Feature

เกย์ลอร์ นาวาส : นายด่านฝีมือดี แต่เป็น "ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง" ในทีมใหญ่ | Main Stand

ในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา คอลูกหนังอังกฤษได้เห็นเหล่าสโมสรน้อยใหญ่ในพรีเมียร์ลีกเดินหน้าคว้านักเตะใหม่มาร่วมทีมแบบไม่น้อยหน้ากัน ด้วยเป้าหมายที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ไปจนถึงแผนงานในอนาคต

 


น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นหนึ่งในทีมที่เสริมตัวผู้เล่นจนสร้างความฮือฮาไม่แพ้ทีมใหญ่ โดยไฮไลต์ของทีม "เจ้าป่า" หนีไม่พ้นเรื่อง "จำนวน" ที่คว้าผู้เล่นใหม่ ทั้งในรูปแบบการซื้อขาดไปจนถึงยืมตัว ผนวกจากตลาดรอบซัมเมอร์ 2022 ด้วย รวมกันถึง 29 คน 

โดยเฉพาะกับการเสริมทัพรายสุดท้ายก่อนตลาดวาย ปรากฏเป็นชื่อของ "เกย์ลอร์ นาวาส" 

ผู้รักษาประตูทีมชาติคอสตาริกา ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนายด่านฝีมือระดับท็อปของโลก กวาดความสำเร็จมาทั้งในระดับสโมสรและผลงานส่วนตัวอยู่มากมาย 

ทว่าในอีกมุมหนึ่ง เขามักจะโชคร้ายถูกบดบังรัศมีความเก่งจากเพื่อนร่วมทีมตำแหน่งเดียวกัน ในช่วงสมัยที่ลงเล่นให้สโมสรระดับท็อป จนกลายเป็นภาพจำที่ติดตัวเขาอยู่เรื่อยมา

Main Stand จะพาผู้อ่านทุกท่านมาติดตามเส้นทางชีวิตของ เกย์ลอร์ นาวาส ในฐานะนายด่านฝีมือดี แต่กลับเป็นผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังในทีมใหญ่ ไปจนถึงการกลับมาเริ่มต้นชีวิตลูกหนังครั้งใหม่ในเวทีพรีเมียร์ลีก

 

สปอตไลต์ส่องในเวิลด์คัพ 2014

ก่อนจะกล่าวถึงช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ของ เกย์ลอร์ นาวาส ที่เฉิดฉายในช่วงฟุตบอลโลก 2014 อย่างที่แฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยรับรู้ อันที่จริงมือกาวจากคอสตาริการายนี้ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นยอดนักเตะตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว โดยเฉพาะกับช่วงที่ยังเป็นนักเตะ เลบานเต้ 

เนื่องด้วยทัพ "ค้างคาวน้อย" จากเมืองบาเลนเซีย ไปเห็นแววของ เกย์ลอร์ นาวาส จากการลงเล่นให้ทีมอัลบาเซเต้ ในระดับเซกุนด้าของสเปน และเมื่ออัลบาเซเต้กระเด็นตกชั้นจากดิวิชั่นสองสู่ดิวิชั่นสาม เลบานเต้จึงจัดการคว้ามือกาวจากโซนคอนคาเคฟรายนี้มาร่วมทัพในฤดูกาล 2011-12 

ช่วงแรกเป็นไปในรูปแบบของการยืมตัวก่อน เสมือนเช็กฟอร์มกันก่อนว่านาวาสพร้อมแค่ไหนกับลา ลีกา หรือลีกสูงสุดของประเทศ ถ้าเกิด "เล่นไม่ได้" ฤดูกาลหน้าก็ปล่อยคืนต้นสังกัดเดิม ทีมก็จะไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าเกิด "เล่นได้" ขึ้นมาก็นับเป็นโชคดีของทีม 

ท้ายสุดแล้ว เรื่องราวมันเป็นอย่างหลังมากกว่า 

กับชีวิตที่เลบานเต้ในช่วงสองฤดูกาลแรก (2011-12 และ 2012-13) นาวาสเริ่มจากการเป็นตัวสำรองของ กุสตาโว มูนัว นายทวารรุ่นพี่ แต่หลังจากที่จอมเก๋าอดีตทีมชาติอุรุกวัย อำลาทีมในช่วงซัมเมอร์ 2013 การอยู่ฝึกซ้อมร่วมกับทีมและการได้สัมผัสประสบการณ์ลา ลีกา ตลอดสองปีเต็ม นำพาให้นาวาสกลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมทันที

เกย์ลอร์ นาวาส ตอบแทนความไว้วางใจได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาจากผลงานการเฝ้าเสา 37 นัดในเกมลีกสูงสุดแดนกระทิง เขามีส่วนช่วยให้ทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 พาทีมเก็บ 17 คลีนชีต พร้อมทำสถิติส่วนตัวผ่านสถิติการเซฟตลอดฤดูกาลเกมลีกที่ 267 ครั้ง (มากที่สุด) 

นำมาซึ่งการคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมเดือนมีนาคม 2014 ไปจนถึงรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลมาครอง

และในระหว่างที่ เกย์ลอร์ นาวาส ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นแถวหน้าของศึกลา ลีกา สเปน ได้อย่างไม่เคอะเขิน เขายังเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ใหญ่ของทีมชาติคอสตาริกา กับภารกิจไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลอีกด้วย

นาวาสถูกจัดเป็นกลุ่มผู้เล่นสายเลือดใหม่ของแวดวงลูกหนังคอสตาริกาในเวลานั้นร่วมกับดาวดังอย่าง ไบรอัน รุยซ์ สตาร์จากพีเอสวี รวมถึง โจเอล แคมป์เบลล์ ดาวโรจน์ที่อาร์เซนอลปล่อยให้โอลิมเปียกอสยืมตัว

ก่อนที่พวกเขาจะมีส่วนพาชาติตีตั๋วสู่เวิลด์คัพแดนกาแฟได้ตามเป้า และเป็นครั้งที่ 4 จาก 6 ครั้ง ที่ทีมลิ่วมารอบสุดท้ายได้สำเร็จ

ถึงแม้ว่าคอสตาริกาจะถูกจับสลากให้มาอยู่ในกลุ่ม D ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ประกอบไปด้วย อังกฤษ อิตาลี และ อุรุกวัย ซึ่งถ้ามองในทาง "ทฤษฎี" เมื่อเปรียบเทียบจากชื่อชั้นและขุมกำลัง ตัวแทนจากคอนคาเคฟทีมนี้ไม่น่ารอดน้ำมือสามชาติชั้นนำได้ บ้างก็โดนวิจารณ์ว่าอาจจะเป็นแค่ไม้ประดับของกลุ่มเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ในทาง "ปฏิบัติ" มันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นาวาสพร้อมเพื่อนร่วมทัพฉายา "กล้วยหอม" เปิดหัวฟุตบอลโลก 2014 ด้วยชัยชนะเหนืออุรุกวัย 3-1 ตามด้วยชัยชนะเหนืออิตาลี 1-0 การันตีลิ่วสู่รอบน็อกเอาต์ทันที ก่อนจะเสมอกับอังกฤษ ที่ก่อนแข่งแพ้รวดตกรอบไปแล้ว 0-0 

"ผมมีความทรงจำมากมายจากเกมการแข่งขัน ทั้งการเซฟ, การเคลื่อนที่, เพื่อนร่วมทีม และความสุขที่สามารถชนะเกมเหล่านั้นได้ ฟุตบอลโลกครั้งนั้นเราอยู่ในกลุ่มที่แข็งมาก แต่เราก็ไม่หยุดที่จะเชื่อมั่นในตัวเอง" นาวาส ย้อนความสมัยแข่งฟุตบอลโลก 2014

เรื่องราวในฟุตบอลโลกของคอสตาริกาและ เกย์ลอร์ นาวาส ยังไม่จบลงแค่นั้น ในการดวล กรีซ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ หลังเสมอใน 120 นาที 1-1 และผลการแข่งขันเป็นทีมจากคอนคาเคฟ ที่แม่นยำกว่า เอาชนะไป 5-3 

โดยคนที่เป็นฮีโร่นาทีสุดท้ายก็คือจอมหนึบจากเลบานเต้ ที่โชว์เซฟลูกยิงของ ธีโอฟานิส เกคัส กองหน้าทัพกรีก กลายเป็นว่าคอสตาริกาผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรก และต้องไปดวลกับ เนเธอร์แลนด์

แม้จะหยุดอยู่แค่รอบดังกล่าวจากการพ่ายดวลลูกโทษอัศวินสีส้ม 4-3 ทว่าการชนกับอีกหนึ่งทีมระดับท็อปของยุโรปที่ต้องยืดเยื้อไปถึงการดวลลูกโทษ เกิดขึ้นจากผลการแข่งขัน 120 นาที ซึ่งจบลงที่สกอร์ 0-0 โดยความเหนียวหนึบของคอสตาริกาครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้นาวาสที่ทำไปถึง 8 เซฟด้วยกัน

ด้วยฟอร์มสุดหนึบที่ทำให้เห็นมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ไปจนถึงการเซฟอุตลุตในรอบน็อกเอาต์ จากสถิติโดยสรุปที่ได้รับการเปิดเผยว่า เกย์ลอร์ นาวาส มีสถิติเซฟจังหวะจบสกอร์ตรงกรอบของบรรดาทีมคู่แข่งได้ถึง 21 จากทั้งหมด 23 ครั้ง ในการลงสนาม 5 นัด

และยังไม่นับผลงานในระดับสโมสรในช่วงก่อนหน้ากับเลบานเต้ เท่านี้ก็ชี้ชัดแล้วว่าโอกาสครั้งใหญ่บนถนนลูกหนังของดาวเตะวัยกำลังพีก ณ เวลานั้นกำลังจะมาถึง

 

โอกาสมา คว้าไว้หนึบ

กลายเป็นเรื่องปกติในวงการฟุตบอล เมื่อนักเตะคนใดคนหนึ่งทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฟุตบอลโลก ก็ย่อม "เนื้อหอม" และถูกหลายสโมสรรุมจีบจนได้ย้ายทีมในที่สุด รวมถึงกรณีของ เกย์ลอร์ นาวาส 

นายทวารเจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตร มาได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตหลังจบทัวร์นาเมนต์ เมื่อ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงินราว 10 ล้านยูโร คว้าตัวเขามาร่วมทีมในฤดูกาล 2014-15 พร้อมมอบสัญญาระยะยาว 6 ปีด้วยกัน

"ฟุตบอลโลกครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตผมเลยครับ ในแง่ระดับการเล่นฟุตบอล หลังจากฟุตบอลโลกผมสามารถเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด ได้" เกย์ลอร์ นาวาส เผยต่อ The Athletic

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับขวบปีแรกขอ งเกย์ลอร์ นาวาส ภายในอาภรณ์ของราชันชุดขาว กับการตกเป็นผู้รักษาประตูมือสองของทีม เพราะในเวลานั้น เรอัล มาดริด ยังมี อิเกร์ กาซิยาส นายด่านระดับตำนานค้าแข้งอยู่

ทว่าหลังจากที่กาซิยาสปิดฉากเส้นทางเกือบสองทศวรรษกับพลพรรค "โลส บลังโกส" ในซัมเมอร์ 2015 การหาตัวแทนตำนานนักเตะสโมสรรายนี้โดย "สเป็ก" ตามนิยามการเป็นยอดทีมแห่งเมืองหลวงของสเปน หนีไม่พ้นต้องเป็นผู้รักษาประตูสัญชาติสแปนิช

นั่นทำให้ช่วงตลาดซื้อขายในตอนนั้น เรอัล มาดริด ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมมีกระแสด้วยว่า เกย์ลอร์ นาวาส เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอเจรจา 

แต่ถึงอย่างไรดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น กลายเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่เข้ามาถึง เกย์ลอร์ นาวาส จนได้

ตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 ไปจนถึงฤดูกาล 2017-18 นับเป็นสามฤดูกาลทองของมือกาวรายนี้อย่างแท้จริง และเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งชี้ให้เห็นว่าเขาคือ "ระดับโลก"

แชมป์ลา ลีกา 1 สมัย ไปจนถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยซ้อน และยังไม่นับเกียรติยศส่วนตัว ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ผงาดคล้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2017-18 ล้วนแต่เป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งที่ผู้รักษาประตูรายนี้จารึกไว้ในซานติอาโก เบอร์นาเบว

คำว่า "โอกาส" และ "ความสำเร็จ" ของ เกย์ลอร์ นาวาส มาบรรจบกันอีกครั้งในช่วงสองฤดูกาลแรกที่เขาย้ายมาร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อช่วงกลางปี 2019 

คราวนี้เขาไม่จำเป็นต้องรอโอกาสใด ๆ นาวาสโยกเข้ามาเป็นนายด่านมือหนึ่งของทีมได้ทันที และเพียงฤดูกาลแรกของเปแอสเช เขาก็มีส่วนช่วยสโมสรคว้าแชมป์ลีกเอิง รวมถึงคูป เดอ ฟรองซ์ 

เช่นเดียวกับฤดูกาลต่อมา แม้ทีมดังจากมหานครปารีสจะมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือจาก โธมัส ทูเคิ่ล มาเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แต่นาวาสก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกของทีมเช่นเคย ทั้งยังช่วยสโมสรผงาดแชมป์บอลถ้วยอย่างคูป เดอ ฟรองซ์ ได้อีกครั้ง

ต่อให้จะผลงานดี มาตรฐานการเล่นไม่เคยดร็อปแบบน่าใจหาย แต่ดังที่กล่าวไปในช่วงต้นเรื่อง เกย์ลอร์ นาวาส มักจะเผชิญเรื่องน่าผิดหวังกับโอกาสในการลงเล่น กับการถูกผลักให้เป็นตัวเลือกสำรอง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้บาดเจ็บหนักหรือฟอร์มตกอย่างน่าใจหายแต่อย่างใด 

โดยเฉพาะกับช่วงเวลาที่เขาเป็นนักเตะของสองทีมระดับท็อปอย่าง เรอัล มาดริด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 

 

ดีเท่าไร ก็ยังไม่พอ

สมัยอยู่เฝ้าในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาเบว จุดพลิกผันที่ทำให้นาวาสคิดทบทวนอนาคตค้าแข้งของตัวเองคือการย้ายเข้ามาของ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยียม ในตลาดนักเตะฤดูร้อนปี 2018 โดย เรอัล มาดริด ตัดสินใจดึงหนึ่งในนายทวารระดับท็อปของโลกรายนี้มาร่วมทีมด้วยสัญญายาวถึง 6 ปี

นี่ถือเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจของนาวาสอีกครั้งต่อจากช่วง 3 ปีก่อน ที่เขาเคยตกเป็นข่าวเป็นหนึ่งในข้อเสนอที่ราชันชุดขาวเตรียมจะใช้ยื่นเจรจาเพื่อคว้า ดาบิด เด เคอา

แม้ในฤดูกาล 2018-19 จะมีช่วงที่ ซีเนดีน ซีดาน กลับมาคุมทัพโลส บลังโกส เป็นคำรบสอง หลัง ฆูเลน โลเปเตกี ถูกปลด และเฮดโค้ชชาวฝรั่งเศสรายนี้ก็เลือกส่ง เกย์ลอร์ นาวาส หนึ่งในแข้งคู่บุญที่เคยคว้าแชมป์สโมสรยุโรป 3 สมัยร่วมกันมาลงสนามติด ๆ กันช่วงหนึ่ง 

อย่างไรก็ดี ท้ายสุดก็ยังวนอีหรอบเดิม คนที่ เรอัล มาดริด วางใจให้เป็นผู้รักษาประตูตัวเลือกแรกก็คือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ หาใช่ชื่อของ เกย์ลอร์ นาวาส แต่อย่างใด และนั่นก็เป็นเหตุให้เขาตัดสินใจปิดฉากเส้นทางฟุตบอลกับทีมราชันชุดขาวไว้แต่เพียงเท่านี้

ชีวิตฟุตบอลกับทีมระดับท็อปของ เกย์ลอร์ นาวาส เผชิญช่วงเวลา "หนีเสือปะจระเข้" อีกครั้ง เมื่อช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2021-22 เปแอสเชเติมผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาท้าชิงตำแหน่งมือหนึ่งกับนาวาสอีกครั้ง นั่นคือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

ถึงแม้ชื่อชั้นจะอยู่ในระดับท็อปเหมือนกัน แต่จุดที่ดอนนารุมม่าพร้อมท้าชนมือหนึ่งคือช่วงอายุใช้งานที่น้อยกว่านาวาสถึง 10 ปี เพิ่งพกดีกรีแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ร่วมกับทีมชาติอิตาลีมาหมาด ๆ แถมโค้ชผู้รักษาประตูของสโมสรอย่าง จานลูก้า สปิเนลลี่ ก็ยังเคยร่วมงานกับดอนนารุมม่าในช่วงที่เขารับบทบาทควบเป็นโค้ชทีมชาติอิตาลีไปด้วย 

มันเลยทำให้ฉุกคิดได้ว่า หากจะวางแผนงานระยะยาวของสโมสร ถ้ายกความสดใหม่เตรียมต่อยอดสู่อนาคต ชื่อของจอมหนึบรุ่นน้องเลือดอิตาเลียนย่อมมาก่อน

ฤดูกาลแรกที่ทั้งนาวาสและดอนนารุมม่าได้ร่วมงานกัน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ให้ทั้งสองลงเล่นสลับกันไป โดยยังไม่มีใครการันตีตัวจริงถาวร 

กระทั่งฤดูกาล 2022-23 การเข้ามาของ คริสตอฟ กัลติเยร์ กุนซือใหม่ กลับตอกย้ำเรื่องโอกาสลงเล่นของ เกย์ลอร์ นาวาส อีกครั้ง และคนที่เฮดโค้ชเฟรนช์แมนผู้นี้เลือกเป็นนายประตูมือหนึ่งคนใหม่คือ ดอนนารุมม่า

บรรดานักวิจารณ์ รวมถึงสื่อหลายสำนักออกมาพูดถึงเรื่องราวที่ เกย์ลอร์ นาวาส โดนบดบังเส้นทางค้าแข้งอาชีพอยู่ไม่น้อย และจากบทวิเคราะห์ ตลอดจนทรรศนะ มักชี้ไปยังเรื่องนอกสนาม อย่างเรื่องภาพลักษณ์ที่ขายได้ไม่ดีเท่าคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกัน 

เกย์ลอร์ นาวาส ยอมรับถึงเหตุการณ์ที่เขาเจอกับตัวอยู่เรื่อยมา ด้วยมายด์เซ็ตในการทำงานที่ยังไม่ถึงวันหมดไฟ ต่อให้ต้องตกเป็นตัวสำรองก็พร้อมรักษาระดับของตัวเองเพื่อรอให้โอกาสเข้ามาหาอีกครั้ง

"เป็นเรื่องยากเมื่อคุณมาจากประเทศเล็ก ๆ (กับโอกาสลงเล่นตัวจริงต่อเนื่องในทีมใหญ่) โดยปกติแล้วผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในระดับประวัติศาสตร์มักจะมาจากประเทศที่ใหญ่กว่า บ่อยครั้งที่แฟนบอลไม่เชื่อในตัวคุณ แต่ผมแสดงให้เห็นในสนามมาหลายครั้งแล้ว การได้รับโอกาสนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณจัดการได้คุณก็จะได้รับความเคารพ" นาวาส เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นที่มักไม่ได้โอกาสกับทีมใหญ่

"ไม่ว่าผู้คนจะมองว่าเกย์ลอร์เป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกหรือไม่ ผมไม่เคยเปลี่ยนความคิดที่ผมคิดมาตั้งแต่ต้น ผมต้องการดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา ฝึกซ้อมให้ดี พยายามอย่างเต็มที่ และต้องการชัยชนะอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ - ผมไม่เคยเปลี่ยนความคิดหรือวิธีการทำงานของตัวเอง"

 

โอกาสครั้งใหม่ ในวัย 36

อันที่จริง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องการเก็บ เกย์ลอร์ นาวาส อยู่กับทีมต่อไป แม้ว่าฤดูกาล 2022-23 เขาจะได้ลงเล่นให้ทีมในรายการบอลถ้วยไปแค่สองนัดเท่านั้น 

เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ถูกนำมาพูดถึงคือการมีอยู่ของนาวาสจะผลักดัน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยรักษามาตรฐานระดับสูงในการฝึกซ้อมทีม 

เพราะความเชื่อมั่นของตัวนายด่านวัย 36 ปีที่ยังคงอยากเล่นฟุตบอลในระดับท็อปอยู่ แถมตัวเขาก็ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทั้ง บาเยิร์น มิวนิค ที่อยากดึงมาทดแทน มานูเอล นอยเออร์ ซึ่งบาดเจ็บขาหักหลังจากการเล่นสกี, เฟเนร์บาห์เช่ ที่นาวาสก็ให้ความสนใจเช่นกัน เพราะการันตีได้ลงเล่นแน่ ๆ รวมถึงสโมสรจากพรีเมียร์ลีกอย่าง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ รวมถึง บอร์นมัธ ก็แสดงความสนใจด้วย

ก่อนที่การเจรจาย้ายทีมจะมาเกิดขึ้นในช่วงวันสุดท้ายของตลาดเดือนมกราคม แล้วไปจบที่การเป็นแข้งใหม่ของฟอเรสต์ ภายใต้สัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล 

เกย์ลอร์ นาวาส กลายเป็นสมาชิกใหม่คนที่ 6 ที่ฟอเรสต์ดึงมาร่วมทัพในต้นปี 2023 เป็นสมาชิกใหม่รายที่ 29 ของสโมสร ในฤดูกาล 2022-23 แถมยังเป็นการเข้ามาแบบ "ถูกที่ถูกเวลา" อย่างแท้จริง เพราะตำแหน่งมือหนึ่งว่างให้นาวาสได้ลงเล่นทันที เนื่องด้วย ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารมือหนึ่งที่ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดบาดเจ็บบริเวณต้นขา จำเป็นต้องรักษาอาการและพลาดช่วยทีมไปพักใหญ่

ถ้าจะกล่าวว่าทั้งสองฝ่าย "หากันจนเจอ" ก็คงไม่แปลก นาวาสได้การันตีโอกาสลงเล่น แถมยังได้เล่นในลีกระดับต้น ๆ ของโลกอย่างพรีเมียร์ลีก 

ขณะที่ทีมฉายา "เจ้าป่า" ที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดในรอบ 23 ปี ก็ได้ผู้รักษาประตูฝีไม้ลายมือดีมาเติมประสบการณ์ และได้อาวุธเด็ดมาร่วมต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

กับโอกาสได้ลงเล่น หากมองผลงานส่วนตัวในช่วง 3 เกมแรกในสีเสื้อฟอเรสต์ นาวาสพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 18 เดือนแห่งความยากลำบากในช่วงก่อนหน้านี้ทำอะไรเขาไม่ได้เลย 

ไล่มาตั้งแต่การทำ 4 เซฟ ในเกมเดบิวต์ ช่วยทีมเชือด ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 ต่อด้วยผลงานระดับ 5 ดาว กับการทำ 5 เซฟ ในเกมชนทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมช่วยทีมเก็บผลเสมอมาได้ 1-1 

และที่สำคัญ จอมหนึบประสบการณ์สูงผู้นี้คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้งสองนัด

มันแสดงให้เห็นว่าเขายังคงเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น กับการแสดงให้เห็นถึงการรักษามาตรฐานสูงของตัวเองไว้ไม่มีเสื่อมคลาย 

ขอเพียงแค่โอกาสเข้ามาหาเท่านั้น

 

แหล่งอ้างอิง

https://theathletic.com/4146141/2023/02/02/keylor-navas-nottingham-forest-transfer/ 
https://theathletic.com/3907354/2022/11/23/keylor-navas-costa-rica-real-madrid-psg/ 
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/02/04/inside-story-how-nottingham-forest-signed-keylor-navas/ 
https://en.wikipedia.org/wiki/Keylor_Navas https://en.wikipedia.org/wiki/2014_FIFA_World_Cup 
https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%

 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น