Feature

เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน : ตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้พาอังกฤษเถลิงแชมป์โลกครั้งแรก | Main Stand

เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานแห่งสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหนึ่งในขุมพลทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัย 86 ปี

 


โลกฟุตบอลได้หยุดเพื่อไว้อาลัย และระลึกถึงหนึ่งในยอดนักเตะที่เคยได้ลงวาดลวดลายบนโลกลูกหนัง 

"เซอร์ บ็อบบี้ คือฮีโร่ของผู้คนนับล้านจากทุกช่วงวัย ไม่ใช่แค่ในแมนเชสเตอร์ หรือสหราชอาณาจักร แต่กับทุกที่บนโลกที่มีการเล่นฟุตบอล" คือส่วนหนึ่งในแถลงไว้อาลัยของทีมปีศาจแดง

ร่วมย้อนระลึกถึงอาชีพการค้าแข้งของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน "นักเตะที่เคลื่อนไหวได้งดงามดั่งนักบัลเล่ต์ แต่มีเท้าที่ทรงพลังดั่งระเบิดไดนาไมต์" ตามคำนิยามของ จิมมี่ เมอร์ฟี่ อดีตผู้จัดการทีม ได้ในบทความนี้กับ Main Stand

 

บัสบี้ เบ็บส์

ชาร์ลตัน ได้เซ็นสัญญาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยวัย 15 ปี หลังจากโชว์ฟอร์มเข้าตา โจ อาร์มสตรอง หัวหน้าแมวมองของสโมสรในตอนนั้น ก่อนรับสัญญาอาชีพฉบับแรกในปี 1954 ซึ่งเจ้าตัวได้พาทัพปีศาจแดงชุดเยาวชนคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธคัพ สามปีติด ตั้งแต่ 1954-1956

จากผลงานที่โดดเด่นในทีมชุดเล็ก บ็อบบี้ จึงได้รับโอกาสประเดิมสนามทีมชุดใหญ่ในวันที่ 6 ตุลาคม 1956 และสร้างผลงานทำสองประตู พาทีมเอาชนะ ชาร์ลตัน แอธเลติก ไปด้วยสกอร์ 4-2 ทั้งที่เจ้าตัวกำลังมีอาการบาดเจ็บอยู่

เจ้าตัวย้อนระลึกการลงเล่นเกมแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า "คุณ บัสบี้ ถามว่าผมโอเคไหม อันที่จริงผมข้อเท้าแพลง แต่ผมจะไม่ยอมรับมันหรอก เลยตอบกลับ (ผู้จัดการทีม) เขาไปว่า 'ใช่ครับ'"

ด้วยสถานการณ์สงครามโลกที่เพิ่งสิ้นสุดลง บ็อบบี้ ที่มีอายุเกิน 17 ปีบริบูรณ์ จึงต้องเข้ารับราชการทหารไปพร้อมกับลงเล่นฟุตบอล โดย เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ได้แนะนำให้เขาและ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส อีกหนึ่งดาวรุ่งฟอร์มแรงของสโมสร เข้าประจำการที่กรมสรรพาวุธทหารบกในชรูวส์บิวรี่ เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ใช้เวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ มาลงเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้

บ็อบบี้ วัย 19 ปี ต้องเผชิญกับการแย่งตำแหน่งศูนย์หน้าที่เข้มข้น และเพิ่งยึดตัวจริงได้ในช่วงปลายฤดูกาล 1956/57 ด้วยการโชว์ฟอร์มทำแฮตทริคใส่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส การันตีตำแหน่งตัวจริงกับสโมสรจากวันนั้นเป็นต้นมา

ในฐานะส่วนหนึ่งของขุมพล บัสบี้ เบ็บส์ ที่เติบโตมาจากระบบอคาเดมี่ของสโมสร และโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์ลีกในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนจับตามองทัพนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าพวกเขาจะกลายมาเป็นมหาอำนาจของโลกลูกหนังในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อลูกทีมของ บัสบี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรแรกจากเกาะอังกฤษ ที่ไปร่วมลงแข่งรายการฟุตบอลยุโรป

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น…

 

ผู้รอดชีวิตจากมิวนิค

5 กุมภาพันธ์ 1958 แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปยันเสมอ เรด สตาร์ เบลเกรด 3-3 โดยที่ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน มีชื่อทำสองประตู เพื่อพาต้นสังกัดทะลุเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

วันต่อมา 6 กุมภาพันธ์ 1958 ... ระหว่างที่ลูกทีมของ แมตต์ บัสบี้ กำลังเดินทางกลับอังกฤษ เพื่อมาเตรียมตัวลงแข่งกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน ต่อในเกมสุดสัปดาห์ เครื่องบินของพวกเขาได้ไถลออกนอกรันเวย์หลังการแวะเติมเชื้อเพลิงที่มิวนิค พรากชีวิต 8 เพื่อนร่วมทีมของ ชาร์ลตัน ไปตลอดกาล รวมถึง ทอมมี่ เทย์เลอร์ และ เดวิด เพ็กก์ สองนักเตะที่เขาและ เดนนิส ไวโอเล็ต ขอแลกที่นั่งด้วย

แฮร์รี่ เกร็ก ผู้รักษาประตูของทีมในตอนนั้น เป็นคนดึงร่างของ บ็อบบี้ ออกมาจากซากเครื่องบิน "เขาเป็นผู้รักษาประตูที่วิเศษมาก แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือเขาเป็นมนุษย์ที่วิเศษมาก ๆ" คือคำระลึกถึงอดีตเพื่อนร่วมทีม ที่ ชาร์ลตัน กล่าวถึงในงานไว้อาลัยเมื่อปี 2020

แม้จะรอดพ้นจะเหตุโศกนาฏกรรมได้ แต่ ชาร์ลตัน ก็ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนเดินทางกลับมาประเทศอังกฤษในอีก 8 วันให้หลัง ในฐานะหนึ่งในแข้งตัวสำคัญสำหรับการสร้างทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นมาใหม่

บ็อบบี้ ชาร์ลตัน มีส่วนพา แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าชิงบอลถ้วยเอฟเอ คัพ ในปี 1958 ด้วยขุมพลที่ถูกรวมการขึ้นมาเฉพาะกิจ แต่พวกเขาพ่ายให้กับ โบลตัน 0-2 ก่อนที่แข้งยุคใหม่ของ บัสบี้ จะกลับมาล้างตาอีกครั้งในปี 1963 ด้วยการเป็นฝ่ายเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 และเป็นเหรียญแชมป์บอลถ้วยรายการแรกของเจ้าตัว

การเข้ามาของ เดนนิส ลอว์ และ จอร์จ เบสต์ สร้างสามประสานเกมรุก "United Trinity" ที่พาลูกทีมของ บัสบี้ คว้าแชมป์ลีกในปี 1965 และ 1967 พร้อมกับที่ ชาร์ลตัน เป็นส่วนหนึ่งในนักเตะทีมชาติอังกฤษชุดลงแข่งฟุตบอลโลก 1966 ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกมาครองได้

แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ ชาร์ลตัน เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1968 เมื่อทัพปีศาจแดงได้เข้าชิงฟุตบอลยุโรปกับ เบนฟิก้า โดย บ็อบบี้ มีส่วนทำสองประตู และเป็นกัปตันทีมคนแรกของสโมสรที่ได้ชูถ้วยแชมป์ยูโรเปียนคัพ พร้อมกับเป็นการระลึกถึงเพื่อนร่วมทีมผู้ล่วงลับในโศกนาฏกรรมที่มิวนิคเมื่อ 10 ปีก่อนหน้า

ชาร์ลตัน ดำรงตำแหน่งกัปตันทีมของสโมสรจนถึงปี 1973 เมื่อเจ้าตัวย้ายไปร่วมทีม เปรสตัน นอร์ต เอนด์ ในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม พร้อมกับฝากสถิติต่าง ๆ และเรื่องราวอันน่าจดจำไว้กับสโมสรแรกของเขาอย่างมากมาย

 

ตำนานแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด

ด้วยการทำ 249 ประตูจากลงเล่นทั้งหมด 758 เกม ในช่วงเวลา 17 ปีกับสโมสร สถิติของ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน นั้นอยู่ยืนยงมาจนถึงยุคของ ไรอัน กิ๊กส์ และ เวย์น รูนี่ย์

บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1966 ครบทุกนาที และผลงานดังกล่าวทำให้เจ้าตัวคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครอง โดยเป็นเพียง 1 ใน 9 นักเตะในประวัติศาสตร์ ที่เคยได้ทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก แชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรป และรางวัลบัลลงดอร์ เช่นเดียวกับ ฟรานซ์ เบคเค่นบาวเออร์, โรนัลดินโญ่, และ ลิโอเนล เมสซี่

ในปี 1994 เจ้าตัวได้รับยศเป็น เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และมักเข้ามาชมเกมในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดอยู่บ่อยครั้งกับภรรยาของเขา ตำนานของ ชาร์ลตัน จะคงอยู่กับสโมสรและสนามอันเป็นที่รักของเจ้าตัวไปอีกตราบนาน ทั้งในรูปของรูปปั้น United Trinity ที่หน้าสนาม และอัฒจันทร์ฝั่งใต้ ที่ถูกตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่เจ้าตัวในปี 2016

ข่าวการสูญเสียของ เซอร์ บ็อบบี้ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าของวงการลูกหนัง โดยสโมสรต่าง ๆ ได้ร่วมโพสต์แสดงความอาลัย รวมถึง ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บาเยิร์น มิวนิค และสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

"สำหรับผม เขาคือนักเตะอังกฤษที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา" คือความเห็นของ แกรี่ ลินิเกอร์ ศูนย์หน้ารุ่นน้องของทัพสิงโตคำราม "ผมโชคดีมากที่ได้ทันเห็นเขาลงเล่นตอนเด็ก ๆ เขาคือฮีโร่ของผม และเป็นฮีโร่ของใครหลายคน"

อดีตผู้เล่นทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์, แกรี่ เนวิลล์, และ เดวิด เบ็คแฮม ต่างออกมาระลึกถึงหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร ผู้เคยกล่าวถึงทักษะความสามารถของตัวเองว่า "ผมไม่เคยคิดว่าฟุตบอลเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเลย จริง ๆ นะ ทุกอย่างมันดูง่ายมากเลย"

แต่ความเรียบง่ายดังกล่าว คือผลงานการฝากลวดลายไว้บนโลกลูกหนัง ที่ผู้คนอีกหลายเจนเนอเรชั่นจะระลึกถึงหนึ่งในยอดแข้งที่เคยมีชีวิตอยู่

ขอให้เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตันไปสู่สุคติ…

 

แหล่งอ้างอิง:

https://theathletic.com/4212130/2023/10/21/sir-bobby-charlton-dead-manchester-united/
https://www.bbc.com/sport/football/62989801
https://www.manutd.com/en/news/detail/obituary-of-manchester-united-and-england-football-legend-sir-bobby-charlton
https://www.bbc.com/sport/football/63006386

Author

กรทอง วิริยะเศวตกุล

2000 - Football and F1 fanatics - Space enthusiasts - aka KornKT

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา