Feature

บอร์กโดซ์ในความทรงจำ : ความล้ำในยุค 1990s ที่สร้าง ซีดาน ให้เป็น "โคตรบอล" | Main Stand

ไม่จบก็เหมือนจบสำหรับ บอร์กโดซ์ เจ้าของแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส 6 สมัย ที่ ณ ตอนนี้ประกาศสละสิทธิ์การเป็นทีมฟุตบอลอาชีพ ยกเลิกสัญญานักเตะทั้งทีม ปิดศูนย์ฝึกซ้อม และกลายเป็นเพียงทีมสมัครเล่นเท่านั้น 

 

สาเหตุที่สโมสรแห่งนี้นี้ถูกพูดถึง เพราะในอดีตเคยเป็นทีมใหญ่ที่แวะเวียนมาโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลยุโรปบ่อย ๆ เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือที่แรกที่ ซีเนดีน ซีดาน โชว์ความเป็นซูเปอร์สตาร์ออกมา 

"โคตรบอล" อย่างซีดาน เคยถูกประเมินว่าเชื่องช้าและไม่กล้าเล่นตอนเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งการเปลี่ยนแปลงที่บอร์กโดซ์ทำให้เขาเฉิดฉายด้วยแนวทางสุดล้ำที่ยุคนั้นยังไม่มีทีมไหนทำ 

เรื่องราวเป็นอย่างไรติดตามที่ Main Stand 

 

บอร์กโดซ์ ในความทรงจำ 

นับตั้งแต่เข้าสู่ยุค 1980s เป็นต้นมา บอร์กโดซ์ คือสโมสรที่สร้างความคุ้นเคยกับแฟนบอลทั่วโลกเรื่อยมา พวกเขาคือแชมป์ ลีก เอิง 6 สมัย โดย 5 จาก 6 สมัยเกิดขึ้นในช่วงเวลา 25 ปี หรือนับคร่าว ๆ คือปี 1983 จนถึงปี 2008 ซึ่งหากนับในช่วงเวลาเดียวกันนี้ แม้แต่ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง โคตรทีม พ.ศ. นี้ ก็เทียบพวกเขาไม่ติด 

ในช่วงยุค 1980s คือช่วงที่ บอร์กโดซ์ คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย ในรอบ 4 ซีซั่น คือฤดูกาล 1983-84, 1984-85 และ 1986-87 ช่วงเวลานั้นมีกุนซือที่บันดาลแชมป์ให้พวกเขาอย่าง เอเม่ ฌักเกต์ เป็นแม่ทัพ ซึ่งภายหลังเขาคนนี้คือคนที่พาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกสมัยแรกในปี 1998 ทว่าในช่วงยุค 1990s คือช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน เมื่อ เอเม่ ฌักเกต์ ออกไป ทีมก็เริ่มดรอปลงมาจนห่างหายแชมป์ มีถึงขั้นตกชั้นเพราะปัญหาทางการเงิน แต่ก็กลับมาสู่ลีกสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว

แม้ปัญหาถาโถม แต่พวกเขาก็มีสิ่งที่แฟน ๆ ภาคภูมิใจที่สุดเรื่องหนึ่ง นั่นคือพวกเขาคือทีมที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลฝรั่งเศสอย่าง ซีเนดีน ซีดาน ได้ถือกำเนิดและปรากฏตัวต่อชาวโลก  

ซีดาน ร่วมทัพ บอร์กโดซ์ ในปี 1992 โดยย้ายมาจาก กานส์ จากนั้นก็สร้างชื่อที่นี่ในฐานะกองกลางอัจฉริยะ ได้รับคำกล่าวขานเรื่องเทคนิคที่เหนือชั้น สัมผัสฟุตบอลที่นุ่มนวลชวนฝัน และเป็นนักเตะที่มีความเข้าใจเกมมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งความเก่งกาจนี้เองทำให้เขาไม่สามารถเล่นในลีก เอิง ได้นานนัก ... ยูเวนตุส เอาตัวเขาไปในปี 1996 และจากนั้นเขาก็ดังกระฉ่อนโลกแบบไร้ข้อโต้แย้ง 

ในเมื่อโลกฟุตบอลยังมีแฟนบอลมากมายที่มี ซีดาน เป็นไอค่อน แล้วที่ บอร์กโดซ์ ชื่อของ ซีดาน จะถูกยกย่องขนาดไหน ? โยฮันน์ กูร์คุฟฟ์ เพลย์เมคเกอร์ที่ได้ฉายาว่า "นิว ซีดาน" และเป็นคนที่พา บอร์กโดซ์ คว้าแชมป์ลีก เอิง ในฤดูกาล 2008-09 พูดออกมาเองว่าในรุ่นของเขา ซีดาน คือสุดยอดแรงบันดาลใจแบบไม่สามารถมีใครเทียบ

"ผมเป็นนักเตะที่มาจากรุ่นที่ทุกคนล้วนมีไอดอลเป็น ซีเนดีน ซีดาน และผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงสังเกตเห็นลักษณะบางอย่างในเกมของผม เช่น การที่ผมครองบอล เชื่อมเกมและคุมจังหวะ ไม่ต้องสงสัยว่ามันมาจากเขา แน่นอนว่าคุณต้องการเลียนแบบผู้เล่นที่ดีที่สุด และเขาคือคนที่คิดค้นการเคลื่อนไหวเหล่านี้ขึ้นมา" กูร์คุฟฟ์ ว่าแบบนั้น 

นั่นคือสิ่งที่ โยฮัน กูร์คุฟฟ์ เห็นและรับทราบในฐานะแฟนบอลของ ซีดาน คนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กว่าที่ ซีดาน จะกลายเป็นสุดยอดมหัศจรรย์แบบนี้ เขาเคยถูกตัดสินว่าเชื่องช้า และอ่อนแอเกินไป จากทีมที่เก่งที่สุด ณ ตอนนั้นอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย มองข้ามและไม่เซ็นสัญญาเขา 

นั่นทำให้เพชรเม็ดงามที่สุดในวงการฟุตบอลฝรั่งเศสที่ยังไม่ถูกเจียระไนอย่าง ซีดาน ต้องลดระดับลงมาเล่นให้กับทีมที่เป็นรองลงมาอย่าง บอร์กโดซ์ ... ซึ่งที่นี่เองที่มีคนเห็นซีดานแล้วก็ต้องร้องอ๋อว่าทำไมเขาจึงหลุดมาถึงมือ บอร์กโดซ์ และพวกเขายังรู้อีกว่า เพชรเม็ดนี้จะต้องเจียระไนอย่างไรให้เปล่งประกาย 

 

กำเนิด ซิซู

คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวว่า ซีเนดีน ซีดาน ถูกปฏิเสธการย้ายมาร่วมทีม แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1994-95 โดย แจ็ค วอล์คเกอร์ เจ้าของทีม ด้วยประโยคคลาสสิกที่ว่า ทีม เชอร์วู้ด คือนักเตะที่เก่งกว่า ... มันเป็นไปได้เหรอ ?... คำตอบคือนั่นคือเรื่องจริง และมีหลายคนยืนยันแบบนั้น 

เรื่องราวมีอยู่ว่า ฌอง วาร์โรด์ แมวมองของ กานส์ ไปคว้าเอาตัว ซีเนดีน ซีดาน ในวัย 15 ปี จากทีมท้องถิ่นใน มาร์กเซย เพื่อเอามาทดสอบฝีเท้ากับ กานส์ ในระยะเวลา 6 สัปดาห์ จากนั้นเขาก็ทำผลงานได้ดีพอจนได้สัญญากับ กานส์ โดยมีค่าจ้างที่ไม่มากนัก พร้อมด้วยโบนัสพิเศษที่ว่า หากเขาสามารถพัฒนาตัวเองไปจนได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้ เขาจะได้เงินพิเศษอีก 5,000 ฟรังส์ ซึ่ง ซีดาน ทำสำเร็จในปี 1989 ตอนที่เขาอายุ 17 ปี ... นั่นคือความสำเร็จที่มากแล้ว ณ ตอนนั้น 

"ซีเนดีน ซีดาน ตอนอายุ 18 ปี ห่างไกลจากคำว่านักเตะผู้ยิ่งใหญ่อยู่ไม่น้อย" หลุยส์ เฟร์นันเดซ นักเตะรุ่นพี่ของ กานส์ เล่าย้อน และขยายความว่า "เหตุผลเพราะเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งทางร่างกายเลย ส่วนเรื่องเทคนิคต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ ... จับบอลเยี่ยม เคลื่อนไหวสวยงาม เทคนิคดี ส่วนนี้เขาก้าวหน้ากว่าคนอื่น ๆ ในทีม"

แม้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ดีพอแล้วสำหรับทีมเล็ก ๆ อย่าง กานส์ ... ซีดาน เป็นตัวหลักของทีมในปี 1990 โดยยืนกองกลางร่วมกับ เฟร์นันเดซ 

ซีดาน โดดเด่นที่สุดในทีม กานส์ เขายิงประตูสุดสวยใส่ มาร์กเซย ที่เวโลโดรมในปี 1990 ทีมที่เขาเป็นแฟนตัวยงมาตั้งแต่เด็ก ในปีนั้น กานส์ จบอันดับไปเล่นใน ยูฟ่า คัพ แต่ในฤดูกาล 1991-92 กานส์ ที่ขนาดทีมเล็กเกินไปก็ทนแรงเสียดทานในการเล่นหลายรายการไม่ไหว พวกเขาตกชั้น และจำเป็นต้องขายสมบัติชิ้นเดียวที่มี ซึ่งนั่นก็คือ ซีเนดีน ซีดาน 

มาร์กเซย ให้ความสนใจเพราะทีมแมวมองติดตามดูฝีเท้าของ ซีดาน อยู่ตลอด และ ซีดาน เองก็กระหายอยากมาก ๆ ที่จะได้ไปเล่นให้กับทีมบ้านเกิดและทีมโปรดของเขาตั้งแต่วัยเด็ก เพียงแต่ว่ามาถึงขึ้นตอนสุดท้ายในการขอความเห็นจาก  เรย์มงด์ เกอเธลส์ กุนซือของ มาร์กเซย ตัดสินใจไม่เลือก ซีดาน เพราะเหตุผลที่ว่า "เชื่องช้าเกินไป" 

เมื่อเบอร์ 1 ไม่เห็นค่า ก็ได้เวลาที่เบอร์ 2 จะลองเข้ามานำเสนอสิ่งที่รอ ซีดาน อยู่ที่นี่ ... บอร์กโดซ์ ภายใต้การคุมทีมของ โรล็องต์ กูร์บิส โค้ชที่มาจากเมือง มาร์กเซย คนบ้านเดียวกันกับ ซีดาน เข้าเจรจากันแบบตัวต่อตัว ทั้ง 2 คนคลิกกันมาก โดยมีการกล่าวอ้างว่าทั้งคู่เหมือนกับ พ่อ-ลูก และ กูร์บิส สัญญากับ ซีดาน ว่าเขาจะช่วยเหลือ ซีดาน ทุกอย่างในช่วงที่เขาย้ายข้ามฝั่งประเทศจากทางตะวันออกอย่าง กานส์ มาอยู่ที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของ บอร์กโดซ์  

ถ้าคุณสงสัยว่าทำไม ซีดาน จึงถูกเรียกว่า "ซิซู" ก็ต้องบอกว่า กูร์บิส คนนี้นี่แหละเป็นคนตั้งให้ โดยเอาชื่อกลางของ ซีดาน อย่าง ยาซิด (Yazid) มาดัดแปลงเป็นคำว่า ซิซู (Zizou) 

ปกติแล้ว กูร์บิส นั้นเป็นโค้ชที่มักจะวางระยะห่างกับนักเตะไว้พอสมควร ... แต่ที่เขาเข้าถึงเนื้อถึงตัวกับซีดานพร้อมความสัมพันธ์แบบพ่อลูกขนาดนี้ นั่นก็เพราะเขารู้ว่า "ซีดาน" มีอะไรซ่อนอยู่ และเขารู้วิธีจะนำปีศาจในตัวของ ซิซู ออกมาอาละวาดด้วย 

 

ค้นลงไปข้างในจิตใจ 

กูร์บิส เล่าว่า ซีดาน เป็นนักเตะที่มีบุคลิกนอกสนามค่อนข้างแตกต่างกับคนอื่น ๆ เพราะเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่ค่อยมีสังคม และมักจะดูเหมือนครุุ่นคิดอะไรตลอดเวลา ซึ่งภายหลังเขาก็มาเฉลยว่า นั่นเป็นเพราะ ซีดาน ไม่ชอบพูดเยอะ ก่อนที่จะพูดอะไร เขาจะมอง คิด และวิเคราะห์ให้ดีก่อน ซึ่งสิ่งนี้มันก็สะท้อนมาถึงการเล่นในสนามของเขา 

ที่ แบล็คเบิร์น บอกว่าเขาไม่เก่งพอ ที่ มาร์กเซย บอกว่าเขาเชื่องช้า ... จริง ๆ แล้วเป็นเพราะเขามีบุคลิกอีกแบบหนึ่งที่คอยขัดขวาง นั่นคือเขาเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก และบางครั้งก็คิดเยอะเกินไป ซึ่งนั่นทำให้เมื่อเขาได้บอล เขามักจะตัดสินใจช้าไป 1 จังหวะ ซึ่งในฟุตบอลระดับสูง เพียงเสี้ยววินาทีทุกอย่างก็สายไปแล้ว นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ ซีดาน ถูกมองว่าช้าเกินไป เขารู้ว่าต้องทำอะไร เพียงแต่เขาไม่กล้าตัดสินใจจะทำมันเท่านั้นเอง 

กูร์บิส เห็นเรื่องนี้อย่างแตกฉาน และเขาตัดสินใจร่วมกับ ปิแอร์โรต์ ลาบัต ประธานฝ่ายเทคนิคของ บอร์กโดซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้  พวกเขาลงมติกันว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องในสนาม แต่มันเป็นเรื่องในสมอง" ... สุดท้ายเรื่องนี้จบลงด้วยสิ่งที่ใหม่ที่สุดในวงการฟุตบอลฝรั่งเศสเรื่องหนึ่ง ณ เวลานั้น นั่นคือการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยามาบำบัด ซีเนดีน ซีดาน เพื่อให้เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้น 

"ซีดาน เก็บตัวมากเกินไป จริง ๆ แล้วผมคิดว่าเขากำลังตั้งข้อสงสัยในตัวเองจนเกินเหตุในบางครั้ง พวกเราพยายามปลูกฝังความมั่นใจให้กับเขา" ลาบัต กล่าว

"เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ใหม่มาก ๆ น่าจะเป็นครั้งแรกของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสด้วยซ้ำ นั่นคือการนำเอาแนวคิดเรื่องจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานักฟุตบอล ผมรู้ว่าเขามีศักยภาพในตัวสูงมาก ดังนั้นเราจึงต้องทำให้เขามั่นใจจนสามารถเอาสิ่งที่มีในตัวออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่" 

ไม่มีการระบุว่า ซีดาน เข้ารับบำบัดทางจิตใจนานเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ มันคงไม่นานเป็นปี เพราะฤดูกาลแรกกับ บอร์กโดซ์ ซีดาน ยิงไป 11 ประตู เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในทีม บอร์กโดซ์ ทันที 

มันไม่ใช่เรื่องของสถิติ แต่สิ่งต่าง ๆ ตามมามากมาย และทุกคนเรียกมันว่า "ความสวยงามของฟุตบอล" การดวลตัวต่อตัวที่น่าทึ่ง การสัมผัสฟุตบอลในแบบที่แปลกแต่งดงาม ท่าหมุนตัวแบบ โยฮัน ครัฟฟ์, การสับขาหลอก การตอกสั้น และแน่นอนที่สุดท่าหมุนตัวโดยเฉพาะของเขาที่ชื่อว่า มาร์กเซย รูเล็ตต์ ... ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นภายใต้การสัมผัสที่เบาราวกับขนนก แต่ก็รวดเร็วจนยากจะเอาบอลออกจากเท้าของเขา 

ชื่อของ ซีเนดีน ซีดาน จอมทัพอัจฉริยะดังไปทั่วโลกไม่นานหลังจากนั้น เขาอยู่กับ บอร์กโดซ์ 4 ปี ร่วมกับนักเตะที่โด่งดังขึ้นมาพร้อม ๆ กันอย่าง คริสตอฟฟ์ ดูการ์รี่ และ บิเซนเต้ ลิซาราซู ก่อนที่ ยูเวนตุส จะคว้าตัวเขาในปี 1996 และทำให้เขาได้เล่นในลีกที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนั้น ... นี่คือเวทีที่คู่ควรกับอัจฉริยะอย่างเขามากที่สุด ไม่ว่าจะคุณจะมองเขาด้วยตาเปล่า สถิติต่าง ๆ หรือแม้แต่ความสำเร็จที่มาจากถ้วยแชมป์

การเลือกย้ายมา บอร์กโดซ์ คือการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จากนักเตะที่มีพรสวรรค์อยู่แค่ในสมอง เขาถูกขัดเกลาให้เอาสิ่งที่อยู่ในนั้นเอามาใช้ในสนามได้สำเร็จ จนกระทั่งถึงวันนี้ เรายังจดจำความงดงามของฟุตบอลแบบซีดานสไตล์ได้เป็นอย่างดีไม่มีใครเหมือน

แม้ตอนนี้ บอร์กโดซ์ จะตกต่ำ แต่โลกฟุตบอลก็ติดหนี้ทีม ๆ นี้อยู่ในฐานะทีมผู้สร้าง 1 ในสุดยอดนักเตะของโลกตลอดกาลอย่าง ซีเนดีน ซีดาน คนนี้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.goal.com/en/news/when-zinedine-zidane-became-a-superstar/blt06b5b5fd3c59f032
https://thesefootballtimes.co/2020/06/05/how-the-bordeaux-of-zidane-lizarazu-and-dugarry-ended-ac-milans-european-dominance-in-1996/
https://www.theguardian.com/football/blog/2009/jan/13/yoann-gourcuff-bordeaux-ligue-milan
https://www.planetfootball.com/nostalgia/night-zidane-dugarry-co-introduced-europe

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ