรวดเร็วแบบเหลือเชื่อ ขุมกำลังจาก ลา มาเซีย ทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างแข็งขัน แค่นี้มากเกินกว่าที่ใครหลายคนตั้งเป้าหมายไว้แล้ว 

ที่เหลือก็ต้องรอดูกันว่าขั้นตอนของการต่อยอดของ บาร์เซโลน่า เพื่อไปให้ถึงแชมป์นั้นจะต้องใช้เงิน ใช้เวลาอีกนานแค่ไหน

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.theguardian.com/football/2024/sep/12/hansi-flick-quietly-getting-everything-right-in-perfect-start-at-barcelona
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/41209865/barcelona-hansi-flick-laliga-renaissance-laporta-xavi
https://www.barcablaugranes.com/2024/9/3/24234303/alejandro-balde-discusses-whats-changed-at-barcelona-under-hansi-flick
https://www.goal.com/en/lists/hansi-flick-reveals-key-barcelona-tactical-change-hints-at-move-away-from-possession-based-style/blt03eb4b5aec29753d

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ