กลายเป็นข่าวใหญ่กระฉ่อนฟุตบอลลีกอาชีพญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย เมื่ออันเดรส อิเนียสต้า กองกลางระดับตำนานของโลกลูกหนังในรอบกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ตัดสินใจปิดฉากเส้นทางค้าแข้งกับวิสเซล โกเบ หลังอยู่กับทีมมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ 2018
การเข้ามาค้าแข้งยังดินแดนซามูไรของอิเนียสต้า นำมาซึ่งปัจจัยเชิงบวกในหลาย ๆ ด้านที่มีมากกว่าผลการแข่งขัน เพราะเขาคืออดีตดาวเตะผู้ยิ่งใหญ่ของบาร์เซโลน่า รวมถึงคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติสเปนมาแล้ว
Main Stand ชวนผู้อ่านทุกท่านย้อนกลับไปติดตามเรื่องราวของอันเดรส อิเนียสต้า จากจุดเริ่มต้นที่ต้องอำลาถิ่นคัมป์ นูอันเป็นที่รักมาสู่แผ่นดินเอเชียตะวันออก การลงวาดลวดลายต่อหน้าแฟน ๆ ทั้งในและนอกสนาม ไปจนถึงมูลค่าอันหลากหลายที่ทางเจลีกได้รับจากตำนานผู้ยิ่งใหญ่รายนี้
ซูเปอร์สตาร์แห่งคัมป์ นู
ถ้าให้เอ่ยถึงสุดยอดกองกลางชื่อก้องโลกในรอบทศวรรษที่ผ่านมา นามของอันเดรส อิเนียสต้า ย่อมถูกพูดถึงเป็นชื่อแรก ๆ อย่างยากจะปฏิเสธ เพราะนี่คือสุดยอดผู้เล่นของบาร์เซโลน่า ในยุค “โหดไร้เทียมทาน” ครั้งหนึ่งของสโมสร
จากจุดเริ่มต้นการเล่นฟุตซอลในสมัยเด็ก ไปจนถึงการก้าวออกจากบ้านเกิดมายังศูนย์ฝึกลา มาเซีย ตั้งแต่อายุได้ 12 ปี เรื่อยมาจนถึงโอกาสติดในนามทัพอาซูลกราน่าชุดใหญ่แบบเต็มตัว ดูเหมือนว่าแสงไฟจะสาดส่องมายังตัวของอิเนียสต้าเรื่อยมา
ตลอดช่วงเวลาภายใต้ยูนิฟอร์มทีมดังแห่งคัมป์ นู หรือตั้งแต่ฤดูกาล 2002/03 ซึ่งเป็นขวบปีเดบิวต์ ไปจนถึงฤดูกาล 2017/18 หรือซีซั่นสุดท้ายกับสโมสรที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมา อิเนียสต้า มีส่วนช่วยบาร์เซโลน่ากวาดความสำเร็จภายใต้โทรฟี่รวมกันถึง 32 ถ้วย อาทิ แชมป์ลา ลีก้า 9 สมัย แชมป์โกปา เดอ เรย์ 6 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย ไปจนถึงแชมป์สโมสรโลกอีก 3 สมัย เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังจารึกสถิติและผลงานเด่น ๆ ในระดับส่วนตัวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสถิติลงสนามมากสุดตลอดกาลของสโมสรในลำดับที่ 4 (674 นัด - 57 ประตู 138 แอสซิสต์) เป็นเจ้าของรางวัลผู้เล่นตำแหน่งกองกลางยอดเยี่ยมของลา ลีก้า 5 สมัย รวมทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่าอีก 1 สมัย ฯลฯ
นอกจากนี้ ความสำเร็จในระดับสโมสรของอันเดรส อิเนียสต้า ยังอยู่ไล่เลี่ยกันกับยุครุ่งเรืองครั้งหนึ่งของทีมชาติสเปนด้วย เมื่อเขาเป็นหัวใจสำคัญในแผงมิดฟิลด์กระทิงดุ ชุดแชมป์ฟุตบอลยูโร 2008 และ 2012 รวมถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2010
แต่เพราะ “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง คำกล่าวนี้ก็มาเกิดขึ้นกับตัวของอิเนียสต้าเมื่อซัมเมอร์ปี 2018 ในวัย 34 ปี เขาตัดสินใจอำลาต้นสังกัดที่ฟูมฟักมาตั้งแต่เป็นเยาวชน และตอบรับการค้าแข้งในดินแดนที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาถึง นั่นคือ “เจ1ลีก” กับสโมสรวิสเซล โกเบ
ดีลสะเทือนดินแดนอาทิตย์อุทัย
การมาเล่นในดินแดนอาทิตย์อุทัยของอิเนียสต้านั้นไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะวิสเซล โกเบ มี ฮิโรชิ มิคิทานิ เจ้าของบริษัท “ราคุเต็น (Rakuten)” ซึ่งเป็นอี-คอมเมิร์ช ยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นเจ้าของ โดยมิสเตอร์มิคิทานิ เข้าเทคโอเวอร์ทีมดังในบ้านเกิดของเขาอย่างเต็มตัว ตั้งแต่ปี 2014
ช่วงเวลาที่อดีตสตาร์หมายเลข 8 โยกจากบาร์ซ่ามาสวมเสื้อเบอร์เดิมนี้ที่วิสเซล โกเบ ใหม่ ๆ Rakuten ก็เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกให้กับบาร์ซ่าอยู่ (เป็นสปอนเซอร์คาดอกระหว่างปี 2017-2022) นั่นทำให้การเจรจาดึงจอมเก๋าชาวสแปนิชมาร่วมสร้างอีกโลกหนึ่งแห่งฟุตบอล เป็นไปในทิศทางที่ดี นำมาซึ่งสัญญา 3 ปี ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2018
เหตุผลอีกประการหนึ่งที่น่าจะมีส่วนตัดสินใจของอิเนียสต้าอีกเช่นกัน นั่นคือการเป็นแฟนคลับมังงะลูกหนังชื่อดังอย่าง “กัปตันซึบาสะ” ซึ่งกองกลางวัย 39 ปี ยอมรับว่าติดตามมังงะเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยวัยกระเตาะ
“มันเป็นอนิเมเรื่องที่ผมชอบที่สุดสมัยเด็ก ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ทุกวันก่อนไปโรงเรียน” อิเนียสต้า เคยพูดถึงมังงะกัปตันซีบาสะ หรือที่ภาษาสเปนใช้ชื่อว่า “โอลีเบร์ อี เบนจี (Oliver y Benji)”
การเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของวิสเซล โกเบ ของอันเดรส อิเนียสต้า เรียกได้ว่าสร้างอิมแพ็คเป็นวงกว้างตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ เพราะนี่คือการย้ายทีมหนแรกในชีวิตของมิดฟิลด์จอมสร้างสรรค์รายนี้ และที่สำคัญ เขามีดีกรีนักเตะระดับท็อปโลก
ว่ากันว่านักข่าวราว 300 คนจากทั่วโลกเข้าร่วมงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอิเนียสต้า ที่โตเกียวในเดือนพฤษภาคม และแมตช์แข่งขันของวิสเซล โกเบ ไม่ว่าจะทั้งการเล่นในบ้านหรือเป็นทีมเยือน ว่ากันว่าตั้งแต่ที่เจ้าตัวมาถึง แต่ละสนามถูกขายหมดเกลี้ยง
“เมื่ออิเนียสต้าลงสนาม สื่อต่าง ๆ แทบจะรายงานข่าวเขาแบบไม่มีหยุดพัก แม้แต่สื่อมวลชนที่ไม่ค่อยได้รายงานข่าวฟุตบอลยังรายงานข่าวเกี่ยวกับตัวเขาเลย คุณต้องลงทะเบียนสื่อในแต่ละเกมด้วยซ้ำไป เพราะบางสนามแทบไม่มีที่ว่างพอสำหรับนักข่าว” แดน ออโลวิซต์ ผู้สื่อข่าวสายกีฬาจาก Japan Times ย้ำถึงความบูมของอิเนียสต้า
ไม่เว้นแม้แต่ทีมคู่แข่งที่มีโอกาสได้ดวลกับวิสเซล โกเบ อย่างในเกมที่ทีมดังจากจังหวะเฮียวโงะ มีโปรแกรมไปเยือนเอฟซี โตเกียว สโมสรดังจากเมืองหลวงของประเทศ แฟนบอลกว่า 50,000 คนมีเป้าหมายเดียวกันคือทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้ตั๋วในเกมนี้ ถึงขั้นที่ว่าสโมสรไปจ้าง “คนหน้าเหมือน” อิเนียสต้า เพื่อสร้างสีสัน เพิ่มอรรถรสจากนอกสนาม
หรือแม้แต่ตัวนักเตะเอง อย่างเคนโงะ นากามูระ อดีตนักเตะคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ยังเคยทวีตข้อความหลังเกมที่ต้นสังกัดเอาชนะวิสเซล โกเบ 5-3 เขาถามลูกชายถึงฟอร์มของตัวเอง ทว่าลูกชายกลับเลือกที่จะดูลีลาการเล่นในสนามของอิเนียสต้ามากกว่าพ่อตัวเอง เช่นเดียวตัวอดีตสตาร์เบอร์ 14 ของฟรอนตาเล่ ที่ก็ยอมรับว่าติดตามฟอร์มของคู่แข่งคนนี้ในสนามเช่นกัน
จริงอยู่ที่อันเดรส อิเนียสต้า มีส่วนช่วยวิสเซล โกเบ กลับมาคว้าแชมป์ได้ในรอบกว่า 34 ปี กับแชมป์ชิงถ้วยจักรพรรดิ หรือเอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ ปี 2019 รวมถึงแชมป์ฟูจิ ซีร็อกซ์ ซูเปอร์ คัพ 2020 ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชื่อดัง อาทิ ดาบิด บีย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น และเซร์จี้ ซามเป ซึ่งเคยลงเล่นที่บาร์ซ่ามาก่อน, ลูคัส โพดอลสกี้ ไปจนถึงดาวดังทีมชาติญี่ปุ่นทั้งโฮตารุ ยามางุจิ และโกโตคุ ซากาอิ
อย่างไรเสีย หากแยกย่อยเป็นความสำเร็จ “ในสนาม” ถ้าจะบอกว่าอิเนียสต้าเข้ามาช่วยวิสเซล โกเบ ประสบความสำเร็จแบบล้นหลามก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะตลอดช่วงเวลาเกือบ 5 ปี ที่ทีมฉายา “อูชิ (丑 - วัว)” มีอิเนียสต้าอยู่ในสัญญา สโมสรแชมป์แค่สองรายการข้างต้นเท่านั้น
นอกจากนี้ วิสเซล โกเบ ก็ไม่ได้เป็นทีมที่จะมาเบียดลุ้นแชมป์ลีกในทุก ๆ ขวบปี แถมยังเคยจบด้วยอันดับที่ 13 ในฤดูกาล 2021 ด้วยซ้ำ
นั่นก็ทำให้วิสเซล โกเบโดนตีตราจากคนตามฟุตบอลญี่ปุ่นน้อยใหญ่ด้วยข้อคอมเมนต์น้อยใหญ่ และหนึ่งในนั้นก็คือ การพึ่งพานักเตะซูเปอร์สตาร์มากเกินไป
แต่ถึงกระนั้น หากเราโฟกัสความสำเร็จที่อันเดรส อิเนียสต้า จารึกไว้กับวิสเซล โกเบ ผ่านประเด็น “นอกสนาม” ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ทีมโกเบ แต่ยังเกี่ยวโยงไปทั่วทั้งลีกและวงการลูกหนังประเทศ
มูลค่าจากนอกสนาม
ครั้งหนึ่ง เจลีกเคยรายงานตัวเลขกำไรจากผลประกอบการรายปีของแต่ละสโมสร ผลปรากฏว่าในปี 2019 วิสเซล โกเบ เคยทำสถิติฟันกำไรสูงถึง 1.144 หมื่นล้านเยน (3,390 ล้านบาท) จากผลประกอบการในหนึ่ง ปี กลายเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ลีกลูกหนังแดนปลาดิบ ที่มีผลประกอบการรายปีเกิน 1 หมื่นล้านเยน
แน่นอนว่าเหตุผลข้อหนึ่งที่ส่งให้ทีมจากภูมิภาคคันไซจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเจลีกหนนี้ได้ เพราะพวกเขามี อันเดรส อิเนียสต้า เป็นนักเตะในสังกัด
โดยตลอดช่วงเวลานับแต่กลางปี 2018 มาจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายของเส้นทางลูกหนังที่โกเบ (2023) อิเนียสต้า ยังคงสร้างอิมแพ็คให้เห็นเป็นวงกว้างแบบไม่มีเสื่อมคลาย ไล่มาตั้งแต่การขึ้นราคาตั๋วปีของสโมสร ในฤดูกาล 2019 ที่แม้จะราคาสูงขึ้น แต่ก็มีแฟนบอลให้ความสนใจอยู่ดี
ครั้งหนึ่ง ในเกมที่โกเบ ดวลกับกัมบะ โอซาก้า สำนักข่าว NHK เคยตั้งกล้องตัวหนึ่งฉายการวาดลวดลายในสนามของอิเนียสต้าแบบตลอด 90 นาทีในสนาม ทำคอนเทนต์พิเศษเจาะลึกเฉพาะตำนานบาร์เซโลน่า
ในเดือนพฤศจิกายน 2022 บริษัทญี่ปุ่นเจ้าหนึ่งเคยจัดโปรเจ็คต์พิเศษ “Family Club” หรือการรวมกลุ่มแฟนบอลคลับอิเนียสต้า มีการเสียค่าสมาชิกราว 22,000 เยน หรือประมาณ 5,600 บาท เพื่อแลกกับความเอ็กซ์คลูซีฟต่าง ๆ เช่นได้ตั๋วเข้าไปชมเกมในบ้านของวิสเซล โกเบ ได้ลายเซ็นของอิเนียสต้าผ่านโปรดัคต่าง ๆ เป็นต้น
ขณะที่ ราคุเต็น ก็เคยจัดทำสารคดีพิเศษชื่อ “Iniesta TV” ว่าด้วยการถ่ายทำชีวิตนอกสนามของซูเปอร์สตาร์แดนกระทิง ในประเทศญี่ปุ่น
ด้านเจลีกเอง ก็ได้รับอานิสงค์ไปเต็ม ๆ การที่อิเนียสต้า อยู่โลดแล่นในเจ1ลีก ทำให้พวกเขาสร้างคอนเทนต์น้อยใหญ่มาสนับสนุนโดยตลอด อย่างในช่วงแรกที่เจ้าตัวย้ายมาเล่นที่โกเบ มีการเปิดเผยว่าผู้ติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจของเจลีก ภาคภาษาอังกฤษ มียอดสูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่หลัก 50,000 ขึ้นไปเป็น 280,000 คน ขณะที่ยอดปัจจุบัน (ข้อมูลช่วงเดือนพฤษภาคม 2023) แฟนเพจภาคภาษาอังกฤษของเจลีก มียอดการติดตามสูงแตะหลักล้านเข้าไปแล้ว
และอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกเรียกว่าเป็น “มูลค่า” ที่มาจากตัวของอิเนียสต้าเหมือนกัน แต่สิ่งนี้กลับมีความหมายมากกว่ามูลค่าที่เป็นตัวเงิน นั่นคือมูลค่าที่ได้รับผ่าน “แรงบันดาลใจ” โดยมีเซนเซ อันเดรส อิเนียสต้า เป็นผู้ถ่ายทอด
เซนเซอิเนียสต้า
เคียวโกะ ฟุรุฮาชิ แจ้งเกิดเต็มตัวกับวิสเซล โกเบ และได้นำพาให้กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นผู้นี้ย้ายไปเติบใหญ่บนแผ่นดินยุโรป กับกลาสโกว์ เซลติก
ภายใต้การลงสนามให้ทัพม้าลายเขียวขาวตลอดสองฤดูกาลของดาวยิงวัย 28 ปี เขามีส่วนช่วยทีมเป็นดับเบิ้ลแชมป์ลีกและแชมป์บอลถ้วยสองปีติดต่อกัน แถมในซีซั่นหลังสุด (2022/23) ฟุรุฮาชิ ยังทำไปแล้ว 33 ประตูจาก 49 เกมรวมทุกรายการ เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกฟุตบอลสกอตแลนด์ด้วย
ฟุรุฮาชิ ยืนยันมาโดยตลอดว่าส่วนสำคัญครั้งหนึ่งที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ เพราะได้รับคำแนะนำจากอันเดรส อิเนียสต้า สมัยร่วมงานกันที่ถิ่นโนเอเวียร์ สเตเดี้ยม โกเบ
“เขา (อิเนียสต้า) จะชอบถามผมว่าเป็นอย่างไรบ้างเป็นบางครั้ง อะไรทำนองนี้ ผมบอกได้เลยว่าเขาคือนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก การได้ทำงานร่วมกับเขา มันทำให้ผมมีความมั่นใจกับการออกเดินทางค้าแข้งต่างแดนที่นี่ (สกอตแลนด์)” ดาวซัลโวลีกสูงสุดแดนวิสกี้ 2022/23 ให้สัมภาษณ์
ไม่เว้นแม้แต่ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย ที่เคยได้ร่วมงานกับอิเนียสต้า ช่วงสั้น ๆ ในสมัยที่ “อุ้ม” อยู่ค้าแข้งกับวิสเซล โกเบ ในปี 2018 ก็เคยชื่นชมในความเป็นมืออาชีพของกองกลางชาวสเปน และเคยนำสไตล์การเล่นของอิเนียสต้า มาปรับใช้กับตัวเองด้วย
“เขาเป็นนักเตะที่ดีมาก ๆ ไม่เคยด่าเพื่อนๆ แต่ให้คำแนะนำกับทุกคน ทั้งในสนามซ้อมและสนามแข่ง เพราะเขาผ่านเวทีระดับโลกมาหมดแล้ว” The Sporting News Thailand เผยคำพูดของธีราทร ถึงอิเนียสต้า
“นาที 9.20 วิ แว็บขึ้นมาในหัว ดูเพื่อให้จำ จำแล้วนำมาปรับใช้ ??” นักเตะคนปัจจุบันของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยแชร์คลิปการเล่นของอิเนียสต้า ในสมัยที่เป็นนักเตะของโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส
แม้อิเนียสต้าจะยังมีสัญญากับวิสเซล โกเบอยู่ถึงต้นปี 2024 แต่จากคำประกาศอำลาสโมสรของเจ้าตัวเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2023 นับเป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าตัวจะอยู่ค้าแข้งกับทีมแค่ช่วงเลกแรกของเจ1ลีก 2023 เท่านั้น
แม้จะอยู่ไม่ครบสัญญาฉบับปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไร กับมรดกและอิทธิพลที่เขาได้ทำไว้นับแต่ที่ก้าวลงแผ่นดินประเทศญี่ปุ่นในฐานะนักเตะเจลีก ไม่ว่าจะผลงานในสนาม จากสถิติลงเล่นรวมทุกรายการ 133 นัด ทำ 26 ประตู กับอีก 25 แอสซิสต์ พร้อมสองโทรฟี่
ไปจนถึงมูลค่านานัปการจากนอกสนาม ที่อิเนียสต้ายืนยันมาตลอดว่าเป็นสิ่งที่เขาเองก็ตั้งใจทำเพื่อเพื่อนร่วมทีมและแฟน ๆ ฟุตบอลญี่ปุ่น ดังบางส่วนจากบทสัมภาษณ์ประกาศอำลา
“5 ปีก่อน ผมได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตว่าจะออกจากบาร์เซโลน่า และเริ่มออกผจญภัยครั้งใหม่ในที่ ๆ ห่างไกลจากบ้าน ผมกล่าวคำอำลา เดินทางออกจากบ้านเกิด และเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ในต่างแดน”
“พอมองกลับมาตอนนี้ ผมมีความสุขและภูมิใจมากกับการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนั้น การได้มาเล่นให้กับโกเบ เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ดีที่สุดของผม และมันจะยังคงเป็นแบบนั้นต่อไป”
“ผมรู้สึกเป็นที่ต้อนรับตั้งแต่วันแรกที่นี่ มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลังผ่านมานานหลายปี ผมทุ่มเทสุดความสามารถทั้งในและนอกสนาม ผมภูมิใจกับเรื่องนั้น”
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่เขาจะได้รับการยกย่องอย่างล้นหลามว่าเป็น “ตำนาน” คนหนึ่งของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อันเดรส อิเนียสต้า กล่าวอำลา วิสเซล โกเบ อย่างเป็นทางการ หลังอยู่ค้าแข้งมานาน 5 ปี
แหล่งอ้างอิง
https://bleacherreport.com/articles/2803918-from-kobe-beef-to-fighting-the-drop-andres-iniesta-embraces-new-life-in-japan
https://theathletic.com/4077024/2023/01/11/andres-iniesta-interview-barcelona/
https://en.wikipedia.org/wiki/Vissel_Kobe
https://www.sportingnews.com/th/football/news/%E0%B8%AD%
https://thinkcurve.co/klumaefnkhlabainyiipunkh-ng-anedrs-ieniiystaa-prakaaspidtaw-phr-mkhuuenenginsmaachik/
https://www.matichon.co.th/sport/news_2812310
http://jsoccer.com/new/news/85-alans-yellow-card/463-iniesta-impact