ทำเอาแฟน ๆ อาร์เซนอลต้องเซอไพรส์กันไม่น้อย เมื่อสโมสรตัดสินใจคว้าจอร์จินโญ่ จากเชลซี มาร่วมทัพในวันสุดท้ายของตลาดผู้เล่นเดือนมกราคม 2023 โดยทีมปืนใหญ่จัดการดึงมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีมาเสริมทีมไปจนถึงปี 2024 พร้อมอ็อปชั่นต่อสัญญาเพิ่มอีกปี หากทำผลงานเป็นที่พอใจ
แน่นอนว่ามีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาของ “จอร์จี้” ที่เหลืออยู่กับเดอะ บลูส์ ไม่ถึง 6 เดือน ส่วนอาร์เซนอล ที่ตกเป็นข่าวอยากได้ผู้เล่นแดนกลางมาเสริมแกร่ง และในที่สุดก็ได้ดาวเตะมากประสบการณ์มาเติมเต็ม
จอร์จินโญ่จะนำอะไรมาสู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมบ้าง Main Stand หาคำตอบมาให้คุณแล้ว
พิสูจน์ให้เห็นในถ้ำสิงห์บลูส์
จอร์จินโญ่ มีช่วงเวลาที่ “ตื่นตาตื่นใจ” ร่วมกับเชลซีมาโดยตลอด 4 ปีครึ่ง นับแต่ที่ย้ายจากนาโปลี มายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อกลางปี 2018 พร้อมเมาริซิโอ้ ซาร์รี่ กุนซือคู่บุญที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยอยู่นาโปลี
แม้ทั้งสองจะมีส่วนช่วยสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สี่ ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ทว่าภาพรวมผลงานของสโมสรในเวลานั้น มีอยู่หลาย ๆ แมตช์ที่ทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน มีเกมที่แพ้บอร์นมัธถึง 4-0 แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึง 6-0 รวมอยู่ด้วย
และหนึ่งในคนที่โดนโจมตีหนักก็คือ จอร์จินโญ่ จากภาพจำผ่านสไตล์การเล่นจ่ายบอลสั้นไปมา เน้นแปะคืนหลัง ไม่ค่อยให้บอลขึ้นไปแดนบน หรือจะให้ยิงไกลจากแถวสองก็ไม่โดดเด่น ฯลฯ ซึ่งดูไม่สมกับค่าตัวที่เชลซีดึงมาร่วมก๊วนแตะหลัก 50 ล้านปอนด์ (บวกแอดออน)
แต่ถึงอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เริ่มตอบคำถามได้ว่า อดีตกองกลางหมายเลข 5 คนนี้ พร้อมจะเฉิดฉายกับสโมสรในอนาคต คือการมีส่วนพาทีมสิงโตน้ำเงินครามคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2019 ได้ แถมยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันด้วย
ขณะที่ฤดูกาลต่อมา (2019/20) เมาริซิโอ้ ซาร์รี่ ไม่ได้อยู่กับทีมต่อแล้ว ในรายของจอร์จี้ ก็มีข่าวลืออยู่ไม่น้อยว่าเขาจะถอดใจอำลาเชลซีหรือไม่
ทว่าไม่เป็นเช่นนั้น จอร์จินโญ่พร้อมอยู่พิสูจน์ตัวเองในลีกที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งลีกหนึ่งบนโลก กลายเป็นโอกาสดีที่จอร์จินโญ่พร้อมพิสูจน์ให้แฟน ๆ ได้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าที่ได้ลงสนามบ่อย ๆ นั้นไม่ใช่เพราะเป็นลูกรักซาร์รี่
แต่เป็น “ผลงาน” ต่างหาก ที่ทำให้คว้าโอกาสลงเล่น
อย่างที่คอฟุตบอลทราบกันดี เชลซีไปทำผิดกฎของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ซึ่งมีความหมายหลัก ๆ คือห้ามซื้อขายนักเตะนอกทวีปยุโรป ก่อนที่ผู้เล่นคนนั้น ๆ จะอายุ 18 ปี เป็นเหตุให้สโมสรโดนโทษแบนห้ามซื้อนักเตะช่วงตลาดซัมเมอร์ 2019 และตลาดหน้าหนาว 2020
ด้วยทรัพยากรที่จำกัด ทำให้แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือในเวลานั้น จำเป็นต้องดึงเหล่าผลผลิตจากอคาเดมี่สโมสรขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ เราจึงได้เห็นนักเตะอย่างเมสัน เมาท์, รีซ เจมส์, แทมมี่ อับราฮัม, ฟิกาโย่ โทโมรี, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ไปจนถึงบิลลี่ กิลมอร์ ลงเดบิวต์ให้ทีมกันแบบถ้วนหน้า
โดยให้เหล่าแข้งซีเนียร์เป็นตัวประคอง ซึ่งจอร์จินโญ่ก็เป็นหนึ่งในจอมเก๋าที่ช่วยขับเคลื่อน และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เชลซียุคยังบลัด ฤดูกาล 2019/20 จบอันดับ 4 แถมยังเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพได้ด้วย
เวลาต่อจากนั้น จอร์จินโญ่ยังคงเป็นนักเตะเบอร์ต้น ๆ ที่กุนซือเชลซีหลายเลือกใช้งาน ต่อให้จะโดนแฟนบอลทั้งทีมตัวเองและทีมอื่นวิจารณ์เรื่องสไตล์การเล่น ทว่าเขาก็ยังคงได้รับเลือกลงสนามเป็น 11 ตัวจริงให้กับกุนซือหลาย ๆ คนอยู่เรื่อยมา รวมถึงเฮดโค้ชคนปัจจุบันอย่างแกร์หม พอตเตอร์
มากไปกว่านั้น หนึ่งในเครื่องการันตีประสบการณ์และคุณภาพ ในสมัยที่ยังอยู่เดอะ บริดจ์ คือการเป็นรองกัปตันทีมต่อจากเซซาร์ อัซปิลิเกวต้า
ช่วงเวลาโดดเด่นสุด ๆ ของจอร์จินโญ่ กับเชลซี หนีไม่พ้นปี 2021 โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2020/21 ในยุคการคุมทัพของโธมัส ทูเคิ่ล เราจะเห็นได้ว่าการฟอร์มของสามกองกลางเชลซี ณ ตอนนั้น อย่างจอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช และเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดูโดดเด่นแบบไม่แพ้กัน วันใดใครเกิดบาดเจ็บ ก็จะทดแทนการเล่นได้แบบไม่ผิดฟอร์ม
ในรายของจอร์จินโญ่ ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการจ่ายบอลแม่นยำ คุมจังหวะเกมเป็นทุนเดิม ไว้ใจได้เรื่องการยิงจุดโทษ ครองบอลเหนียวแน่น นำมาซึ่งการกำหนดทิศทางเกมรุกเกมรับทีม เคลื่อนที่มีประโยชน์ทั้งยามที่มีบอลและไม่มีบอล รวมถึงมีจุดเด่นอยู่ที่การแกะเกมเพรสซิ่งด้วยการจ่ายบอลจังหวะเดียวด้วย
เขามีส่วนช่วยเชลซีทำสถิติไร้พ่ายรวมทุกรายการตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ไปจนถึงต้นเมษายน และอย่างที่ทุกคนทราบกันดี เชลซีคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกได้ในฤดูกาลดังกล่าว
ว่ากันว่าหนึ่งในงานยากที่คู่แข่งในนัดตัดสินแชมป์ ที่ปอร์โต้ อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เผชิญ ก็คือความเหนียวแน่นของแดนกลางเชลซี ซึ่งมีจอร์จี้ เป็นฟันเฟือง
โทรฟี่และเกียรติยศส่วนตัวคือเครื่องการันตีความสำเร็จ จอร์จินโญ่คว้าสิ่งนี้มาประดับให้ตัวเองได้ นอกเหนือไปจากแชมป์ยูโรป้าลีก และแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว กองกลางรายนี้ยังเคยคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ รวมถึงฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ ร่วมกับเชลซี รวมถึงการเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ร่วมกับทีมชาติอิตาลีได้ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ เขายังจารึกสถิติเป็นนักเตะเชลซีคนแรก ที่ซิวรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า รวมถึงเป็นเจ้าของแข้งยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ 2021 ในอันดับท็อปทรี มาแล้ว
ก่อนจะปิดฉากเส้นทางตลอด 4 ปีครึ่ง ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยผลงานลงสนามรวมทุกรายการ 213 นัด ซัดไป 29 ประตู สู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กับความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาร์เซนอล ในวัย 31 ปี
แผนสำรอง และผู้เล่นเบอร์ 6 ในใจอาร์เตต้า
ภายหลังจากโมฮาเหม็ด เอลเนนี่ กลางตัวตัดเกมชาวอียิปต์ได้รับบาดเจ็บ และทีมต้องการตัวเลือก ต้องการแบ็คอัพแดนกลางเพิ่ม เพื่อต่อสู้กับเส้นทางสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก ทำให้อาร์เซนอลเริ่มตกเป็นข่าวเล็งคว้าผู้เล่นกองกลางมาร่วมทีม โดยอยู่ในช่วงปลายของตลาดนักเตะมกราคม 2023
โดยข่าวโยงนักเตะที่ตั้งใจจะดึงมาร่วมทีมในช่วงตลาดรอบล่าสุด คือทีมต้องการนักเตะประเภทที่ใช้งานได้เลย ทำให้ชื่อของเดแคลน ไรซ์ ที่เคยเล็งว่าจะทุ่มทีเดียวในตลาดรอบซัมเมอร์ กลับมาอยู่ในลิสต์, มอยเซส ไคเซโด้ มิดฟิลด์อนาคตไกลของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ดาวรุ่งจากเรอัล โซเซียดาด ในลาลีก้า เป็นต้น
เราจะเห็นได้ว่าอาร์เซนอลไม่ได้เล็งจอร์จินโญ่ เป็นผู้เล่นแดนกลางที่ตั้งใจจะดึงเข้ามาเป็นตัวเลือกแรก
แต่หลังจากการเจรจาคว้าทั้งสองไม่สำเร็จ เวสต์แฮมไม่ปล่อยสตาร์ทีมชาติอังกฤษช่วงกลางฤดูกาล ขณะที่ไคเซโด้ มีการเจรจาอยู่หลายครั้ง แต่บรรลุร่วมกันไม่ได้ ขณะที่ดาวโรจน์แดนกระทิง มีข่าวว่าต้องการจะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์มากกว่า
ทำให้เป้าหมาย “สำรอง” ของทีม กลับกลายเป็นชื่อของสตาร์หมายเลข 5 ของเชลซี ซึ่งใกล้จะหมดสัญญากับทีมในซัมเมอร์ 2023
ทันทีที่มี วลีเด็ด Here we go! ไปจนถึงคำว่า Official ของดีลนี้ออกมา เสียงของแฟนบอลกลับแตกออกเป็นสองฝั่ง บ้างก็มองว่าบอร์ดบริหารเสริมทัพได้เหมาะสมแล้ว พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดีในแผงกลางทีม เพราะจอร์จินโญ่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากว่า 4 ฤดูกาลแล้ว แถมยังเป็นนักเตะมากดีกรีอีกต่างหาก
ส่วนฝั่งไม่เห็นด้วย เหตุเพราะจอร์จินโญ่มีอายุเข้าเลขสามไปแล้ว และที่ผ่าน ๆ มา อาร์เซนอลมีแนวทางเสริมทัพสู่อนาคต ดึงนักเตะอายุน้อยมาร่วมทีมมากกว่าจะไปดึงแข้งอายุเยอะ
แถมยังมีภาพจำจากการเซ็นแข้งทีมคู่แข่งจากสโมสรร่วมกรุงลอนดอนคนก่อนหน้า อย่างวิลเลี่ยน ที่ดึงมาแล้วอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องระเห็จระเหินจากทีมไป รวมถึงดาวิด ลุยซ์ แข้งวัยหลัก 30 คนก่อนหน้า ที่คว้ามาจากเชลซีเช่นกัน และผลงานก็ไม่ได้เป็นที่เชิดชูเท่าไร
อย่างไรก็ดี การปิดดีลดึงกลางวัยเก๋ารายนี้มาเสริมแกร่ง เป็นความตั้งใจจริงของผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน มิเกล อาร์เตต้า นั่นเพราะกุนซือสแปนิช เคยตั้งใจจะดึงจอร์จินโญ่มาร่วมทีม ตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นมือขวาเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มีรายงานว่าอาร์เตต้าเคยมีความตั้งแต่ดึงจอร์จี้มาร่วมทัพเรือใบสีฟ้า ตั้งแต่สมัยที่ดาวเตะรายนี้ยังเป็นผู้เล่นของนาโปลี แต่ด้วยค่าตัวของดาวเด่นกัลโช่ เซเรีย อา ในเวลานั้น ที่ว่ากันว่านาโปลีพร้อมตอบรับข้อเสนอหลัก 50 ล้านปอนด์ ทำให้แมนฯ ซิตี้ เลือกเบนเข็มไปหาคนอื่นแทน
แม้จะชวดได้ตัวจอร์จินโญ่ไป แต่มุมมองของอาร์เตต้า ที่มีต่อผลงานของจอร์จินโญ่ ยังคงได้รับการกล่าวถึง หนึ่งปีต่อมา เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Marca สื่อในสเปนถึงบทบาทการเล่นของมิดฟิลด์หมายเลข 6 โดยหยิบยกเคสของกองกลางเชลซีมาอธิบาย
ภายหลังการอำลาตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนฯ ซิตี้ เพื่อโยกมาเป็นนายใหญ่อาร์เซนอล ในตลาดซื้อขายนักเตะแรกที่อาร์เตต้ามีโอกาสได้เติมแต่งทีม (ซัมเมอร์ปี 2020) เขาเคยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดึงจอร์จินโญ่มาร่วมก๊วน
ทว่าก็ยังไม่สมหวัง เชลซียืนยันว่าสตาร์ทีมชาติอิตาลีไม่ได้มีไว้ขาย ทางทีมปืนใหญ่จึงไปคว้าโธมัส ปาร์เตย์ กลางพันธุ์แกร่งชาวกาน่ามาร่วมทีมแทน
เวลาล่วงเลยมาจนปี 2023 จากลิสต์นักเตะที่ทีมเคยสนใจเป็นเป้าหมายแรก ๆ และปิดดีลไม่ได้
สุดท้ายหวยมาออกที่เป้าหมายสำรอง แต่เป็นนักเตะประเภทที่ว่าฉีกซองแกะใช้งานได้ทันที นาม “จอร์จินโญ่”
เพื่อเป้าหมายระยะสั้น… แชมป์พรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล กลายเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ และหากทำได้ พลพรรค “ไอ้ปืนใหญ่” จะทำได้ต่อจากฤดูกาลแชมป์ไร้พ่าย 2003-04
โดยพื้นฐานของทีมที่จะเป็นแชมป์รายการใดรายการหนึ่ง องค์ประกอบของตัวผู้เล่นต้องมีความพร้อม ทดแทนกันได้ มีส่วมผสมระหว่างผู้เล่นมากประสบการณ์ แข้งอายุน้อยวัยพร้อมทะยาน รวมถึงดาวเตะวัยพีคพร้อมล่าความสำเร็จ
มองมาที่ตัวผู้เล่นกองกลางของทัพปืนใหญ่ เน้นไปที่ Defensive Midfield และ Central Midfield จะเห็นว่าเรื่องอาการบาดเจ็บ บวกความฟิตที่ต้องพร้อมรับมือกับช่วงเวลาที่เหลือของซีซั่น ทำให้โธมัส ปาร์เตย์ ถูกตั้งคำถามถึงการยืนระยะลงเล่นในทุก ๆ การแข่งขันของทีม ด้านกรานิต ชาก้า เป็นกองกลางที่ถูกขยับบทบาทเล่นแดนบนสนับสนุนเกมรุกมากขึ้น เล่นทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น
ส่วนรายอื่น ๆ ดังที่กล่าวไปก่อนหน้า โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนอัลเบิร์ต แซมบี้ โลคอนก้า ดาวรุ่ง ก็ถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์และเรียกความมั่นใจเพิ่มเติม กับคริสตัล พาเลซ ที่มีปาทริค วิเอร่า คุมทัพ หลังจอร์จี้ย้ายเข้ามา
นั่นทำให้ขุมกำลังในจุดนี้ได้รับการเติมเต็มทันที เป้าหมายระยะสั้นก็สำคัญไม่แพ้ความสำคัญระยะยาว จอร์จินโญ่สามารถจะมาทั้งเป็นตัวสนับสนุน หรือจะลงสนามสลับกับผู้เล่นกองกลางคนอื่น ๆ ก็ย่อมได้
มากกว่านั้น เพราะขุมกำลังทีมในฤดูกาลนี้ ยังคงคอนเส็ปต์ของการทำทีมแบบอาร์เตต้า คือเน้นแข้งอายุน้อย และแข้งวัยไม่ถึง 30 เป็นกำลังขับเคลื่อน การเข้ามาของจอร์จินโญ่ ในฐานะนักเตะดีกรีแชมป์หลายรายการ ก็น่าจะช่วยถ่ายทอด และเติมเต็มความเก๋าให้ทีมได้เป็นอย่างดี
และเพราะสไตล์การเล่นที่ครองบอลเหนียว ควบคุมจังหวะการเล่นจากแนวลึก สอดประสานระหว่างเกมรับกับเกมรุกได้ลื่นไหล และพร้อมเคลื่อนที่ไปทุก ๆ แดนของสนาม รับต่อบอลสั้นกับเพื่อน หรือจะให้รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ก็มีความแม่นยำสูง ฯลฯ ทั้งยังคุ้นเคยกับทุกระบบการเล่น จากการร่วมงานกับกุนซือหลาย ๆ คน และลงเล่นท่ามกลางแท็คติกที่หลายหลาก
ซึ่งรวมถึงระบบ 4-3-3 ที่อาร์เตต้าใช้ในปัจจุบันด้วย
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจไม่แพ้จุดเด่นในสนามของจอร์จินโญ่ คือเขาเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยจะบาดเจ็บหนักตัวอย่างจากเว็บไซต์ transfermarkt.com ระบุจอร์จี้เคยเจ็บพลาดลงเล่นให้เชลซีแบบจริง ๆ จัง ๆ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในปี 2021
ไม่ว่าจะได้รับบทบาทตัวจริงหรือสำรองในช่วงเวลาต่อจากนี้ของฤดูกาล จอร์จินโญ่พร้อมแล้ว ที่จะไล่ล่าเส้นทางใหม่ในชีวิตค้าแข้ง
เนื่องด้วยตัวเขาเองก็ยังไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะที่อาร์เซนอลก็หวังจะได้ชูถ้วยใบนี้อีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปี
เมื่อเคมีตรงกันแล้ว คำตอบที่เหลือก็คือการออกไปลุยในสนาม!
แหล่งอ้างอิง
https://www.coachesvoice.com/cv/jorginho-chelsea-italy/
https://theathletic.com/4141459/2023/01/31/jorginho-arsenal-chelsea-caicedo/
https://theathletic.com/4143445/2023/02/01/arsenal-transfers-jorginho-trossard/
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/01/31/jorginho-does-not-fit-arsenals-transfer-strategy-why-does/
https://www.transfermarkt.com/jorginho/profil/spieler/102017
https://en.wikipedia.org/wiki/Jorginho_(footballer,_born_December_1991)
https://theshortfuse.sbnation.com/2023/1/31/23579438/arsenal-sign-jorginho-chelsea-12m-fee-january-transfer-window