Feature

มาร์โก ซิลวา : บุรุษผู้พาฟูแล่มสิ้นสุดการเป็น "โยโย่คลับ" | Main Stand

ฟูแล่ม เป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "โยโย่คลับ" แห่งเกาะอังกฤษ จากการที่พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นลงระหว่างพรีเมียร์ลีกกับแชมเปี้ยนชิพอยู่บ่อยครั้ง

 

จนการมาถึงของกุนซือชาวโปรตุกีสอย่าง มาร์โก ซิลวา ที่เข้ามาช่วยพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ และลบภาพจำการเป็นโยโย่คลับของฟูแล่มออกไป

เส้นทางการคุมทีมของชายผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไร และรูปแบบการเล่นของเขาทำให้ฟูแล่มเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน มาร่วมติดตามและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กับ Main Stand

 

สั่งสมความล้มเหลว

จุดเริ่มต้นของ มาร์โก ซิลวา บนเส้นทางสายลูกหนังถือว่าคล้ายคลึงกับเฮดโค้ชจำนวนไม่น้อย เริ่มต้นจากการเป็นนักเตะอาชีพที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังนัก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาคงเป็นการเล่นให้กับ เอสโตริล ทีมในลีกโปรตุเกส ในช่วง 6 ปีสุดท้ายของการเป็นนักเตะอาชีพ

และเป็นที่เอสโตริลที่ซิลวาได้เริ่มต้นการเป็นเฮดโค้ชหลังแขวนสตั๊ด เมื่อปี 2011 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฟุตบอลของทีม แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องลงมาคุมทีมเองและพลิกสถานการณ์พาเอสโตริลจากรั้งอันดับ 10 เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ในปี 2012 ในฐานะแชมป์ลีกรอง

ปี 2015 ซิลวาย้ายมาคุมทีพ โอลิมเปียกอส ในลีกกรีซ ก่อนสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ จากการพาทีมบุกมาคว้าชัยเหนือ อาร์เซนอล ได้ถึงถิ่นในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เขาย้ายมาเกาะอังกฤษครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมปี 2017 โดยมีภารกิจคือการพา ฮัลล์ ซิตี้ รอดตกชั้นในฤดูกาลนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จจึงลาออกจากตำแหน่งไป

ซิลวาเผชิญความผิดหวังได้เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นก่อนที่โอกาสสำคัญจะถูกหยิบยื่นเข้ามาโดย วัตฟอร์ด ที่ต้องการเขาไปคุมทีมต่อหลังจากกุนซือคนเก่าอำลาทีมไป

การรับตำแหน่งของเขาที่ถิ่น วิคาเรจ โรด ในช่วงแรกดูจะเป็นไปได้สวย จากผลงานเกมรุกอันยอดเยี่ยมของทีม โดยเฉพาะนัดเปิดสนามที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล ไปอย่างน่าตื่นเต้น

เวลาผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาลเท่านั้นจากการชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 11 นัดหลังสุด ทำให้เขาถูกวัตฟอร์ดปลดออกจากตำแหน่ง การตัดสินใจนี้ไม่ได้มาจากแค่ผลงานอันย่ำแย่ แต่เป็นเพราะซิลวาขาดสมาธิกับทีม เนื่องจาก เอฟเวอร์ตัน สนใจให้เขาไปคุมทีมแทน โรนัลด์ คูมัน ที่โดนปลด

"ใจเขาลอยไปอยู่กับเอฟเวอร์ตันแล้ว มันทำให้ทิศทางของทีมเราเปลี่ยนไป เราต้องโฟกัสกับผลในระยะยาวเป็นหลัก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราจำเป็นต้องปลดเขาออกจากตำแหน่ง" แถลงการณ์อันดุเดือดของวัตฟอร์ดที่มีต่อซิลวา ทำให้ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินต้องจ่ายเงินชดเชย 4 ล้านปอนด์เพื่อยุติปัญหา

สุดท้ายเขาได้ไปคุมเอฟเวอร์ตันสมใจอยากในฤดูกาล 2018-19 ทีมทอฟฟี่ได้แต่งตั้งเขาเป็นกุนซือคนใหม่ ผลงานในปีแรกกับทีมเป็นไปได้อย่างสวยหรู ซิลวาพาทีมจบครึ่งบนของตารางได้สำเร็จ พร้อมกับการแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของ ริชาร์ลิซอน ที่ซิลวาพามาเล่นที่อังกฤษกับวัตฟอร์ด และดึงตัวมาเป็นลูกทีมของเขาอีกครั้งที่เอฟเวอร์ตัน

พอถึงฤดูกาล 2019-20 จากทีมที่ทำผลงานได้ดีกลับมีผลงานที่แย่ลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งมีเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเสริมทัพที่ไม่ถูกจุดในช่วงซัมเมอร์ เกมรับที่ย่ำแย่ หรือสปิริตในทีมที่หายไป

ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยใดก็ตามแต่ผลลัพธ์คือซิลวาถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนธันวาคม 2019 ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส โดยฟางเส้นสุดท้ายคือนัดที่เขาพาทีมบุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล อย่างขาดลอย 2-5 ที่แอนฟิลด์ ทำให้ทีมหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น

เห็นได้ชัดเจนว่าตั้งแต่เขาย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก ยังไม่มีทีมไหนที่เหมาะสมให้เขาคุมในระยะยาวได้เลย ผลจากการโดนปลดในครั้งนี้ทำให้ซิลวาพักการคุมทีมไปเกือบ 2 ปีเต็ม และชื่อของเขาก็เริ่มหายไปจากวงการฟุตบอลอังกฤษ

 

คราเวน คอทเทจ คือที่ที่ใช่

หลังจากว่างงานมาสักพัก ในที่สุดก็เป็น ฟูแล่ม ที่เพิ่งตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกมาหมาด ๆ แต่งตั้งเขามาคุมทีมในฤดูกาล 2021-22 กับภารกิจสำคัญในการช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

บางทีการเปลี่ยนมาคุมทีมในลีกรองบ้างอาจทำให้เขาไม่ล้มเหลวเหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะไม่ต้องกดดันตัวเองจนเกินไป และนี่เป็นโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะคิดถูก เขาพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จภายในปีเดียว ด้วยทีมที่ยิงประตูได้ถึง 106 ลูก พร้อมกับคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ซิลวาใช้แผน 4-2-3-1 และสามารถยืดหยุ่นเป็น 4-3-3 ได้ตลอด จุดเด่นคือการครองบอลเพื่อสร้างโอกาสในการทำประตู เขาทำให้ทีมชุดนี้มีสไตล์ที่โดดเด่นด้านการจ่ายบอล การเพรสซิ่ง มีการเคลื่อนที่ซัปพอร์ตกันอย่างลงตัว และมีเกมสวนกลับที่รวดเร็ว 

การเล่นในรูปแบบนี้ทำให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าชาวเซอร์เบีย ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด จากการยิงไปถึง 43 ประตู จนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครอง

ภารกิจถัดไปของซิลวาคือทำอย่างไรก็ได้ให้ฟูแล่มอยู่รอดบนพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2022-23 ให้ได้ เพื่อลบภาพการเป็นโยโย่คลับออกไป และพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าดีพอที่จะคุมทีมในพรีเมียร์ลีก

ซิลวาเสริมทัพด้วยนักเตะชื่อดังหลายตำแหน่ง เช่น แบรนด์ เลโน่, วิลเลี่ยน และ เจา เปาลินญ่า โดยเฉพาะรายหลังที่เข้ามาเติมเต็มแผน 4-2-3-1 ของซิลวาได้อย่างลงตัวกับบทบาทกองกลางตัวรับที่เป็นจุดศูนย์กลางของทีม

พร้อมกับให้อิสระ อันเดรส เปเรร่า ได้สร้างสรรค์เกมในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ โดยมีมิโตรวิชที่มีจุดเด่นในเรื่องของลูกกลางอากาศเป็นตัวช่วยในการพักบอล ทำให้เปเรร่าเล่นเชื่อมกับปีกและฟูลแบ็กทั้งสองข้างได้ง่ายขึ้น และพร้อมป้อนบอลให้มิโตรวิชทำประตูในช่วงเวลาสำคัญได้ตลอด

รูปแบบการเล่นนี้ทำให้ฟูแล่มพลิกโฉมจากทีมที่เล่นรอตกชั้นเมื่อสองฤดูกาลก่อนมาเป็นทีมที่เล่นบอลสนุกและได้ใจแฟนบอลมากขึ้น จนสามารถรอดตกชั้นได้แบบสบาย ๆ พร้อมกับจบครึ่งบนของตาราง และมีบางช่วงที่ได้ขึ้นไปลุ้นพื้นที่สโมสรยุโรปอีกด้วย

นอกจากฟอร์มของนักเตะแล้วกึ๋นของซิลวาถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่พาฟูแล่มบินได้สูงขนาดนี้ เขาทำมันได้ดีเกินคาด และถือว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งบนเวทีพรีเมียร์ลีก

ซิลวาให้สัมภาษณ์หลังจบฤดูกาลว่า "นี่เป็นเรื่องปกติ แฟน ๆ ของเรามีความคาดหวังในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่นี่แหละเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเชื่อมั่นในทีม มันสะท้อนถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ดี เราจะเตรียมตัวให้ดีขึ้นในฤดูกาลหน้า ผมหลงใหลในฟุตบอลจริง ๆ และผมมีความสุขกับที่นี่มาก"

 

เกมรุกสุดเร้าใจ

สาเหตุที่ซิลวาพาฟูแล่มบินสูงในฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา นั่นเพราะเขาได้สร้างเอกลักษณ์ของทีมด้วยจุดเด่นที่เรียกว่า เกมรุก ที่ช่วยให้ทีมสามารถทำได้ถึง 55 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นสถิติการยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว

จุดเด่นนี้เริ่มมาจากผู้รักษาประตูอย่าง เลโน่ ที่สามารถตอบโจทย์การ Build up บอลจากแดนหลังของซิลวาได้ ต่อเนื่องมาจนถึงฟูลแบ็กตัวหลักทั้งสองฝั่งอย่าง แอนโทนี่ โรบินสัน และ เคนนี่ เตเต้ ที่สลับกันขึ้นไปทำเกมรุกตลอดทั้งเกม พร้อมกับมีแอสซิสต์มาฝากเป็นบางครั้ง

ฟันเฟืองที่สำคัญของระบบนี้คือ กองกลางตัวรับสองตัวที่มีเปาลินญ่ายืนปักหลักเป็นศูนย์กลางของทีม เขามีจุดเด่นในการเข้าสกัดบอลและเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็ว มีสถิติออกมาว่าเขาสามารถเข้าสกัดบอลได้มากสุดในพรีเมียร์ลีกที่ 147 ครั้ง รวมถึงยังมีจังหวะการเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกได้ถึง 90 ครั้งตลอดฤดูกาล เขาประสานงานได้อย่างลงตัวกับ แฮร์ริสัน รีด คู่หูในแดนกลางที่รับบทเป็นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ทำให้การขึ้นเกมของทีมไหลลื่นยิ่งขึ้น

ปิดท้ายด้วยบรรดาตัวรุกของทีมที่ช่วยกันยิงประตูและทำให้รูปแบบเกมรุกที่ซิลวาวางไว้สมบูรณ์แบบ โดยมีมิโตรวิชที่ยิงไปถึง 14 ประตูในฤดูกาลล่าสุดเป็นตัวชูโรง เขามีความเป็นเพฌชฆาตสูงและสามารถยิงประตูได้ทุกรูปแบบ รวมถึงมีจุดเด่นในเรื่องการครองบอลที่เหนียวแน่นและการเอาชนะลูกกลางอากาศ

เมื่อนำจุดเด่นนี้มารวมกับความสามารถเฉพาะตัวของตัวรุกที่เหลือก็ทำให้ทีมมีรูปแบบการเล่นเกมรุกที่สนุกและเร้าใจในสายตาคนดู ซึ่งเป็นที่มาของจำนวนประตูที่ทีมยิงได้เป็นกอบเป็นกำ

 

อนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

จากผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมาคงพิสูจน์ได้แล้วว่า มาร์โก ซิลวา ไม่ใช่ของปลอม เขามีดีพอที่จะคุมทีมในพรีเมียร์ลีกได้ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งมันอาจเป็นเพียงภาพลวงตาก็ได้ เพราะผลงานแค่ฤดูกาลเดียวยังไม่สามารถวัดอะไรจากทีมหน้าใหม่ได้มากนัก

Second Season Syndrome เป็นคำที่ผุดขึ้นมาในหัวของแฟนบอลเจ้าสัวน้อยทุกคน มันคือการที่ทีม ๆ หนึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาทำผลงานดีในฤดูกาลแรก แต่พอถึงฤดูกาลถัดไปกลับมีฟอร์มย่ำแย่ลงจนต้องตกชั้น ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นกับฟูแล่มในฤดูกาลหน้าได้ถ้าไม่มีการเตรียมตัวที่ดีพอ

นี่จึงเป็นหน้าที่ของ มาร์โก ซิลวา ในการยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น มิเช่นนั้นผลงานที่ผ่านมาของเขากับทีมก็แทบจะไร้ความหมาย เขาต้องทำให้ทีมยืนระยะบนพรีเมียร์ลีกต่อไปให้ได้เพื่อลบภาพจำการเป็นโยโย่คลับออกจากความคิดของแฟนบอลทุกคน

แต่จะยืนระยะได้นานแค่ไหน ฤดูกาลถัดไปจะเป็นตัวตัดสิน

 

คลิปที่เกี่ยวข้องของ Main Stand

https://www.youtube.com/watch?v=6YRJWDuEq3Q (Second Season Syndrome)

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.fotmob.com/players/164124/marco-silva
https://www.theguardian.com/football/2018/jan/21/watford-sack-marco-silva
https://www.skysports.com/football/news/11671/11837062/marco-silva-sacked-what-went-wrong-at-everton
https://totalfootballanalysis.com/head-coach-analysis/marco-silva-fulham-2021-22-tactical-analysis-tactics
https://themastermindsite.com/2022/08/24/marco-silva-fulham-tactical-analysis/
https://www.foottheball.com/manager-in-focus/marco-silva-fulham-manager-tactics-build-up-high-press-playing-style-formation/
https://www.skysports.com/football/news/11096/12868701/marco-silva-exclusive-fulham-boss-discusses-his-football-obsession-and-raising-expectations-at-fulham

Author

ณภัทร์ วีรโชติโยธิน

นายประตูผู้หลงใหลในเกมแฟนตาซี พรีเมียร์ลีก

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา