พรีซีซั่น 2024-25 คือช่วงเวลาที่สุกงอมที่สุดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกหยิบนักเตะผลผลิตจากอคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ อย่าง ออสการ์ บ๊อบบ์ ขึ้นมาใช้งาน
สำหรับเด็กหนุ่มวัย 20 ปี คนนี้ เหมือนกับวันที่รอคอย และพร้อมสำหรับช่วงเวลาแบบนี้มาพักใหญ่แล้ว เขาถูกโยนลงน้ำ และไม่ได้แสดงออกถึงความกระเสือกกระสนว่ายเอาตัวรอด แต่ บ๊อบบ์ ว่ายคล่องยิงกว่าจระเข้ ... นี่คือความจริงที่แม้แต่ เป๊ป ก็ต้องพูดมันออกมาเอง
การแจ้งเกิดของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายนัก 4 ปีก่อนที่เขามาสู่อคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ เด็กหนุ่มชาวนอร์เวย์คนนี้เป็นอย่างไร และเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ? Main Stand จะพาคุณไปดูเรื่องราวอันยอดเยี่ยมของเขากันหน่อย
เด็กอายุ 10 ขวบที่แฟนบอลมารอดูเต็มสนาม
ออสการ์ บ๊อบบ์ เกิดที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ อยู่กับทีมเล็ก ๆ ที่ว่า "ลิน (Lyn)" เรื่องความยอดเยี่ยมในวัยเด็กนั้นสุดยอดมาก จะเรียกว่าสโมสรสร้างเขามาดีก็คงไม่ถูกต้องทั้งหมด เรื่องนี้เราต้องบอกว่าครอบครัวเขามีส่วนเป็นอย่างมาก
บ๊อบบ์ มีเชื้อสายแกมเบียมาจากพ่อของเขา เพียงแต่คุณก็รู้ว่าคุณภาพชีวิตของผู้คนในประเทศแถบสแกดิเนเวียนนั้นยอดเยียมแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกของผู้อพยพหรืออยู่บ้านป่าแดนกรุงบ้านทุ่งแดนไกลแค่ไหน คุณมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และได้รับการผลักดันให้ใช้ชีวิตนอกบทเรียนด้วยทางเลือกที่มาก อยากเล่นอะไร คุณจะได้เล่น อยากฝึกกีฬาหรือดนตรีชนิดไหนคุณก็จะได้สิทธิ์นั้น
บ๊อบบ์ ฝึกฟุตบอลและเล่นกีฬาหลายชนิด แต่มาลงใจกับฟุตบอลอย่างเดียวตอน 7 ขวบ แน่นอนว่าการมีเชื้อสายแกมเบียทำให้เขาได้เปรียบเล็ก ๆ ในเรื่องของร่างกายที่เกิดมาเพื่อเป็นนักกีฬา ความเร็วและความแข็งแรงคือจุดเด่นของเขาตั้งแต่เรียนประถม
ลิน คือทีมใน ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ พวกเขาพวกจะไปดูฟอร์มเด็กฝีเท้าดี ๆ ในโรงเรียนของ บ๊อบบ์ ประจำ นั่นจึงทำให้เขาเข้าตาแมวมองเป็นอย่างมาก โดยในปี 2013 หรือตอนที่เขาอายุแค่ 9 ขวบ ลิน ก็ให้ทุนการศึกษาและเซ็นสัญญากับ บ๊อบบ์ แล้ว
“เราเรียกเขาว่าพ่อมดน้อย” มิคาล อาเซรุด ผู้ฝึกสอนเขาที่ ลิน ว่า
"ในนอร์เวย์ เราไม่มีนักเตะที่มีความสามารถพิเศษมากมายนัก ดังนั้นเมื่อเรามีนักเตะหนึ่งหรือสองคนในปีที่เขาเกิด คือปี 2003 ผู้คนก็จะมาดูเขา นั่นเป็นเรื่องแปลกมาก"
"เราลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการหนึ่งของนอร์เวย์ ซึ่งไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ระดับเอลีท (นักเตะชุดใหญ่) แต่คุณเชื่อมั้ย ? ผู้คนจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศตะโกนเรียกชื่อเขา ทั้ง ๆ ที่อายุของเขายังไม่เท่าไหร่ ผมถึงกับถามเขาว่าเขาสนุกกับสิ่งนี้ไหม กดดันหรือรู้สึกกังวลรึเปล่าที่มีใครเป็นร้อยพันจับตาดูทุกฝีก้าว เขาบอกผมว่าไม่เป็นไร และมันไม่ใช่คำพูดเท่านั้น เขาแสดงผลงานได้ดีและทำได้ดีมาก ๆ ด้วย"
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการที่ทีมชุดเยาวชนของ ลิน ไปแข่งขันที่ ตูริน ประเทศอิตาลี ร่วมกับสโมสรดังหลายทีมในยุโรป แมวมองของ เอฟซี ปอร์โต้ เห็นแววเขาและพยายามจะจ่ายค่ายตัวและค่าเหนื่อยสำหรับ บ๊อบบ์ ที่อายุแค่ 11 ปี เพียงแต่ว่าดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เพราะฟีฟ่าเข้ามาขวาง เนื่องจากกฎแรงงานเด็กในประเทศ ซึ่งมันเป็นเรื่องของกฎหมาย ที่ทำให้ บ๊อบบ์ และ แม่ของเขาที่ย้ายไปอยู่ที่ โปรตุเกส ต้องย้ายกลับมาในนอร์เวย์อีกครั้ง
การกลับมาที่ นอร์เวย์ อีกครั้งแบบไม่มีสัญญา ทำให้หลายสโมสรต้องการตัว ก่อนที่ วาเลเรนก้า ทีมในลีกสูงสุดจะแย่งชิ้นปลามันที่สุดนี้ไปได้ ซึ่งสุดท้ายการไปอยู่กับ วาเลเรนก้า เป็นถือเป็นการตัดสินในที่ถูกต้องที่สุด บ๊อบบ์ ได้เล่นในเวทีที่ใหญ่กว่า มีคนเห็นมากกว่า วันนั้นแหละชื่อของ "เมสซี่นอร์เวย์" จึงเกิดขึ้น
เมสซี่นอร์เวย์
อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีหากได้ยินคำนี้ อะไร ๆ หรือใคร ๆ เด่นมาหน่อยก็ นิว เมสซี่ ไปหมด แน่นอนว่าคุณได้เห็นลีลาของเขาในเกม คอมมูนิตี้ชิลด์ ไปแล้ว คุณคงจะพอรับได้บ้างกับฉายานี้ เพราะแม้จะยังเทียบ เมสซี่ ตอนอายุเท่ากันไม่ได้แต่ก็ใกล้เคียง
บ๊อบบ์ ตอนนี้เล่นยังไง ตอนเด็กก็เล่นแบบนั้น เขาเป็นยอดนักเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม ความแข็งแรง รวดเร็ว และคล่องตัวของเขาคือจุดเริ่มต้น แต่พันธุกรรมไม่ใช่ทั้งหมดของเรื่องนี้ เพราะสมัยอยู่ในทีม วาเลเรนก้า บ๊อบบ์ ในวัยแค่ 14 ปี ถูกส่งขึ้นไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และเล่นเอาพี่ ๆ หัวทิ่มหัวตำกันมาแล้ว
"บ๊อบบ์ คือคนพิเศษตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ตั้งแต่เขานกหวีดเริ่มดัง และตั้งแต่ที่ลูกบอลอยู่กับเท้าของเขา" เทรเซอร์ เอ็กโฮล์ม อดีตโค้ชเยาวชนของ วาเลเรนก้า ว่ากับ BBC
"เอาแบบนี้ วิธีการเล่นของเขาคือแบบที่คุณไม่มีทางได้เห็นในเด็กอายุ 10 ขวบคนอื่น ๆ แน่ เด็กคนนี้เลี้ยงบอลเร็ว สเต็ปเท้าไวอย่างเหลือเชื่อ และตอนที่เขาขึ้นมาซ้อมกับเราผมกล้าพูดทันทีว่า ไอ้เด็กคนนี้มันไปไกลแน่ ๆ"
"ทำไมเป็นแบบนั้น ? ก็เขาอยู่กับฟุตบอลทั้งวัน ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ซ้อมกับทีมเยาวชน กลับไปซ้อมด้วยตัวเอง ผมว่าเขาเก่งได้ไวเพราะเขาเป็นคนที่ซ้อมได้เข้มข้นที่สุดคนหนึ่งเลย ไม่ใช่แค่ซ้อมเยอะ แต่ซ้อมแบบจัดเต็มเหมือนกับแข่งขันจริง ๆ"
ออสการ์ บ๊อบบ์ ใหญ่กว่าลีกนอร์เวย์ เอ็กโฮล์ม คิดแบบนั้น และไม่นานนักเขาก็พิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก เพราะ แมนฯ ซิตี้ ยุคที่กำลังเริ่มสร้างองค์กรใหม่แบบทั้งองคาพยพ ได้รับทราบแล้วว่ามีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ที่ วาเลเรนก้า
ในปี 2014 แมนฯ ซิตี้ ลงทุนกับ "ซิตี้ ฟุตบอล อคาเดมี่" ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในอังกฤษ (ณ เวลานั้น) เป็นเงินกว่า 200 ล้านปอนด์ และขยายอาณาจักรฟุตบอล ด้วยการกว้านซื้อกิจการ เข้าดูแลสโมสรหลากหลายแห่งในแต่ละทวีป ภายใต้ชื่อ "ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป" ซึ่งตอนนี้มีสโมสรอยู่ในเครือถึง 13 สโมสร แต่ละปี ๆ ต้องใช้งบประมาณส่วนนี้เพื่อดูแลทีมเครือข่ายไม่น้อย
ขณะที่ดาวรุ่งฝีเท้าดีจากสโมสรต่าง ๆ ถูกเล็งคว้าตัวตั้งแต่อายุ 14-15 ไม่ใช่แค่ในอังกฤษ แต่ แมนฯ ซิตี้ ไปทั่วโลกเพื่อหานักเตะอายุราว ๆ นี้เข้ามาอยู่่ในทีม ส่วนหนึ่งเพราะราคาของนักเตะในช่วงวัยแบบนี้จะไม่แพงเท่าเด็กอายุ 18-19 ปี แม้จะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ถ้าสเกาท์ดี ๆ สืบเสาะเรื่องราวของนักเตะแต่ลคนแม่น ๆ พวกเขาจะได้ของดี ที่เอามาฝึกด้วยวิธีการของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้นักเตะเก่งแล้ว ยังได้นักเตะที่ตรงสเป็กต์ กึ่งสำเร็จรูปพร้อมใช้เมื่อเวลานั้นมาถึง ... และ เมสซี่นอร์เวย์ อย่าง ออสการ์ บ๊อบบ์ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพียงแต่ว่าที่นี่มีแต่ของจริงทั้งนั้น
อคาเดมี่รวมปีศาจ
คุณอาจจะไม่ได้เห็นนักเตะจากอคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นมาเป็นตัวหลักแบบเด่น ๆ เหมือน ฟิล โฟเด้น หรือในระดับใกล้เคียงมากนัก แต่ถ้าคุณได้เห็นรายชื่อแต่ละคนที่ "ไม่ผ่าน" และถูกขายออกให้ไปเติบโตที่อื่น คุณน่าจะเข้าใจได้ว่าการแข่งขันที่นี่สูงขนาดไหน
การเอาเด็กเทพมารวมตัวกันจากทั่วโลกของ ซิตี้ นั้นมีการตัดเกรด ทดสอบ และให้คะแนนกันละเอียดยิบในแต่ละช่วงของปี เพื่อคัดเอาหัวกะทิที่ดีที่สุดขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์พันล้านอีก 23 คน กว่าจะไปถึงจุดที่สอดแทรกได้ นักเตะหลายคนยอมแพ้ ล่าถอย หรือไม่ก็รอโอกาสไม่ได้ ต้องย้ายออกไปก่อนมากมาย
เจดอน ซานโช่, โคล พาลเมอร์, บราฮิม ดิอาซ, เจเรมี่ ฟริมปง, โรเมโอ ลาเวีย, ไมเคิล โอลิเซ่, เปโดร ปอร์โร่, ดักลาส หลุยซ์ ... รายชื่อเหล่านี้เป็นตัวหลักของต้นสังกัดปัจจุบันของพวกเขาแทบทั้งนั้น แต่รายชื่อเหล่านี้บางคน ออกจากอคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่อายุ 18-19 ก็มี
ที่จะสื่อก็คือการแข่งขันในทีมนี้สูงมาก ไม่ใช่แค่ทีมชุดใหญ่เท่านั้น ตัวของ บ๊อบบ์ ในตอนที่มาก็ไม่ใช่ตัวท็อปของรุ่นเหมือนกัน โดยเพื่อนร่วมรุ่นของเขาก็คือกลุ่มนักเตะอย่าง เลียม ดีแลป, ริโก้ ลูอิส, โคล พาลเมอร์, เจมส์ แม็คอาตี้ ซึ่งได้โอกาสในทีมชุดใหญ่ก่อน บ๊อบบ์ เสียอีก
ในส่วนของ บ๊อบบ์ นั้น เจ้าตัวไม่ได้พัฒนาแบบก้าวกระโดดมากนักในตอนที่ย้ายมาใหญ่ ๆ ช่วงอายุย่าง 16 ปี เพราะเป็นช่วงของการปรับตัว โชคดีที่เรื่องความมุ่งมั่น ขยันซ้อม และอดทน ที่เป็นจุดเด่นของเขามาตั้งแต่เด็กทำให้เขาค่อย ๆ พัฒนาตัวเองขึ้นทีละระดับ แม้จะไม่รวดเร็ว แต่ก็หนักแน่น ขึ้นแล้วไม่มีลง มีแต่ไปต่อเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ ... ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเริ่มสุกงอมในตอนนี้
คนที่คอยดู บ๊อบบ์ และเชียร์เขาตลอดคือ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการอคาเดมี่ ที่ปัจจุบันย้ายข้ามฟากไปทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย วิลค็อกซ์ เคยบอกไว้ว่า บ๊อบบ์ ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาอยู่ในระดับที่ดีพอที่จะเป็นตัวหลักในอนาคต ซึ่ง ณ เวลานั้นย้อนกลับไป 2 ปีก่อน มีการวางโร้ดแมพไว้ว่า หาก ริยาด มาห์เรซ ย้ายออก โคล พาลเมอร์ จะเป็นปีกขวาตัวจริงของทีมคนต่อไป โดยมี บ๊อบบ์ เป็นนักเตะที่ต่อคิวลำดับที่ 2
ซึ่งเรื่องนี้ผิดแผนไปหน่อย เพราะซีซั่น 2023-24 มาห์เรซ ย้ายไปค้าแข้งในซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ พาลเมอร์ ก็ย้ายไปเชลซี เพียงแต่ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังไม่พร้อมจะใช้งาน บ๊อบบ์ ในฐานะทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว เขาซื้อ เฌเรมี่ โดกู มาเพิ่ม และทำให้ บ๊อบบ์ ต้องรอโอกาสไปอีก 1 ปี
ทว่าอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บ๊อบบ์ ขึ้นแล้วไม่มีลง เขามาจ่อคิวชุดใหญ่ด้วยความพร้อมสุด ๆ จริง ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ เป๊ป เองก็จัดให้ตามคำเรียกร้องส่งบ๊อบบ์ ลงเล่นเกมบอลถ้วย ซึ่งบ๊อบบ์ ก็โดดเด่นทันทีเหมือนเคย
ได้เวลาอาละวาด
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ใช่คนที่จะให้โอกาสใครง่าย ๆ ถ้าไม่ดีจริง เพียงแต่เวลาที่เขาจะใช้งานใครหรือบอกใบ้อะไรกับใครถึงเรื่องราวในอนาคต เขาจะพูดตรง ๆ กับนักเตะคนนั้น โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งในวัย 19-20 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการลงสนามมากที่สุด
หลายคนรอไม่ไหว ซานโช่ และ พาลเมอร์ คือนักเตะที่ เป๊ป กล่อมไม่ได้ แต่ บ๊อบบ์ อดทนรอจนวันของเขา บ๊อบบ์ ได้ลงเล่นเกมแรกในพรีเมียร์ลีกที่พบกับ ฟูแล่ม เมื่อต้นซีซั่น 2023-24 โดยลงมาแทน โฟเด้น จากนั้นลงเล่นเต็มเกมกับ เร้ดสตาร์ เบลเกรด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ซึ่งย้อนความกลับไปตอนนั้น สื่อสนใจเขามาก เพราะ บ๊อบบ์ เหมือนกับ อาวุธลับที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยเผยโฉมมาก่อน ลีลาการเลี้ยงฟุตบอลติดเท้า รวดเร็ว และเต็มไปด้วยไอเดียการเข้าทำ เดี๋ยวลากตัดเข้าในเพื่อยิงประตู เดี่ยวโยกออกนอกเพื่อเล่นลูกครอส ทุกอย่างทำได้ลื่นไหลเหมือนกับไม่ใช่ดาวรุ่ง เกมนั้น บ๊อบบ์ ยิงประตูได้ เล่นดีมาก ๆ และได้รับคำชมจาก เป๊ป ซึ่งเป็นคนพูดเองว่า จากนี้โอกาสจะมาถึงเขาเรื่อยแน่ ๆ
"บ๊อบบ์ คือนักเตะที่เล่นได้ทั้ง 5 ตำแหน่งคุณเชื่อผมไหมล่ะ ? กองหน้า ปีกขวา ปีกซ้าย และวิงแบ็กทั้งสองข้าง นี่คือเด็กที่มีทัศนคติดีมาก ทำงานอย่างกระตือรือร้นแบบที่สุด และความมุ่งมั่นของเขาเหนือเกินจินตนาการ" เป๊ป ว่าแบยนั้น
"ผมรู้ทั้งหมดว่าเขาทำอะไรบ้างที่อคาเดมี่ของเรา ผมรู้จักเขาดี และคิดว่าโอกาสของเขาจะมาถึง ในช่วงเดือนพฤศจิกาถึงธันวาคมที่โปรแกรมแน่น ๆ และนักเตะตัวหลักบางคนจะได้พัก ออสการ์ บ๊อบบ์ จะช่วยเราได้แน่"
จากที่ต้องรอไปก่อน กลายเป็นคนที่ได้เล่น 26 เกมให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในทุกรายการ ความอดทนและมุ่งมั่นสำฤทธิ์ผล เหนือสิ่งอื่นใดคือในปรีซีซั่น 2024-25 นี้ ในช่วงที่นักเตะสำคัญของทีมได้พักจากเกมทีมชาติ ออสการ์ บ๊อบบ์ คือนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดในทีมจากการยกย่องของแฟน ๆ และสื่อแทบทุกเจ้าที่ได้เห็นฟอร์มของเขาที่ อเมริกา และในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในคอมมูนิตี้ ชิลด์
สุดท้ายคนที่ต้องตัดสินใจทั้งหมอคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่คือคนที่เอาแต่ใจตัวเองที่สุดคนหนึ่ง แฟนบอลจะบอกว่าดี โค้ชเยาวชนจะบอกว่าเยี่ยม สื่อจะชมว่าสุดยอด ... ไม่มีผล เขาตัดสินใจด้วยตัวเองในการทำทีม 100% และสำหรับ ออสการ์ บ๊อบบ์ ณ ตอนนี้ เป๊ป บอกว่า "แน่นอนที่สุด"
"ออสการ์ บ๊อบบ์ อยู่ในมาตรฐานเดียวกับผู้เล่นในทีมที่เรามีแล้ว" เป๊ป ว่า ก่อนจะขยายความให้เห็นจุดเด่นของ บ๊อบบ์ ที่เขาชอบว่า
"เขามีลักษะการเลี้ยงบอลที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือการเปลี่ยนสปีด หยุด ไป และเดิน และเลือกทิศทางจากก้าวแรก หรือก้าวที่ 2 ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวาได้ลื่นไหลเหลือเชื่อ"
"เขาพลิกบอลและหันหน้าเข้าประตูได้ดีมาก ๆ แต่เรายังต้องการอะไรจากเขามากกว่านี้ และหวังว่าเขาจะพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อย" เป๊ป ทิ้งท้ายแบบไม่ให้เหลิงเกินไปนัก
ช่วงเวลาทดสอบของ ออสการ์ บ๊อบบ์ ผ่านไปแล้ว เขาสอบผ่านฉลุยในเกมระดับอุ่นเครื่อง ที่เหลือของจริงกำลังจะเริ่ม เกมฟุตบอลลีกซึ่งเป็นเกมระยะยาว ทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ไม่มีที่ว่างให้นักเตะที่เด่นแค่เกมเดียวและดรอปไป 2-3 เกม ที่นี่คุณต้องดีทุกวัน และเก่งขึ้นทุกวันทั้งในแง่ฝีเท้าและเชิงแท็คติก
โดยเฉพาะวัยอย่าง ออสการ์ บ๊อบบ์ นั้น ปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญกับเขามาก ๆ ถ้าเขาทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมดข้อสงสัยในตัวของเขาได้ ... ตำแหน่งปีกขวาที่เขาเคยเป็นคิวท้าย ๆ เมื่อปีก่อน อาจจะลัดมาเป็นคิวแรกสำหรับดาวรุ่งชาวนอร์เวย์คนนี้ก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง
https://www.lifeinnorway.net/oscar-bobb/
https://www.thinkfootballideas.co.uk/post/oscar-bobb-s-football-journey-and-childhood-facts
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/he-phenomenon-oscar-bobb-little-28413983
https://www.bbc.com/sport/articles/cq51n40vgeqo
https://www.planetfootball.com/quick-reads/man-city-academy-graduates-sold-net-spend-pep-guardiola-palmer-lavia-sancho
https://www.mancity.com/news/mens/pep-guardiola-community-shield-penalties-win-63858905