วงการรักบี้ไทยกำลังตื่นตัว หลังได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Asia Rugby Sevens Series Leg1 ที่กำลังจะเปิดฉากในวันพรุ่งนี้ ที่สนามบุณยะจินดา
ทัพรักบี้หญิง 7 คนคือตัวแทนจากไทยที่จะเข้าไปฟาดฟันกับทีมระดับโลกที่อยู่ร่วมสาย A ทั้ง ญี่ปุ่น , คาซัคสถาน และ ฟิลิปปินส์ และทีมไทยก็ได้เสริมอาวุธมาครบเครื่องพร้อมรับมือทั้งในเกมรุกและเกมรับ
หนึ่งในนั้น คือ “เนย ป็อกบา” หรือ จิราวรรณ ชูตระกูล อดีตนักกรีฑาทีมชาติไทยลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เคยไปคว้าเหรียญทอง วิ่ง 100 เมตรหญิง ในซีเกมส์ 2019 มาแล้ว
“เธอเปรียบเสมือนขีปนาวุธในเกมริมเส้นของทัพรักบี้หญิงไทย” ใคร ๆ ต่างก็ว่ากันแบบนี้ เพราะการเคลื่อนที่ของจิราวรรณโดดเด่นมาตั้งแต่สมัยเป็นนักกรีฑาและเคยถูกหมายมั่นจากทางสมาคมกรีฑาไว้ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในความหวังของทัพไทยในโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
แต่แล้วเส้นทางการเป็นนักกีฬาของเธอก็ผันเปลี่ยน เมื่อสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมมือกันกับ สมาคมกรีฑา ในการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนานักกีฬาของทั้งสองสมาคม และทางสมาคมรักบี้ ก็โดนความคล่องตัวของจิราวรรณเตะตาเข้าอย่างจัง
“รักบี้ 7 คนต่างจากรักบี้ 15 คน ตรงที่พอคนน้อยสนามและพื้นที่ก็จะกว้างขึ้น ฉะนั้นเราต้องการผู้เล่นที่ไวมีสปีดต้นที่ดี ยกตัวอย่างเวลาเราได้บอลมาแล้วต้องการ Side Step หลบ แต่ถ้าเราไม่มีความเร็วก็จะถูกแท็กเคิล เพราะฉะนั้นการที่เราเอานักกีฬาไปฝึกกับสมาคมกรีฑาก็ได้ผลในเรื่องนี้มาประมาณหนึ่ง แล้วเราก็ได้ตัวผู้เล่นมาเสริม ซึ่งนั่นก็คือ เนย จิราวรรณ” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้แห่งประเทศไทยฯ อธิบาย
ซึ่งการเปลี่ยนจากกรีฑามาเป็นรักบี้ก็เป็นก้าวใหญ่สำหรับจิราวรรณพอสมควร เพราะรักบี้ต้องเล่นเป็นทีมและมีรายละเอียดในเรื่องของเกมรุกและรับ เมื่อได้บอลมาแล้วก็ต้องคิดว่าจะต้องทำยังไงเพื่อขึ้นเกมให้ทีมได้เปรียบ
และในศึก Asia Rugby Sevens Series Leg1 จะเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกของเธอในนามนักรักบี้หญิงทีมชาติไทย นอกจากจะวางเป้าพาทีมไทยติด 1 ใน 3 ของสนามในบ้านเกิดให้ได้แล้ว เธอยังหวังว่าจะได้โชว์ความเร็วให้ทีมระดับโลกที่มาเยือนในครั้งนี้ได้เห็นว่าความเร็วของเธอจะมีพลังทำลายล้างมากน้อยแค่ไหน
