กลายเป็นเรื่องเดือดระอุบนโลกออนไลน์เมื่อมีรายงานว่า สองเจ้าพ่อแห่งโลกโซเชียลมีเดีย อย่าง อีลอน มัสก์ แห่ง Twitter และ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แห่ง Facebook เปิดศึกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเป็น อีลอน มัสก์ ที่ขอท้าสู้กับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หลังไม่พอใจเรื่องที่อีกฝ่ายเตรียมเปิดธุรกิจใหม่เพื่อเป็นคู่แข่งกับเขา ส่วนฝั่งซัคเคอร์เบิร์กก็ตอบกลับด้วยความยินดี พร้อมท้าให้ส่งโลเคชั่นมา
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าทั้ง อีลอน มัสก์ และ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ทรงอิทธิพลขนาดไหน ทั้งสองต่างเป็นบุคคลที่จัดอยู่ในกลุ่มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกที่มีทั้ง ชื่อเสียงเงินทอง เป็นที่นับหน้าถือตาจากนักธุรกิจน้อยใหญ่ที่มองพวกเขาเป็นไอดอล และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ แต่ในมุมของการต่อสู้ล่ะ ทั้งสองคนมีฝีมือขนาดไหน ? แล้วถ้าสู้กันจริงใครจะเป็นผู้ชนะ ?
Main Stand จึงขอจับมหาเศรษฐีหัวใจนักสู้ทั้งสองมาประชันกันว่าพวกเขาเก่งกาจเรื่องวิชาการต่อสู้แขนงใดบ้าง เพื่อวัดกันดูใครจะเหนือกว่ากัน ?
จุดกำเนิดว่าที่ "ไฟต์หยุดโลก"
เรื่องมีอยู่ว่า ในวันที่ 22 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ซีอีโอปากกล้าแห่ง SpaceX และ Tesla รวมถึงนั่งตำแหน่งประธานของ Twitter แสดงความเห็นต่อข่าวที่มีการระบุว่า บริษัท Meta ภายใต้การดูแลของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Facebook อาจกำลังร่วมมือกับทีมงานสร้างโซเชียลมีเดียตัวใหม่ที่มีชื่อว่า "THREADS" ซึ่งจะกลายมาเป็นคู่แข่งของ Twitter ในอนาคต
นั่นจึงทำให้ อีลอน มัสก์ มองว่า ซัคเคอร์เบิร์ก กำลังพยายามควบคุมชีวิตชาวโซเชียลเอาไว้ในมืออีกครั้ง และอาจส่งผลกระทบต่อยอดผู้ใช้ Twitter ในภายภาคหน้า "ผมมั่นใจว่าโลกนี้คงรอไม่ไหวแล้วที่จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ ซัคส์ โดยไม่มีทางเลือกอื่น แต่อย่างน้อยเราก็มีสติที่จะรู้สึกกังวลอยู่บ้าง" โดยหลังจากนั้นได้มีผู้ใช้ Twitter รายหนี่งมาคอมเมนต์ตอบว่า "ระวังตัวไว้ดีกว่า อีลอน มัสก์ ผมได้ยินว่าเขาฝึกยิวยิตสูด้วยนะ"
อีลอน มัสก์ จึงตอบกลับคอมเมนต์นั้นว่า "ผมพร้อมจะสู้กับเขาในลูกกรง ถ้าไม่ขัดข้องอ่ะนะ"
คนที่เป็นแฟนคลับ อีลอน มัสก์ ก็รู้กันดีว่าเขามีนิสัยชอบโพสต์ข้อความปั่น ๆ แบบนี้เป็นประจำ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอแห่ง Meta กลับนำข้อความของมัสก์ไปโพสต์ลงสตอรี่ Instagram ของตัวเอง พร้อมแคปชั่นว่า "บอกโลเคชั่นมาเลย" และนั่นก็เลยทำให้เจ้าพ่อโซเชียลนกสีฟ้า ตอบกลับอย่างว่องไวว่า "เวกัส ออคตากอน" ซึ่งหมายถึงสังเวียนกรงเหล็ก 8 เหลี่ยมที่ใช้การแข่งขันศึกมวยกรง UFC นั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ อีลอนยังเกทับกลับไปที่มาร์คด้วยว่าเขามีท่าไม้ตายเด็ดเตรียมไว้เล่นงานบิ๊กบอส Meta โดยเฉพาะ "ผมมีท่าไม้ตายที่ยอดเยี่ยมที่ชื่อว่า The Walrus มันคือท่าที่ผมจะนอนทับคู่ต่อสู้แล้วไม่ทำอะไรเลย" แถมยังบอกอีกว่า "ผมแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยนอกจากอุ้มลูกและชูขึ้นสูง ๆ กลางอากาศน่ะ" ส่วนฝั่งโฆษกของ Meta กับ Twitter ออกมาคอมเมนต์เรื่องนี้สั้น ๆ ว่าเป็นการแสดงความเห็นในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ในนามบริษัท
และเมื่อข่าวการตอบโต้กันระหว่างสองยักษ์ใหญ่แห่งโลกโซเชียลเผยแพร่ออกไปทั่วโลกก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ Twitter และ Facebook อย่างกว้างขวาง พร้อมเปิดกระทู้และคอมเมนต์กันมากมายว่าถ้าสู้กันจริงใครจะชนะ ? เพราะต่างฝ่ายต่างก็ผ่านการเรียนวิชาต่อสู้และป้องกันตัวมาแล้ว
ว่าแต่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ อีลอน มัสก์ มีทักษะการต่อสู้แบบไหนบ้าง ? ลองมาดูกันในหัวข้อถัดไป
ซีอีโอผู้คลั่งการออกกำลัง และยิวยิตสู
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก รู้จักกันดีในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook โซเชียลมีเดียที่เขาเขียนโค้ดทำสื่อสังคมออนไลน์กับเพื่อน ๆ สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ก่อนพัฒนาจน Facebook กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้มากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงเขามีบุคลิกที่ดูเข้าถึงง่าย สวมเสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าแตะ ไปไหนมาไหนแบบสบาย ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ แม้คุณจะไม่ได้เล่น Facebook แต่ถ้าได้เห็นหน้าก็คงรู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
กระนั้นช่วงปี 2022 ซัคเคอร์เบิร์กได้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ทุกคนเห็น นั่นคือการลุกจากโต๊ะทำงานแล้วหันมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ จากการให้สัมภาษณ์ เขาบอกว่าสิ่งที่เขาทำเป็นประจำก่อนเข้างานคือการวิ่งออกกำลังกายวันละ 1 ไมล์ หรือวิ่งให้ครบ 365 ไมล์ภายใน 1 ปี ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 เจ้าพ่อ Facebook สร้างความฮือฮาด้วยการลงแข่งวิ่งที่สแตนฟอร์ด ระยะ 5K ก่อนแข่งเขาตั้งเป้าว่าจะวิ่งให้จบในเวลาต่ำกว่า 20 นาที พอถึงช่วงแข่งจริง ชายที่คนไทยเรียกว่า "พี่มาร์ค" (ซึ่งคำด้านหน้าชื่อมักเปลี่ยนไปตามแต่อารมณ์) ก็วิ่งเข้าเส้นชัยจบอันดับที่ 11 ทำเวลาไป 19.34 นาที เพซ 3.55 ทำได้ตามเป้าหมาย
แต่ที่ฮือฮาที่สุดคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตัดสินใจลงแข่งขันยิวยิตสู ที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเขาก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมคว้าเหรียญทองในประเภท Nogi Master รุ่นเฟเธอร์เวตสายขาว กับเหรียญเงินประเภท Gi Master รุ่นเฟเธอร์เวตสายขาว ซึ่งเมื่อเขาโพสต์เรื่องราวนี้ลง Facebook ของตัวเองก็มีแฟน ๆ เข้ามากดไลก์และแชร์ข่าวนี้กันแบบถล่มทลาย
ซัคเคอร์เบิร์ก วัย 38 ปี พูดถึงจุดเริ่มต้นของการเรียนวิชายิวยิตสูว่า "ผมเริ่มฝึกยิวยิตสูมาตั้งแต่ช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส สิ่งนี้ช่วยผมได้มาก มันทำให้ผมมีกำลังกายที่ดีขึ้นและมีสมาธิในการทำงานมากกว่าเดิม"
ส่วน ไค วู เทรนเนอร์มากประสบการณ์ในโลก MMA ของซัคเคอร์เบิร์ก รีวิวทักษะของลูกศิษย์ว่า "คุณคงไม่คิดหรอกว่าจะถูกชายคนนี้จับลงไปนอนพื้น สิ่งที่คุณจะรู้ต่อมาก็คือเขาโจมตีคุณด้วยเทคนิคที่ยอดเยี่ยมมาก และคุณคงไม่รู้ด้วยว่าเจ้าหนุ่มเนิร์ดคนนี้เป็นเพชฌฆาตจอมเร้นกาย"
มาถึงจุดนี้ก็คงรู้แล้วว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก คือชายที่คุณไม่ควรไปมีเรื่องวิวาทด้วย
บิ๊กบอสนกฟ้าผู้มีวิชาซ่อนอยู่ ?
ตัดภาพไปที่ซีอีโอเจ้าของแพลตฟอร์ม Twitter ภาพลักษณ์ที่เห็นกันส่วนใหญ่คือนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ปรากฏตัวตามงานต่าง ๆ ในชุดสูทสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว หวีผมตั้ง กระเซอะกระเซิงบางครา และมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แม้เขาจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก แต่สิ่งที่เขาต่างจาก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็คือ "ฝีปาก" และการแสดงความเห็นต่อสังคมผ่านปลายนิ้วมือที่เผ็ดร้อนไม่เกรงใจใคร เรียกเสียงชื่นชมและต่อว่าจากสังคมโลกอยู่เป็นระยะ
แต่หากจะถามว่า อีลอน มัสก์ คนนี้มีความสามารถหรือมีประสบการณ์เรื่องวิชาการต่อสู้หรือไม่ ? คำตอบก็คือ "มี" โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ โจ โรแกน ผู้บรรยายฝีปากกล้าแห่งศึก UFC และนักจัดรายการพอดแคสต์ชื่อดัง (ที่หากย้อนกลับไปช่วงต้นยุค 2000s บางคนอาจยังจำเขาได้กับบทบาทพิธีกรรายการ Fear Factor) ว่าสมัยที่เขาเป็นเด็ก เขาได้เรียนศาสตร์วิชาการต่อสู้หลายแขนง อาทิ เทควันโด้, คาราเต้, ยูโด รวมถึง ยิวยิตสู ที่เขาเคยฝึกเป็นระยะสั้น ๆ ก่อนเลิกไปเพราะหันเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจแบบเต็มตัว จนกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลของโลกคนหนึ่งในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปี 2022 อีลอน มัสก์ โพสต์ข้อความว่าเขาได้กลับมาเรียนวิชายิวยิตสูอีกครั้ง รวมถึงการออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น ยกน้ำหนัก วิ่ง ควบคุมอาหาร และลดการบริโภคน้ำตาล ทำให้น้ำหนักตัวของเขาลดลงไปถึง 13 กก. และมีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีหลักฐานใด ๆ ปรากฏให้เห็นว่า อีลอน มัสก์ เคยใช้วิชายิวยิตสู หรือเอาชนะคู่ต่อสู้คนไหนได้บ้าง ? โดยเมื่อปีที่แล้วเขาเคยออกมาท้า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ผู้มีดีกรีเป็นนักเทควันโด้สายดำขั้นสูงมาสู้กันแบบตัวต่อตัวเพราะไม่พอใจที่เขาสั่งกองทัพรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน แถมยังโพสต์รูปที่ตัวเองต่อสู้กับนักซูโม่เป็นการขิงอีกฝ่ายด้วย แต่ก็เป็นเพียงภาพนิ่งจึงไม่มีใครรู้ว่ามันจบลงแบบไหน และสุดท้ายก็ไม่มีการปะทะใด ๆ เกิดขึ้นจนกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจบไป
สองเจ้าพ่อโซเชียลผู้ไม่ลงรอยกัน
แม้จะประสบความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจทั้งคู่ แถมยังทำธุรกิจด้านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเหมือนกัน แต่คนที่ติดตามข่าวคราวในแวดวงธุรกิจและเทคโนโลยีก็รู้กันว่า อีลอน มัสก์ กับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ไม่ลงรอยกันสักเท่าไร พวกเขามีความเย็นชาใส่กันและมักจะหาจังหวะวิจารณ์ซึ่งกันและกันเสมอ
ย้อนไปเมื่อปี 2016 อีลอน มัสก์ ในบทบาทของซีอีโอ SpaceX ได้ทำการทดสอบการปล่อยจรวด Falcon 9 ที่ฟลอริดา แล้วเกิดการระเบิดจนทำให้ดาวเทียม AMOS-6 ของ Facebook พังไปด้วย และไปทำให้ซัคเคอร์เบิร์กโมโหไม่น้อย หลังจากนั้นทั้งสองก็โต้เถียงกันเรื่อง AI ปัญญาประดิษฐ์ โดยซัคเคอร์เบิร์กที่หลงใหลในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ไม่พอใจที่ อีลอน มัสก์ วิจารณ์ AI ว่าเป็นสิ่งที่จะเป็นภัยในโลกอนาคต ก่อนจะโดนเจ้าของ Tesla สวนว่า "นายมีความรู้จำกัดนะ"
ต่อมาในปี 2017 หลังจากเกิดข่าวฉาวเรื่องที่ Facebook นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไปขายให้กับบริษัท Cambridge Analytica เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ข้อมูลและทำแคมเปญหาเสียงให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 ทำให้ Facebook ถูกปรับเงินสถานหนัก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) อีลอน มัสก์ ก็อาศัยจังหวะนี้โจมตีฝั่งตรงข้ามด้วยการลบเพจทางการของ SpaceX และ Tesla จาก Facebook
อีลอน มัสก์ ยังเคยเปรียบเทียบ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส โดยตั้งนิคเนมให้ว่า "Zuck the Fourteenth" ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยว่าทั้งซัคเคอร์เบิร์กและพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีความโอหัง ลุ่มหลงในตนเอง และทำอะไรใหญ่โตเกินตัวจนทำให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ
ดังนั้นเมื่อเขารับรู้ว่า Meta ของซัคเคอร์เบิร์กกำลังจะสร้างโซเชียลมีเดียตัวใหม่ ในฐานะคู่แข่งทางธุรกิจ อีลอน มัสก์ จึงไม่อยู่เฉย จิ้มโทรศัพท์แซวอีกฝ่ายตามสไตล์ เป็นสิ่งที่ยื่นยันว่าทั้งคู่คงไม่มีวันจับมือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
ถ้าสู้กันใครจะชนะ ?
มาถึงคำถามสำคัญว่าหากจับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ใส่นวมขึ้นชกในมุมน้ำเงิน และ อีลอน มัสก์ ใส่นวมขึ้นเวทีมุมแดง บนเวทีลูกกรงเหล็กของ UFC ตามที่เจ้าของ Twitter ท้ามา ใครจะได้รับการชูมือขึ้นฟ้าฉลองชัย
เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ ความมุ่งมั่น และความสม่ำเสมอในการซ้อม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ดูมีภาษีดีกว่าชัดเจน เนื่องจากเราได้เห็นเขาโพสต์รูปออกกำลังกาย เล่นกีฬา วิ่งแข่ง และฝึกซ้อมยิวยิตสูมาตลอด ตามที่เขาโพสต์ให้เห็นทุกความเคลื่อนไหว แถมเขายังผ่านประสบการณ์สู้แบบตัวต่อตัวจนคว้าเหรียญทองมาแล้วด้วย
ส่วนฝั่งของ อีลอน มัสก์ แม้ว่าเขาจะอ้างว่าช่วงหลังเริ่มกลับมาฝึกการต่อสู้แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานปรากฏให้เห็นว่าไปสู้กับใครมาบ้างเหมือน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แถมมักออกตัวให้สัมภาษณ์บ่อยครั้งว่า "ผมไม่ชอบออกกำลังกาย" เห็นได้จากประโยคที่เขาบอกว่า "ผมแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย นอกจากอุ้มลูกและชูขึ้นสูง ๆ กลางอากาศน่ะ" รวมถึงสรีระทางกายที่ต่างจากซัคเกอร์เบิร์กพอสมควร ดังนั้นจึงไม่ง่ายหากอีลอนจะจับเจ้าพ่อ Meta เทคดาวน์ลงพื้นแล้วใส่ซับมิชชั่นทำให้ยอมแพ้
เว้นแต่ว่า อีลอน มัสก์ จะสละเวลาตารางงานอันยุ่งเหยิง (นักวิเคราะห์เผยว่า เขาทำงานปีละ 80-100 ชั่วโมง) มาฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ภายใต้การควบคุมดูแลของเทรนเนอร์มืออาชีพ หากทำเช่นนั้นได้เจ้าของ Twitter ที่มีแต่คนชังมากกว่าคนรักก็น่าจะมีแต้มต่อเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าไฟต์นี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? จะมีใครรับหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ อีลอน มัสก์ ได้สู้กันจริง ๆ ไหม ? หรือเป็นเพียงแค่การปั่นเอามันของซีอีโอแห่ง Tesla อีกครั้ง แต่ที่แน่ ๆ คือผู้ใช้ Facebook มากกว่า 2,850 ล้านบัญชีทั่วโลก และผู้ใช้ Twitter เกือบ 400 ล้านบัญชี คงอยากเห็นสองผู้บริหารแลกหมัด ต่อยกัน หรือทำให้อีกฝ่ายหลับกลางเวที ไม่ก็เสียเลือดสักหยดอย่างแน่นอน เพราะถือว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นสองซีอีโอของโซเชียลมีเดียที่สร้างความทุกข์ระทมให้กับผู้ใช้จำนวนมากในช่วงหลัง
ทั้งคนใช้ Facebook ที่เจอ "พี่มาร์ค" และทีมงานกดยอด Reach การเข้าถึงอย่างหนักหน่วงจนไม่เห็นโพสต์ของเพื่อนและเพจต่าง ๆ ที่กดติดตามอยู่ หน้า Feed จึงมีแต่โฆษณาและแอคหลุมชวนเล่นการพนัน ตลอดจนการบล็อกการแบนแอคเคาน์ที่เข้าขั้น "อีหยังวะ" คนควรโดนกลับไม่โดน คนไม่น่าโดนแต่โดน เป็นประจำ
ส่วนคนใช้ Twitter ก็หงุดหงิดไม่แพ้กันเพราะเจอ อีลอน มัสก์ สั่งปลดเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้ายืนยันตัวตนออกจากแอคเคาน์ แล้วออกนโยบาย "Twitter Blue" ใครที่อยากได้เครื่องหมายติ๊กถูกยืนยันตัวตนว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงก็ต้องจ่ายเงินมาเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษ ชนิดที่นักกีฬาระดับโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เลบรอน เจมส์ ก็ยังโดนเอาเครื่องหมายติ๊กถูกออกด้วยไป!
แหล่งอ้างอิง :
https://twitter.com/elonmusk/status/1671364992665264131
https://www.bbc.com/news/business-65981876?
https://bjj-world.com/elon-musk-training-bjj/
https://www.thestreet.com/technology/mark-zuckerberg-decides-to-face-elon-musk
https://edition.cnn.com/2023/05/09/business/mark-zuckerberg-jiu-jitsu-winner/index.html
https://www.businessinsider.com/elon-musk-vs-mark-zuckerberg-feud-history-2021-1