Feature

ลูกไม้หล่น (ไม่) ไกลต้น : เส้นทางการเดินตามรอยเท้าพ่อของ "จัสติน ไคลเวิร์ต" | Main Stand

ถ้าถามเหล่าแฟน ๆ ที่เริ่มดูบอลช่วงยุค 90 เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ “แพทริก ไคลเวิร์ต” ศูนย์หน้าชาวฮอลแลนด์ ที่สร้างชื่อให้ตัวเองจากการยิงประตูชัยในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 1995 ก่อนจะกลายเป็นตำนานหลังจากนั้น

 


นอกจากผลงานในสนามแล้ว เขายังปลุกปั้นมั่นหมายลูกชายอย่าง “จัสติน ไคลเวิร์ต” ให้เดินตามรอยตัวเอง แต่ดูรวม ๆ แล้ว ฝีเท้าของจัสตินยังห่างไกลจากไคลเวิร์ตผู้พ่ออยู่มาก เห็นได้จากฟอร์มที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนต้องพเนจรไปทั่วยุโรป และล่าสุดมาลงเอยกับบอร์นมัธ

เส้นทางการค้าแข้งของจัสตินมีที่มาที่ไปอย่างไร และเขาจะประสบความสำเร็จแบบผู้เป็นพ่อได้หรือไม่

มาร่วมติดตามเรื่องราวนี้ไปพร้อมกันกับ Main Stand

 

หัวใจโบยบินดินแดนกังหันลม

จัสตินเกิดและเติบโตที่อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เขาคลุกคลีกับฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก พร้อมความคาดหวังที่สูงจากคนรอบข้างว่าต้องก้าวขึ้นมาเป็นตำนานลูกหนังแบบเดียวกับพ่อให้ได้

มาตรฐานที่แพทริกเคยทำไว้ในอดีตถือว่าสูงลิบลิ่ว เขาอยู่ในยุคทองของอาแจ็กซ์ที่มีสตาร์ล้นทีม ก่อนจะย้ายมาสร้างตำนานกับบาร์เซโลน่า รวมถึงในนามทีมชาติ แพทริกก็เข้าร่วมการแข่งขันใหญ่ ๆ ทุกรายการ และยังครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทัพอัศวินสีส้ม ก่อนที่จะถูกโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำลายสถิติในเวลาต่อมา

ทำให้จัสตินมีแรงผลักดันในการเป็นนักเตะอาชีพ เขาเริ่มเดินตามรอยเท้าพ่อ จนได้เข้าอคาเดมี่ของ “อาแจ็กซ์” เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ หลังจากเรียนรู้และหาประสบการณ์ในอคาเดมี่มาเกือบทศวรรษ เขาถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ช่วงปลายปี 2016 ก่อนจะสร้างชื่อให้ตัวเองในอีกปีให้หลัง จากการทำแฮตทริกแรกของตัวเองในศึกเอเรดิวิซี ทำให้เขาโด่งดังชั่วข้ามคืนในฐานะวันเดอร์คิดคนใหม่ลูกชายตำนาน

มันเป็นเรื่องพิเศษสำหรับจัสตินอย่างมาก เพราะขนาดพ่อของเขาที่เป็นตำนาน ยังไม่สามารถทำแฮตทริกในลีกดัตช์ได้เลย เขาแจ้งเกิดได้แบบเต็มตัว จนสามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมอย่าง NXGN มาครองได้ในปี 2018

เขาเริ่มถูกนำไปเปรียบเทียบกับพ่อ แทนที่จัสตินจะกดดันจากความคาดหวังที่สูง เขากลับนำประสบการณ์ของพ่อมาปรับใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ดังบทสัมภาษณ์ที่ว่า “พ่อมีความสำคัญกับการพัฒนาของผมอย่างมาก เพราะเขาเคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน เขามีประสบการณ์โดยตรงทั้งหมด ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากตรงนั้น และจะนำทั้งหมดนี้มาปรับใช้กับตัวผมเอง

ความโดดเด่นของจัสติน ทำให้ซีอีโอของสโมสรในขณะนั้นอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดใจไม่ไหวจนต้องออกมากล่าวผ่านเว็บไซต์ของ GOAL ว่า “เห็นได้ชัดเลยว่าจัสตินมีความเร็วกว่าพ่อของเขานะ เขาเล่นได้ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวาเลยแหละ ผมคิดว่าเขามีสิทธิที่จะแซงพ่อของเขาได้ในอนาคต”

ทุกอย่างหลอมรวมจัสตินให้กลายเป็นวันเดอร์คิด และดูเหมือนอาแจ็กซ์จะเล็กเกินไปสำหรับเขาเสียแล้ว จนสายตรงจากตำนานหมาป่าแห่งกรุงโรมอย่าง “ฟรานเชสโก้ ต็อตติ” ได้ติดต่อเข้ามาหาพ่อของเขา เพื่อโน้มน้าวให้จัสตินตอบรับข้อเสนอในการย้ายไปร่วมทีมโรม่า

 

แปรสภาพเป็นแข้งพเนจร

ในที่สุดพ่อลูกคู่นี้ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของตำนานได้ จัสตินย้ายไป “โรม่า” ด้วยค่าตัว 18.5 ล้านยูโร หลังเซ็นสัญญากันเสร็จ เขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงสโมสรใหม่ทันทีว่า “ตอนนี้ผมอยู่ในสโมสรที่น่าเหลือเชื่อ ผมอดใจไม่ไหวแล้วที่จะลงเล่น ผมคิดว่าโรม่าเป็นสโมสรที่ดีและพร้อมให้โอกาสผมให้กลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ผมพร้อมจะทำสิ่งดี ๆ ที่นี่แล้ว”

ชีวิตช่วงเริ่มต้นของเขาที่กรุงโรมเป็นไปอย่างราบรื่น เขาสร้างสถิติใหม่จากการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ ดูเหมือนเส้นทางการค้าแข้งจะไปได้สวย

แต่หลังจากนั้นชีวิตของเขาในแดนมักกะโรนีก็เริ่มพบกับความยากลำบาก ตลอดสองฤดูกาลที่สวมยูนิฟอร์มหมาป่า เขาต้องลงเล่นภายใต้ผู้จัดการทีมถึง 4 คนที่สลับกันเข้ามารับตำแหน่ง รวมกับอาการบาดเจ็บด้วยแล้ว ทำให้ฟอร์มของเขาตกลงและไม่ต่อเนื่องพร้อมกับจำนวนการทำประตูที่ลดลงไป

ส่งผลให้จัสตินต้องระหกระเหินไป “แอร์เบ ไลป์ซิก” แบบยืมตัวในฤดูกาล 2020-21 ถือว่าเป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทางฝั่งไลป์ซิกเองก็ต้องการตัวแทนของ ติโม แวร์เนอร์ ที่ย้ายไปเชลซี ส่วนฝั่งจัสตินเองก็ย้ายมาเพื่อเรียกฟอร์มเก่งของตัวเอง แต่สุดท้ายผลงานของเขากลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เขาทำประตูได้เพียง 3 ลูกตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมกับใช้เวลาส่วนใหญ่บนม้านั่งสำรอง

หลังหมดสัญญากับไลป์ซิก เขาได้ย้ายแบบยืมตัวอีกครั้งไปที่ “นีซ” ในฤดูกาล 2021-22 ฟอร์มของเขากระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย จากการลงสนามและการมีส่วนร่วมกับประตูมากขึ้น แต่โดยรวมก็ยังห่างไกลจากมาตรฐานเดิมที่เขาเคยทำได้สมัยค้าแข้งกับอาแจ็กซ์อยู่ดี

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ฤดูกาลถัดมาเขาย้ายแบบยืมตัวอีกครั้งไปที่ “บาเลนเซีย” การผจญภัยแดนกระทิงครั้งนี้ มาพร้อมกับความคาดหวังว่าจะคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม เขาทำไปเพียง 6 ประตูตลอดฤดูกาล จนต้องกลับมาที่โรม่าอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 2022-23

ชีวิตหลังออกจากอาแจ็กซ์ ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามแบบที่เขาคิดแม้แต่น้อย จัสตินต้องการย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่ขึ้นเพื่อประสบความสำเร็จให้ได้แบบพ่อ แต่ดูเหมือนจะเป็นการตามรอยที่ผิด เพราะเขาเหมือนกลายเป็นคนละคน จัสตินไม่สามารถคืนฟอร์มเก่งของตัวเองได้อีกเลย เขาแปรสภาพจากวันเดอร์คิดเป็นแข้งพเนจรอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เพิ่งอายุแค่ 24 ปีเท่านั้น

 

การคืนชีพครั้งสุดท้าย

มันอาจเป็นโชคชะตาที่พาจัสตินให้เป็นนักเตะพเนจรเช่นนี้ แต่ก็ยังตัดสินไม่ได้หรอกว่าเขาไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตแล้ว เพราะอายุเขายังน้อย และยังเหลืออีกลีกที่เขายังไม่ได้เก็บเข้ามาเป็นคอลเล็คชั่นในเส้นทางพเนจร ลีกที่ว่าคือ “พรีเมียร์ลีก” ซึ่งปัจจุบันถือเป็นลีกอันดับ 1 ของโลก

คราวนี้เขาย้ายแบบถาวรไป “บอร์นมัธ” ในเดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา โดยเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปี แบบพิสูจน์กันให้ชัดไปเลยว่า “จัสตินจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมา และก้าวไปประสบความสำเร็จแบบพ่อได้หรือไม่”

ฤดูกาล 2023-24 ที่กำลังจะมาถึง บอร์นมัธถือได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร พวกเขาได้แยกทางกับกุนซือที่พาทีมรอดตกชั้นในฤดูกาลที่แล้วอย่าง “แกรี โอนีล” ท่ามกลางความมึนงงของเหล่าเดอะ เชอร์รีส์ ก่อนจะแต่งตั้ง “อันโดนี อิราโอลา” เป็นกุนซือคนใหม่ทันที

อิราโอลาถือว่าเป็นกุนซือที่มีสไตล์คล้ายกับ “มาร์เซโล บิเอลซา” มาก เพราะเคยร่วมงานกันสมัยยังเป็นนักเตะ เขามีการปรับตัวอยู่เสมอ ชอบวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง รวมถึงมีจุดเด่นเป็นเกมรุกอันดุดัน 

ผลงานสุดมาสเตอร์พีซของเขาคือการพา “ราโย บาเยกาโน” เลื่อนชั้นสู่ ลา ลีกาในปี 2021 และในฤดูกาลล่าสุดก็สามารถพาทีมเอาชนะยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ได้อีกด้วย

เขาชอบใช้แผน 4-2-3-1 ที่ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา รูปแบบการเล่นที่เป็นจุดเด่นคือ “การเพรสซิ่ง” มีสถิติออกมาว่าบาเยกาโนในฤดูกาลล่าสุดมีจำนวนการสวนกลับ และบีบพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งครองบอลในแดนอันตรายเป็นอันดับ 3 ของลีก การเพรสซิ่งที่ว่าไม่ใช่การแย่งบอลคืนจากคูแข่งเท่านั้น แต่เขายังเปลี่ยนให้ทีมครองบอลบุกต่อทันที รวมถึงยังมีจุดเด่นในเรื่องการดึงศักยภาพของนักเตะออกมา

อิราโอลามีคติประจำใจคือ “จริง ๆ ฟุตบอลเป็นของนักเตะ โค้ชไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้น แต่นักเตะนี่แหละที่ทำให้โค้ชอย่างเราดูดีขึ้น และผมโชคดีที่มีทุกคนอยู่ในทีม ผมประสบความสำเร็จได้เพราะนักเตะเหล่านี้เลย” สิ่งเหล่านี้มันเป็นแรงบวกในการทำงานของเขา และยังทำให้นักเตะในทีมมีความมั่นใจตามไปด้วย ส่งผลให้อิราโอลาสามารถดึงศักยภาพของนักเตะแต่ละคนออกมาได้เป็นอย่างดี

ทั้งรูปแบบการเล่น และทัศนคติของเฮดโค้ช มันเอื้อให้จัสตินมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จกับทีมเหลือเกิน เพราะเขาเองเป็นนักเตะที่มีความเร็ว และเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก ทำให้ตอบโจทย์รูปแบบการเล่นสวนกลับเป็นอย่างมาก รวมกับทัศนคติของอิราโอลาแล้ว น่าจะทำให้เขามีความสุขดีในถิ่น “วิทาลิตี สเตเดียม”

เห็นได้จากบทสัมภาษณ์แรกของเขากับทีมพร้อมรอยยิ้มที่ว่า “ผมดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสร ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้มาทำความรู้จักกับทุกคนในทีม”

“ผมจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพื่อเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมา และเป็นไปตามที่แฟนบอลคาดหวังไว้ ผมจะทำหน้าที่ในเกมรุกให้ดี ผมพร้อมที่จะเป็นคนสำคัญของทีม แน่นอนผมกระหายการยิงประตู”

“ผมเพิ่งอายุ 24 เอง ผมได้เรียนรู้ประสบการณ์มากมายจากทีมทั่วยุโรปที่เคยไปค้าแข้งด้วย รวมถึงครอบครัวอันยิ่งใหญ่ของผม ทุกคนสนับสนุนผมอยู่ตลอด มันต้องช่วยผมในอนาคตได้แน่นอน ผมมีความสุข และรักพวกเขาทุกคนมาก”

ชีวิตของจัสตินนับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจจริง ๆ กับการเติบโตมาในฐานะลูกชายของตำนาน เขาอยากเดินตามรอยเท้าพ่อให้ดี ถึงแม้จะมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาขัดขวาง ทำให้บางช่วงก่อนหน้านี้อาจมีผิดที่ผิดทางไปบ้าง แต่ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะคืนชีพให้ตัวเองอีกครั้งกับเวทีพรีเมียร์ลีก

แม้ฤดูกาล 2023-24 ซีซั่นแรกในพรีเมียร์ลีก จัสตินจะยิงให้บอร์นมัธได้เพียง 9 ประตู รวมทุกรายการ แต่เขาได้รับโอกาสลงสนามสม่ำเสมอ

และในฤดูกาล 2024-25 จัสตินก็สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเองได้สำเร็จ กับการเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกจากการซัด 3 จุดโทษในเกมเดียวของพรีเมียร์ลีก ในเกมที่ บอร์นมัธ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-2

ซึ่งเชื่อได้เลยว่า เจ้าตัวหวังให้ทุกอย่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ นับจากนี้

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.sportskeeda.com/player/justin-kluivert
https://www.goal.com/story/justin-kluivert-nxgn-2018-EN/index.html
https://www.fotmob.com/th/players/794253/justin-kluivert
https://lastwordonsports.com/football/2022/01/29/families-in-football-patrick-and-justin-kluivert/
https://www.bournemouthecho.co.uk/news/23611088.afc-bournemouth-sign-justin-kluivert-roma/
https://www.youtube.com/watch?v=isLgf_jmGko (บทสัมภาษณ์แรกของจัสติน ไคลเวิร์ต กับบอร์นมัธ)

Author

ณภัทร์ วีรโชติโยธิน

นายประตูผู้หลงใหลในเกมแฟนตาซี พรีเมียร์ลีก

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา