อาร์ด้า กูแลร์ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ผู้เป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของทีมชาติตุรกี เป็นส่วนสำคัญในการพาทัพ "ไก่งวง" ทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 ได้สำเร็จ หลังจากห่างหายจากการเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย นานถึง 16 ปี
ฟอร์มการเล่นที่เก่งเกินอายุของเขา เป็นที่มาให้แฟนบอลชาวตุรกี ต่างยกย่องเด็กหนุ่มวัย 19 ปีรายนี้ ถึงขั้นให้ฉายากับ อาร์ด้า กูแลร์ ว่าเปรียบเสมือนเป็น "ลิโอเนล เมสซี่ แห่งประเทศตุรกี"
เด็กหนุ่มดาวรุ่งรายนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ? ร่วมติดตามเรื่องราวของเขาไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand
แจ้งเกิดจากแผ่นดีวีดี
ย้อนกลับไปในปี 2019 เฟเนร์บาห์เช่ สโมสรยักษ์ใหญ่จากประเทศตุรกี ตัดสินใจดึงตัวเด็กหนุ่มวัย 13 ปี มาร่วมทีม ด้วยเหตุผลที่ว่าประทับใจในฟอร์มการเล่นจาก "แผ่นดีวีดี" ที่ทางแมวมองของทีมนำมาให้ อาลี ค็อก ประธานสโมสรได้รับชม
เด็กหนุ่มผู้นั้นมีนามว่า อาร์ด้า กูแลร์ กองกลางร่างเล็กจากอคาเดมี่ของ เกนเคอลร์บิลิกี้ สโมสรระดับล่างในประเทศตุรกี
โดยฟอร์มการเล่นของ อาร์ด้า กูแลร์ ไปเข้าตา แซร์ฮาน เพ็คเมซซี แมวมองของสโมสร เฟเนร์บาห์เช่ ที่ไปทำการสเกาต์ฟอร์มนักเตะในวันดังกล่าว
ซึ่งเขาประทับใจในฟอร์ม อาร์ด้า กูแลร์ เป็นอย่างมาก แม้ว่านักเตะรายนี้จะมีรูปร่างที่ผอมบางร่างเล็ก แต่เปี่ยมไปด้วยทักษะการเล่นที่แพรวพราวคล้ายคลึงกับ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมันเชื้อสายตุรกี
จึงเป็นที่มาให้เขาตัดสินใจเลือกถ่ายคลิปวิดีโอการเล่นของเด็กหนุ่มรายนี้ และนำไปลงแผ่นดีวิดี เพื่อส่งให้กับ ดาเมี่ยง โกมอลลี่ อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ในเวลานั้นทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาให้กับ เฟเนร์บาห์เช่
ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจนำแผ่นดีวิดีดังกล่าวมาให้กับประธานสโมสรได้รับชมวิดีโอการเล่นของเด็กหนุ่มรายนี้ ซึ่งเป็นที่มาสำคัญในการคว้าตัว อาร์ด้า กูแลร์ มาร่วมทีมเฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2019
ฟอร์มการเล่นของ อาร์ด้า กูแลร์ เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมากในทีมอคาเดมี่ของเฟเนร์บาห์เช่ ทักษะการเล่นและศักยภาพส่วนตัวของเขาดีเกินอายุ และมีชั้นเชิงในการเล่นที่เหนือกว่านักเตะเพื่อนร่วมรุ่นอย่างเห็นได้ชัด
ส่งผลให้เขาได้รับการผลักดันขึ้นไปเล่นกับทีม เฟเนร์บาห์เช่ ชุด ยู 19 ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี แม้ว่าจะเป็นการก้าวกระโดดปีนแบกอายุขึ้นมาเล่น แต่ไม่เป็นปัญหาแม้แต่นิดสำหรับ อาร์ด้า กูแลร์ เขาจบฤดูกาลด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวมาครอง ด้วยการทำประตูไปทั้งหมด 10 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์
เดบิวต์ตั้งแต่อายุ 16
ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมาเขาจะได้รับการผลักดันอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ถือเป็นการผลักดันที่สำคัญมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา
เพราะเขาได้รับความไว้วางใจจาก วิตอร์ เปไรร่า เฮดโค้ช เฟเนร์บาห์เช่ ส่งเขาประเดิมลงสูสนามในนามชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ทั้งที่เขาเพิ่งมีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น
โดยเป็นการลงเล่นในศึก ยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ พบกับ เอชเจเค เฮลซิงกิ สโมสรในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวจบลงด้วยการเอาชนะของ เฟเนร์บาห์เช่ ไปด้วยสกอร์ 1-0
หลังจากถูกส่งลงสนามในเกมนัดดังกล่าว อาร์ด้า กูแลร์ ได้โอกาสในการลงสนามอีกครั้ง ใน 3 วันต่อมา โดยเป็นการลงสนามพบกับ อันตัลยาสปอร์ ในศึก ตุรกี ซูเปอร์ลีก
อาร์ด้า กูแลร์ ตอบแทนสโมสรและเฮดโค้ชของทีมที่ไว้วางใจส่งเขาลงสู่สนามในเกมลีกเป็นครั้งแรก ด้วยการแอสซิสต์ให้กับ มิฮา ซาเยซ เพื่อนร่วมทีมทำประตูตอกฝาลงเอาชนะ อันตัลยาสปอร์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 ส่งผลให้เขากลายเป็นแข้งที่มีส่วนร่วมในการทำประตูอายุน้อยที่สุดตั้งแต่สโมสร เฟเนร์บาห์เช่ ก่อตั้งขึ้นมา โดยเวลานั้นเขามีอายุเพียง 16 ปี กับอีก 177 วัน
และในเวลาต่อมา อาร์ด้า กูแลร์ ยังได้ทำลายอีกหนึ่งสถิติของสโมสร ด้วยการเป็นนักเตะที่ทำประตูในฐานะผู้เล่นอายุน้อยที่สุดตั้งแต่สโมสรก่อตั้งขึ้นมา โดยเป็นการทำประตูในเกมที่ เฟเนร์บาห์เช่ เปิดบ้านเอาชนะ อลันยาสปอร์ ไปด้วยสกอร์ 5-2 โดยเวลานั้นเขามีอายุเพียง 17 ปี กับอีก 16 วัน
เด็กหนุ่มรายนี้ยังสานต่อฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในเคล็ดลับที่เจ้าตัวออกมายอมรับว่ามีผลเกี่ยวกับแนวทางการเล่นของเขา นั่นคือการได้เล่นร่วมกับรุ่นพี่ในทีมอย่าง เมซุต โอซิล
"เขาเปรียบเสมือนพี่ชายของผม การที่ผมได้ลงสนามเคียงข้างหนึ่งในกองกลางตัวรุก ระดับท็อปของโลก เป็นผลดีต่อตัวผมอย่างมาก เขายังคอยสอนผมในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องในและนอกสนาม ผมยอมรับเลยว่าการได้เรียนรู้จากเขากลายเป็นเรื่องราว สุดแสนวิเศษที่ติดอยู่ในใจผมมาโดยตลอด" อาร์ด้า กูแลร์ ได้ออกมาเผยความในใจต่อหนึ่งในไอดอลของเขา หลังจากเคยอยู่ด้วยกันสมัยเล่นให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในฤดูกาล 2021-22
จากอิสตันบูล สู่มาดริด
หลังจากนั้น อาร์ด้า กูแลร์ เริ่มสานต่อผลงานของตนเอง จากเดิมที่อยู่ในสถานะเพียงผู้เล่น "ตัวสำรอง" เริ่มต่อยอดขึ้นมาเป็นผู้เล่น "ตัวหลัก" ของทีม พร้อมกับได้รับเสื้อหมายเลข 10 ต่อจาก เมซุต โอซิล ที่ถูกปล่อยตัวออกจากทีมในฤดูกาล 2022
โดยฤดูกาลแรกในการลงเป็นตัวหลักให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ อาร์ด้า กูแลร์ ในวัย 17 ปี เขาลงสนามให้กับต้นสังกัดรวมทุกรายการไปทั้งหมด 35 นัด ทำประตูไปได้ 6 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์
และยังเป็นส่วนสำคัญในการพาเฟเนร์บาห์เช่ คว้ารองแชมป์ ตุรกี ซูเปอร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 และคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยของประเทศตุรกีมาครองได้สำเร็จ
ด้วยสไตล์การเล่นที่ไปกับบอลได้ดี และอีกหนึ่งจุดเด่นที่เปล่งประกายมากที่สุดสำหรับ อาร์ด้า กูแลร์ นั่นคือการสร้างสรรค์เกมที่เขามักมีลูกจ่ายคิลเลอร์พาสที่เปรียบเสมือนเป็น "ท่าไม้ตาย" ของเขา
รูปร่างผอมบางร่างเล็กและเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าซ้ายผนวกกับสไตล์การเล่นของเจ้าตัวที่ละม้ายคล้ายคลึงกับ ลิโอเนล เมสซี่ จึงเป็นที่มาให้เขาได้รับฉายาจากแฟนบอลไก่งวงว่าเป็น "เมสซี่แห่งตุรกี"
ฟอร์มการเล่นที่เก่งเกินอายุของเขา เป็นที่มาให้ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2023 อาร์ด้า กูแลร์ ตกเป็นเป้าหมายสำคัญต่อสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, อาร์เซน่อล และ เชลซี
แต่ในท้ายที่สุดเป็นทางด้านของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่เข้าป้ายคว้าตัวดาวเตะทีมชาติตุรกีรายนี้ไปครอง ทั้งที่ในตอนแรก อาร์ด้า กูแลร์ เกือบจะไปเซ็นสัญญากับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า หลังตกลงรายละเอียดค่าตัวกันได้เป็นที่เรียบร้อยที่ 17 ล้านยูโร ซึ่งเป็นจำนวนค่าฉีกสัญญาที่ทาง เฟเนร์บาห์เช่ ตั้งเอาไว้
แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว บาร์เซโลน่า กำลังเผชิญปัญหาในการลงทะเบียนนักเตะ และยังคุยสัญญาส่วนตัวกับทาง อาร์ด้า กูแลร์ ไม่ลงตัว จึงยังไม่สามารถปิดดีลกับดาวรุ่งรายนี้ได้สำเร็จ
ด้วยเหตุนี้เอง เรอัล มาดริด เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวที่ทาง บาร์เซโลน่า ยังไม่สามารถ ปิดดีลกับทาง อาร์ด้า กูแลร์ ได้สำเร็จ จึงเป็นที่มาของการ "ไฮแจ็ค" ในท้ายที่สุดด้วยการ ทุ่มเงินจำนวน 20 ล้านยูโร ซึ่งมีมูลค่าที่มากกว่าค่าฉีกสัญญา ปิดดีลคว้าตัว อาร์ด้า กูแลร์ มาร่วมทีมได้สำเร็จ พร้อมมอบสัญญา 6 ปีให้กับดาวเตะรายนี้
โดยมีรายงานเพิ่มเติมว่าเหตุผลหลักที่ทางทำให้ อาร์ด้า กูแลร์ ตัดสินใจไม่ย้ายไปสู่ บาร์เซโลน่า เป็นเพราะว่า เขาได้รับสายโทรศัพท์จาก เมซุต โอซิล หนึ่งในนักเตะที่เขาให้การนับถือเป็นอย่างมาก ซึ่งทางดาวเตะทีมชาติเยอรมนีรายนี้มองว่า การได้ย้ายไปเล่นที่ เรอัล มาดริด จะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่าการย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า
แม้ว่าในท้ายที่สุดเจ้าตัวจะออกมายอมรับว่าการเลือกย้ายมาเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด เป็นเพราะว่าเขาชื่นชอบสโมสรแห่งนี้มาตั้งแต่วัยเด็ก
"ตอนที่สโมสรแจ้งมาว่า เรอัล มาดริด ทุ่มเงินซื้อตัวผม ผมและครอบครัวดีใจกันอย่างมาก เพราะว่าครอบครัวของผม ทราบดีว่าตัวผมเองชื่นชอบเรอัล มาดริด มาตั้งแต่วัยเด็ก"
"เรอัล มาดริด คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาเสนอสัญญาระยะยาวให้กับผม และมองผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมในระยะยาว ซึ่งทางสโมสรยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ลูก้า โมดริช จะคอยดูแลและช่วยเหลือผม ผมรู้สึกประทับใจมากในเรื่องดังกล่าว เพราะโมดริช คือหนึ่งในนักเตะตำนานของทีม"
วันเดอร์คิดแห่ง ยูโร 2024
แม้ว่าการลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลแรก โอกาสของเขาที่ได้รับจาก คาร์โล อันเชล็อตติ จะมีค่อนข้างน้อย ด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งในด้านขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ผู้เล่นระดับโลก และปัญหาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ที่ทำให้เขาหายไปจากทีมในช่วงครึ่งปีแรก
โดยตลอดทั้งฤดูกาล 2023-24 อาร์ด้า กูแลร์ ได้รับโอกาสลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด ไปเพียง 12 นัดรวมทุกรายการ ทำประตูไปได้ทั้งหมด 6 ประตู
ด้วยสาเหตุในการลงสนามที่ค่อนข้างน้อยของเด็กหนุ่มรายนี้ จึงมีกระแสข่าวลือออกมาเป็นระยะว่า เรอัล มาดริด ควรปล่อยตัว อาร์ด้า กูแลร์ ออกไปหาประสบการณ์ยืมตัวกับสโมสรอื่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงเล่นให้กับเด็กหนุ่มรายนี้
ซึ่งทาง คาร์โล อันเชล็อตติ ออกมาปฏิเสธอย่างเสียงแข็ง พร้อมเผยถึงโอกาสของเด็กหนุ่มรายนี้ในอนาคต
"ผมไม่มีแผนที่จะปล่อยตัว อาร์ด้า กูแลร์ ออกไปจากทีม เขาเพิ่งจะอายุ 19 ปี เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยสุดในทีมชุดใหญ่ เราต้องให้เวลาเขาในการ ปรับตัว เขาคืออนาคตของสโมสร และผมเชื่อมั่นว่าคุณภาพฝีเท้าของเขาสามารถเติบโต ไปเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร และเป็นนักเตะระดับแนวหน้าของโลกได้อย่างแน่นอน"
และสิ่งที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ออกมาพูดถึงฝีเท้าของ อาร์ด้า กูแลร์ ที่เขามองว่าเด็กหนุ่มรายนี้จะสามารถเติบโตไปเป็นนักเตะแนวหน้าของโลก อาจจะดูไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงมากเท่าใดนัก
เพราะดูจากผลงานส่วนตัวตลอดการลงเล่นทั้งหมดในศึก ยูโร 2024 เขากลายเป็นกุญแจสำคัญในการพาทัพไก่งวง ทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทึมสุดท้าย หลังจากห่างหายจากการเข้ารอบ 8 ทีม ยาวนานถึง 16 ปี
โดยเขาเปรียบเสมือนหัวใจในเกมรุกของทีมชาติตุรกี เพราะตลอดทัวร์นานเมนต์ที่ผ่านมา อาร์ด้า กูแลร์ ลงสนามไปทั้งหมด 4 นัด มีส่วนร่วมในการทำประตูถึง 2 ประตู โดยมาจากทำประตูด้วยตนเอง 1 ประตู และแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมอีก 1 ประตู
ซึ่งประตูดังกล่าวที่เขาทำได้ ยังจารึกสถิติในศึกยูโร ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ลงทำการแข่งขันศึกยูโรเป็นครั้งแรกในชีวิตและทำประตูได้ ด้วยวัย 19 ปี กับอีก 114 วัน ทำลายสถิติเดิมของ "CR7" คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ที่เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2004 โดยในเวลานั้น คริสเตียโน่ อายุ 19 ปี กับอีก 128 วัน
โดยนอกเหนือจากสถิติดังกล่าว อาร์ด้า กูแลร์ ยังเป็นแข้งดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ทำสถิติเทียบเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวยน์ รูนีย์ ที่ทำประตูและแอสซิสต์ ได้ตั้งแต่หนแรกในการลงเล่นทัวร์นาเมนต์ยูโร
"มันเป็นค่ำคืนที่มหัศจรรย์ พวกเราทุกคนภายในทีมรวมถึงคนทั้งประเทศต่างมีความสุขหลังจากที่ได้เห็นทีมชาติตุรกี เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเราห่างหายจากการเข้ารอบนี้มาอย่างยาวนาน"
"พวกเราทุกคนเล่นกันได้อย่างเต็มที่ พวกเราใส่สุดกันมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ในทุกนัด และผมขอขอบคุณกองเชียร์ทุกคน ที่ทำให้พวกเราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผมสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อชาติของพวกเราทุกคน" อาร์ด้า กูแลร์ กล่าวความในใจหลังจบเกมที่ทีมชาติตุรกี เอาชนะทีมชาติออสเตรีย 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
สุดท้ายแล้วในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2024 อาร์ด้า กูแลร์ ได้โชว์ฝีเท้าให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า เขาคือนักเตะคุณภาพ "ครบเครื่อง" อีกหนึ่งคนแห่งวงการฟุตบอล ซึ่งเชื่อว่าหากเขารักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นของตนเอง ให้ดีแบบนี้ได้อย่างต่อเนื่อง การเติบโตไปเป็นผู้เล่นแนวหน้าของโลกที่ คาร์โล อันเชล็อตติ เคยทำนายเอาไว้ คงจะไม่เกินจริงแต่อย่างใด
แหล่งอ้างอิง
https://blog.baruthotels.com/en/who-is-arda-guler-his-life-and-football-career
https://onefootball.com/en/news/oezil-names-arda-gueler-as-better-than-me-amid-milan-rumours-37720853
https://www.3addedminutes.com/sport/football/wonderkid-files-arda-guler-talented-turk-breaking-records-fenerbahce-4094073
https://www.goal.com/en-ae/news/arda-guler-told-put-off-barcelona-transfer-by-mesut-ozil-joan-laporta-confirms-talks-fenerbahce-wonderkid/bltcdc8505373221e05
https://www.theguardian.com/football/article/2024/jul/03/arda-guler-turkey-austria-euro-2024-football
https://www.transfermarkt.com/arda-guler/verletzungen/spieler/861410
