หนึ่งในเอกลักษณ์ที่เรียกได้ว่าเฉพาะตัวของฟุตบอลไทยคือเรื่องสีประจำสโมสร เพราหลายทีมเลือกหยิบสีส้มมาใช้ ทั้งที่หากมองไปยังสโมสรดังฝั่งตะวันตกก็แทบไม่มีทีมฟุตบอลที่ใช้สีส้มเป็นสีประจำทีม
ในลีกสูงสุดของประเทศไทยฤดูกาล 2022-23 จะพบว่ามีสโมสรที่ใช้ "สีส้ม" เป็นสีหลักมากถึง 5 ทีมด้วยกัน โดยทีมเหล่านั้นคือ เชียงราย ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของลีกเลยทีเดียว
ยังไม่นับรวมกับลีกระดับอื่น ๆ ในประเทศที่ใช้สีส้มเป็นสีหลักกันอีกหลายทีม แบบที่ไม่เกิดขึ้นในฟุตบอลในหลายประเทศ
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับเรา
อิทธิพลจากศาสนาพุทธ
ส่วนหนึ่งของการนิยมใช้สีส้มสามารถวิเคราะห์ได้จาก “ความเคยชิน” ในการพบเห็นสีดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตที่ทำให้ไม่ได้รู้สึกถึงความแปลกประหลาดว่าสีส้มเป็นสีที่แปลกและดูโดดเด่นจนถึงขั้นแสบตา ซึ่งอิทธิพลสำคัญที่ทำให้คนไทยคุ้นชินมากกับสีส้มก็คือศาสนายอดนิยมของบ้านเราอย่าง ศาสนาพุทธ
สีส้มที่ว่านี้มักจะเห็นได้ทั่วไปในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ เช่น สีจีวรพระสงฆ์, รัศมีของพระพุทธเจ้าในจิตรกรรมฝาผนัง หรือในธงฉัพพรรณรังสีที่ประดับตามกำแพงวัด
แม้จะไม่มีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษรทางกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ในทางพฤตินัยด้วยจำนวนพุทธศาสนิกชนกว่า 62 ล้านคนที่คิดเป็นร้อยละกว่า 94 ในประเทศ คำที่กล่าวว่า “เมืองไทยเมืองพุทธ” ก็อาจจะไม่ผิดเสียเท่าไร
อิทธิพลของศาสนาพุทธในประเทศไทยถือว่ามีพัฒนาการมายาวนานและฝังรากลึกเป็นอย่างมาก นานจนสามารถเข้าไปมีอิทธิพล เกี่ยวข้องในวิถีชีวิต รวมถึงกำกับควบคุมวิธีคิดและวิธีมองโลกของคนไทย
จะเห็นได้จากประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงเรื่องจริยธรรม การข่มจิตข่มใจ ข่มกิเลสตัณหา ก็มาจากพุทธทั้งนั้น
รวมไปถึงกิจของฆราวาสอย่างการเข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรม นั่งสมาธิ ถวายปัจจัยทำนุบำรุงศาสนา หรือแม้แต่การบวชทดแทนคุณบิดามารดาก็ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องดีงามที่ทำแล้วดีและเหมือนได้เป็นชาวพุทธตัวอย่าง จนเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานความดีของสังคมที่คนไทยควรเดินตาม
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าอิทธิพลของศาสนาพุทธอยู่กับทุกช่วงชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นคนชนชั้นไหนก็ตาม จะเป็นคนที่เต็มไปด้วยอำนาจที่ทุกคนต้องกราบไหว้หรือคนยากจนที่ใช้ชีวิตวันต่อวัน ทุกคนก็ต้องยกมือไหว้พระกันทั้งสิ้น หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธก็สัมผัสได้ถึงความสำคัญของศาสนาพุทธในประเทศนี้
ชีวิตที่ผูกติดกับศาสนาพุทธแทบทุกมิติย่อมหมายถึงชีวิตของคนไทยที่ต้องเกี่ยวข้องกับสีส้มอยู่เสมอ จนเราเห็นสีส้มเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จนทำให้ไม่รู้สึกแปลกที่จะเห็นสีส้มในเกมกีฬาฟุตบอล
นอกจากนี้บทบาทของพระสงฆ์ที่มีสถานะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชุมชนมาแต่โบราณก็กลายเป็นตัวแสดงหลักในการชี้นำสังคมมาจนถึงปัจจุบันนอกเหนือไปจากกิจของสงฆ์ เวลาพระพูดอะไรก็เหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ควรจะปฏิบัติตามไปเสียหมด ดังนั้นการจะบอกว่าพุทธศาสนาคือหนึ่งใน “ความเป็นไทย” หรือเรื่อง “ไทย ๆ” ก็พอได้
ในความเป็นจริงแล้วอิทธิพลของศาสนาก็ถูกส่งต่อเข้ามาสู่เกมลูกหนังไทยด้วยเช่นกัน เช่นในปี 2021 สโมสร จัมปาศรี ยูไนเต็ด ถึงขนาดตั้ง พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ฉายาทางสงฆ์ในขณะนั้น เข้าเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ส่งทีมลงเล่นในไทยอเมเจอร์ลีก หรือสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกที่มีเจ้าของเป็นคนไทยอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังได้ทำเรื่องไทย ๆ ด้วยการให้พระมาเจิมและรดน้ำมนต์ที่สนามแข่งเพื่อเป็นสิริมงคล รวมไปถึงการออกคอลเล็กชั่น ผ้ายันต์เลสเตอร์ รุ่นแพ้ไม่เป็น กันเลยทีเดียว
ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกหากสีส้มจะมีบทบาทสำคัญกับชีวิตคนไทยเนื่องจากพุทธศาสนา และส่งต่อสู่การแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศไทยอีกต่อหนึ่งผ่านสีของชุดแข่งขันของทีมต่าง ๆ
จังหวัดสีอะไร สโมสรก็สีตามนั้น
เรื่องพุทธศาสนาอาจส่งผลกับกีฬาฟุตบอลในทางอ้อม แต่เรื่องที่เห็นได้ชัดแบบไม่มีข้อสงสัยคือ สีส้มที่สโมสรใช้เป็นสีหลักนั้นมาจาก “ธงประจำจังหวัด” แทบทั้งสิ้น
ด้วยนโยบาย “หนึ่งจังหวัด หนึ่งสโมสร” ของสมาคมฟุตบอล ทำให้สโมสรแต่ละจังหวัดเปรียบเสมือน “ภาพแทน” ของจังหวัดนั้น ๆ ไปโดยปริยาย
แล้วสิ่งใดจะสามารถถ่ายทอดความเป็นจังหวัดนั้น ๆ ออกมาได้ดีที่สุดนอกเหนือจากสัญลักษณ์บนตราสโมสรหรือคอนเซ็ปต์ของทีม ? แน่นอนว่ามันคือการเลือกใช้สีที่อยู่บนธงประจำจังหวัดนั่นเอง
ซึ่งสีส้มถือเป็นอีกสีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากสำหรับการใช้ในธงประจำจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอย่าง กาฬสินธุ์, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และ อุดรธานี จังหวัดเหล่านี้ล้วนใช้สีส้มเป็นสีหลักบนธงประจำจังหวัด ซึ่งสโมสรฟุตบอลประจำจังหวัดที่กล่าวมานี้ก็ล้วนใช้สีส้มเป็นสีหลักกันทั้งหมดเช่นกัน (บุรีรัมย์ ในกรณีของ บุรีรัมย์ เอฟซี อดีตทีมรองของจังหวัดซึ่งภายหลังยุบรวมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แม้แต่ทีมลำดับที่สองของจังหวัด อาทิ นครราชสีมา ที่มี สโมสรนครราชสีมา ยูไนเต็ด เกิดขึ้นภายหลัง ก็ยังใช้สีส้มเป็นสีของสโมสร ซึ่งก็มาจากสีธงประจำจังหวัดไม่ต่างจากทีมใหญ่ของจังหวัด หรือในภาคอื่น ๆ ก็มีให้เห็นกัน อย่างสุพรรณบุรี ที่ธงประจำจังหวัดมีสีส้มเป็นส่วนประกอบก็เคยใช้สีส้มเป็นสีเสื้อเหย้าประจำทีม ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้สีกรมท่าในภายหลัง
ก็ประธานชอบ ใครจะทำไม ?
แม้ว่าเวลาที่เราจะค้นหาสาเหตุของอะไรบางอย่างจำเป็นต้องหาเหตุผลของการกระทำมารองรับ หาความสัมพันธ์ ความสอดคล้อง หรือความสมเหตุสมผลแบบที่ทำในข้างต้น แต่เรื่องบางเรื่องตื้นลึกหนาบางก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ
ซึ่งในกรณีของเสื้อฟุตบอลสีส้มก็เช่นกัน เพราะถ้าประธานสโมสรอยากให้สีเสื้อเหย้าของทีมฟุตบอลเป็นสีส้มก็คงไม่มีใครขัดได้ ซึ่งกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับสองทีมดังของประเทศไทย อย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี
ในส่วนของ เชียงราย ยูไนเต็ด มิตติ ติยะไพรัช ผู้ก่อตั้งสโมสรเชียงราย นั้นได้แรงบันดาลใจในการใช้สีส้มมาจากการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น เรื่อง Orange หรือ พันธุ์เตะเลือดสีส้ม โดยการ์ตูนเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารหนุ่มมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อมีโอกาสได้ทำทีมฟุตบอลจึงไม่ลังเลที่จะใช้การ์ตูนเรื่องนี้มาเป็นสิ่งนำทางแก่สโมสร สมดังคำโปรย “เมื่อหัวใจคุณเคยเป็นสีส้มสักครั้งหนึ่ง มันจะเป็นตลอดไป”
ส่วน ราชบุรี เอฟซี ในตอนแรกเริ่มใช้สีฟ้าซึ่งก็เป็นสีจากธงประจำจังหวัดเป็นสีหลักของสโมสร แต่พอแข่งขันไปแล้วเกิดแพ้ติดต่อกันหลายนัด ทำให้ ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี ตัดสินใจเปลี่ยนจากสีฟ้ามาเป็นสีส้มด้วยเหตุผลที่ว่า
"เพราะสีส้มมันเป็นสีที่ใส่ยาก หมายถึงว่าในชีวิตประจำวันคุณจะไม่ใส่สีส้มกันหรอก ดังนั้นเวลาเราเห็นแฟนบอลใส่สีส้มนั่นก็เพราะพวกเขาอยากใส่มาเชียร์สโมสรจริง ๆ นอกจากนั้นเราก็คิดว่าในฟุตบอลระดับโลกกองเชียร์ฮอลแลนด์เป็นกองเชียร์ที่เด่นที่สุดเสมอ ดังนั้นใจเราก็เลยคิดว่าสีส้มน่าจะเป็นคำตอบ" ธนวัชร กล่าว
สุดท้ายแล้วมีเหตุผลมากมายที่แต่ละสโมสรจะเลือกใช้สีส้มหรือสีอื่น ๆ มาเป็นสีประจำสโมสร ซึ่งจะมีที่มาจากไหนก็คงไม่สำคัญมากไปกว่าการที่สีนั้นสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของสโมสรได้หรือไม่ ซึ่งไม่ว่าจะเลือกสีส้ม, แดง, น้ำเงิน, ฟ้า, เหลือง, เขียว หรือสีใดก็ตาม ขอแค่เป็นสีที่แฟนบอลรักและพร้อมจะใส่เสื้อสีนั้น ๆ ไปเชียร์ทีมรักในทุกสัปดาห์ แค่นั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว