Feature

ถึงเวลาต้องซีเรียส : การตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก สร้างปัญหาการเงินให้ บาร์เซโลน่า แค่ไหน ? | Main Stand

"ในปีนี้เราไม่มีทางเลือก เราต้องตั้งเป้าด้วยการคว้าแชมป์ลา ลีกา และเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้เป็นอย่างน้อย" นี่คือสิ่งที่ เอดูอาร์ด โรเมว รองประธานบาร์เซโลน่า กล่าวก่อนซีซั่น 2022-23 จะเริ่มขึ้น 

 


และตอนนี้สิ่งที่พวกเขากลัวได้กลายเป็นจริง เพราะแผนที่วางไว้พลิกผันอย่างรวดเร็วเกินคาด เมื่อบาร์เซโลน่าจอดป้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม 

การตกรอบก่อนเวลาอันควรนี้จะนำปัญหาอะไรมาสู่พวกเขาในระยะสั้นและระยะยาวบ้าง ? ติดตามได้ที่ Main Stand  

 

หนี้เยอะแต่ฝันใหญ่ 

ในช่วง 20 ปีหลังสุด บาร์เซโลน่าถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะในยุคที่พวกเขาเริ่มครองโลกสมัยที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นกุนซือ และมีหนึ่งในนักเตะที่ถูกขนานนามว่า GOAT (Greatest Of All Time) อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เป็นผู้สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับทัพอาซูลกราน่า 

อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นในช่วง 6-7 ปีหลังสุด นับตั้งแต่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว เข้ามาเป็นประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ในปี 2014 โดยรับมรดกต่อจาก ซานโดร โรเซลล์ ประธานคนเดิมที่ประกาศลาออกหลังมีข่าวทุจริต ทำให้บาร์โตเมวที่เป็นรองประธานต้องทำหน้าที่แทน 1 ปี ก่อนจะได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในปี 2015 

หากถามว่าเมื่อมองจากปลายทางแล้ว ทำไมคนอย่างบาร์โตเมวจึงถูกเลือก ? เหตุผลก็คงหนีไม่พ้นในฤดูกาล 2014-15 บาร์เซโลน่ากำลังเก่งที่สุดในโลก นำโดย ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ พวกเขากวาดแทบทุกแชมป์ที่ลงแข่งขัน ดังนั้นใบบุญดังกล่าวจึงทำให้บาร์โตเมวชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งประธานสโมสรอยู่เรื่อยมา 

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากปี 2015 ต่างหากที่เป็นของจริง ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าบาร์เซโลน่ามีการซื้อขายที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นหลายดีล โดยเฉพาะนักเตะขาเข้าหลายคนที่ราคาแพงระยับระดับทะลุ 100 ล้านยูโร ทั้ง อุสมาน เดมเบเล่, ฟิลิเป้ คูตินโญ่ และ อองตวน กรีซมันน์ รวมถึงคนอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ ซึ่งไม่มีใครทำผลงานได้คุ้มค่าตัวและค่าจ้างจริง ๆ เลยสักคน 

บาร์เซโลน่าเดินทางเข้าสู่ขาลงในช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่นาน ผลงานในสนามของพวกเขาเริ่มตก และเมื่อโลกต้องเจอกับ COVID-19 ปัญหาทางการเงินก็เริ่มตามมา ทุกอย่างสุมกันเรื่อย ๆ จนที่สุดแล้วแฟน ๆ ก็ทนไม่ไหวและมีการรวมตัวกันขับไล่บาร์โตเมวออกจากตำแหน่ง โดยในปี 2021 มีการสรุปว่าการบริหารของบาร์โตเมวทำให้บาร์เซโลน่าติดหนี้สินมหาศาลเป็นจำนวนเงินถึง 1.35 พันล้านยูโร 

หนี้ก้อนใหญ่ การบริหารที่เน่าเฟะ และผลงานในสนามที่ล้มเหลว ทำให้ โจน ลาปอร์ต้า อดีตประธานในช่วงปี 2003-2010 ประกาศตัวขอเป็นผู้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ และจะทำให้บาร์เซโลน่ายิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานสโมสรและได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น 

ในวันที่เขาได้รับตำแหน่ง ลาปอร์ต้าประกาศจุดยืนว่าจากนี้ไปสโมสรบาร์เซโลน่าจะมุ่งสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ ต่อให้ตอนนี้มีหนี้สินมากมาย แต่เขาก็มีวิธีที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการเอาเงินในอนาคตมาใช้เพื่อสร้างทีม หรือที่แฟนบอลบ้านเราเข้าใจกันว่าคือ "คันโยกเศรษฐกิจ" นั่นเอง 

 

เอาเงินในอนาคตมาใช้ ... เพื่อสร้างอนาคต 

ลาปอร์ต้าตั้งใจจะลงทุนกับทีมด้วยเงินก้อนใหญ่ อย่างแรกคือการดึงนักเตะที่สามารถใช้งานและยกระดับทีมได้จริง ๆ เข้ามา ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้เงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขามีไม่เพียงพอในปี 2021 จนไม่สามารถรั้งตัว ลิโอเนล เมสซี่ ให้อยู่กับทีมต่อได้

พวกเขาได้สร้างโปรเจ็กต์ที่มีชื่อว่า "คันโยกทางเศรษฐกิจ" ด้วยการขายหุ้นลิขสิทธิ์ทีวีของสโมสร ขายหุ้นบาร์ซ่าสตูดิโอ และขายหุ้นในธุรกิจภายในสโมสรที่สามารถทำเงินได้ รวมแล้วเป็นเงินมากกว่า 700 ล้านยูโรจากการใช้คันโยกทางเศรษฐกิจรวมทั้งหมด 4 ครั้ง และนั่นทำให้พวกเขาสามารถซื้อตัวนักเตะได้โดยไม่ผิดกฎทางการเงินที่ทางลา ลีกา ตั้งไว้ 

บาร์เซโลน่าคว้านักเตะดังมากมายในซัมเมอร์ 2022 ทั้ง ราฟินญ่า, ฌูลส์ กุนเด้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, ฟรองก์ เคสซิเยร์, อันเดรียส คริสเตียนเซ่น, เอ็คตอร์ เบเยริน และ มาร์กอส อลอนโซ่ 

ถึงแม้ว่าปัจจุบันบาร์เซโลน่าจะยังมีภาระหนี้สินมากมาย แต่ความทะเยอทะยานของพวกเขาก็ไม่หายไปไหน บาร์เซโลน่ายังมีโปรเจ็กต์มากมายที่ทะเยอทะยาน และต้องคว้าความสำเร็จให้ได้โดยไม่ปล่อยให้ปัญหาเรื่องการเงินมาเป็นอุปสรรค 

"ผมเชื่อว่าถ้าเราเดินทางถูกต้องเราจะคว้าชัยชนะและได้ถ้วยอีกมากมาย เป้าหมายของเราคือการชนะทริปเปิลแชมป์อีกรอบ หรือถ้าจะให้ดีผมก็อยากได้ 6 แชมป์ เพื่อให้เราเป็นสโมสรที่เป็นสัญลักษณ์ของโลกอีกครั้ง" โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า เผยถึงสาเหตุที่พวกเขายอมเอาเงินในอนาคตมาใช้ 

เพื่อจะกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ทีมก็จำเป็นจะต้องได้แชมป์ โดยเฉพาะแชมป์ที่ยืนยันว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรป (อาจรวมถึงในโลก) นั่นคือรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รายการฟุตบอลที่มีเงินรางวัลมากที่สุดและมีค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดก้อนโต ชนิดที่เป็นรายการ "ชี้ดำ ชี้แดง" ของแต่ละสโมสรเลยก็ว่าได้ว่าในปีนั้นพวกเขาได้กำไรหรือขาดทุนในแง่ของธุรกิจ 

ในฤดูกาล 2021-22 ที่ผ่านมา เอาแค่เรื่องของเงินรางวัลล้วน ๆ ไม่ต้องนับเรื่องค่าลิขสิทธิ์ที่มากกว่านี้เยอะ ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศอย่าง ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด กวาดเงินไปทีมละ 90 ล้านปอนด์โดยประมาณ ขณะที่ทีมที่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์ได้ก็จะได้เงินเฉลี่ยอยู่ที่ 45-55 ล้านปอนด์ ... เห็นได้ชัดว่านอกจากความสำเร็จแล้ว เงินก็เป็นสิ่งที่บาร์เซโลน่าต้องการมาก ๆ เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเรื่องของถ้วยแชมป์ด้วยซ้ำ 

เพราะเราต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเอาเงินของอนาคตออกมาใช้เต็ม ๆ เงินที่พวกเขาควรจะได้ก็ต้องกินเต็ม ๆ ไปสัก 10-20 ปี ซึ่งหลังจากนี้จะถูกแบ่งให้กับบริษัทที่พวกเขาขายหุ้นให้ ดังนั้นถ้าพวกเขาล้มเหลวในสนามและไม่สามารถกลับสู่ระดับเดิมที่เคยเป็นเมื่อครั้งอดีตได้ พวกเขาก็ต้องเข้าเนื้อเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ 

The Athletic สื่อดังของอังกฤษบอกว่า บาร์เซโลน่ามีรายจ่ายรวมต่อปีอยู่ที่ 656 ล้านยูโร ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 27% จากการลงทุนกับเหล่านักเตะชื่อดัง ดังนั้นเป็นตายรายดีอย่างไรพวกเขาก็จะต้องเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้เป็นอย่างน้อย 

"ฤดูกาลที่แล้วการตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกทำให้เราเสียรายได้ไปเปล่า ๆ 12 ล้านยูโร ... มันเป็นรายได้ที่ควรเข้ามาอยู่ในกระเป๋าแท้ ๆ ซึ่งการหารายได้นั้นจะต้องควบคู่ไปกับการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย ดังนั้นในปีนี้เราจึงไม่มีทางเลือก เราต้องตั้งเป้าด้วยการคว้าแชมป์ลา ลีกา และเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้เป็นอย่างน้อย" เอดูอาร์ด โรเมว รองประธาน บาร์เซโลน่า กล่าว 

อ่านมาถึงตอนนี้พวกเราต่างรู้แล้วว่าบาร์เซโลน่ากำลังตกที่นั่งลำบาก พวกเขาตามหลัง เรอัล มาดริด ในตารางลา ลีกา ซึ่งตรงนี้ไม่ค่อยน่าหนักใจเท่าไรนัก เพราะตามแค่ 3 แต้มและยังเหลือเกมให้เล่นอีกเยอะ แต่ที่หนักจริง ๆ คือการตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มนี่แหละ ซึ่งปัญหานี้ใหญ่มาก ๆ พวกเขาไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ก่อน และนี่คือสิ่งที่พวกเขาจะต้องเจอต่อจากนี้ 

 

เสียหายยิ่งกว่าตกรอบ 

หลังจากที่บาร์เซโลน่าการันตีการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม C ทำให้พวกเขาตกรอบ ปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค และ อินเตอร์ มิลาน คว้าตั๋วทอง 2 ใบไปแบบน่าเจ็บปวด แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่าการตกรอบคือ การเสียโอกาสได้เงินจากถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกที่ควรจะได้รับ นั่นเท่ากับว่าบาร์เซโลน่าจะพลาดเงินก้อนโตถึง 20.2 ล้านยูโร (ประมาณ 766 ล้านบาท) นอกจากนี้พวกเขาจะชวดค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่มีมูลค่าถึง 60 ล้านยูโรอีกด้วย 

จากตัวเลขที่หายไปรวม ๆ แล้ว 80 ล้านยูโร (เป็นอย่างน้อย) มองตรงไหนก็ดูออกว่าการตกรอบของบาร์เซโลน่าครั้งนี้จะต้องสะท้านกองคลังของสโมสรอย่างแน่นอน อย่าลืมว่าพวกเขายังมีหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องทยอยชำระ และพวกเขายังต้องแบ่งกำไรในอนาคตไปอีกจากการขายหุ้นในส่วนต่าง ๆ ของสโมสร 

เดิมทีบาร์เซโลน่าวางเป้าหมายไว้ว่าในช่วงแรก ๆ ของการใช้คันโยกทางเศรษฐกิจ พวกเขาอาจจะเจอกับเรื่องการเงินที่ตึง ๆ ไปบ้าง แต่หลังจากฤดูกาล 2024-25 เป็นต้นไป หากทีมสามารถประสบความสำเร็จเรื่องผลการแข่งขันได้พวกเขาจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินได้ตามเป้า จนสามารถประคองเรื่องรายรับ รายจ่ายให้กลับมาเป็นปกติได้ 

ชัดเจนว่าการตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มไม่ใช่แผนที่พวกเขาวางและคาดการณ์เอาไว้ ดังนั้นการเสียหลักตั้งแต่ออกสตาร์ทนี้ย่อมมีผลต่อโครงการระยะยาวที่จะปรับสมดุลทางการเงินให้กลับมาเป็นปกติ และจะทำได้ช้าลงกว่าที่พวกเขาเคยวางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้ 

หลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวความวุ่นวายของบาร์ซ่าที่ก่อตัวมาตั้งแต่ยุคของบาร์โตเมวยังไม่จบลงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน การออกจากการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกก่อนเวลาอันควรส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความภาคภูมิใจของสโมสร ทำลายโอกาสคว้าความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม และเหนือสิ่งอื่นใดคนที่ต้องเสียหน้ากับเรื่องนี้สุด ๆ ก็คือท่านประธานลาปอร์ต้าที่วาดโปรเจ็กต์เอาไว้อย่างสวยงามก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มขึ้น 

โดยลาปอร์ต้าได้ให้คำมั่นต่อแฟน ๆ อย่างชัดเจนและจริงจังว่า นโยบายการบริหารของเขาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่โดนวิจารณ์เรื่องการนำเงินในอนาคตออกมาใช้คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขระยะสั้นเพื่อเริ่มต้นทีม ... ซึ่งตอนนี้บาร์เซโลน่าถลำลึกสู่วงการคันโยกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะเริ่มต้นได้ตะกุกตะกักแค่ไหนและการใช้คันโยกจะดีสำหรับสโมสรในระยะยาวหรือไม่ บาร์เซโลน่ามาไกลเกินกว่าจะถอนตัวแล้วในตอนนี้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.goal.com/en/news/revealed-how-much-barcelona-financial-losses-costly-early-champions-league-exit/blt224a0afe6db193ec
https://theathletic.com/3685330/2022/10/26/barcelona-transfers-levels-finances/
https://www.sportingnews.com/us/soccer/news/champions-league-prize-money-breakdown-2022-how-much-winners/alyjzqvtjjhxk311oivierzn
https://www.transfermarkt.com/fc-barcelona/transfers/verein/131
https://bleacherreport.com/articles/431855-whats-happening-with-barcelonas-finances
https://www.telegraph.co.uk/football/2022/10/26/inter-milan-vs-viktoria-plzen-live-score-champions-league-barcelona/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1