Feature

เหตุผลที่ต้องเดินทางไกล : นักวิ่งระยะสั้นไปฝึกที่สหรัฐฯ จะเก่งขึ้นจริงหรือไม่ | Main Stand

ถือเป็นข่าวที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับกระแสการเดินทางไปฝึกฝนที่สหรัฐอเมริกาของ “บิว” ภูริพล บุญสอน นักวิ่งระยะ 100 และ 200 เมตรดีกรีทีมชาติไทย หลังเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก

 

การพูดคุยว่าเหมาะสมหรือไม่เรื่องการผลักดันนักวิ่งวัย 16 ปีคนนี้ให้ไปฝึกซ้อมที่ประเทศมหาอำนาจแห่งโลกตะวันตกนำมาสู่คำถามว่าการเดินทางไปเก็บตัวที่สหรัฐอเมริกาจะมีประโยชน์มากแค่ไหน เหตุใดจึงไม่สามารถซ้อมอยู่ที่ประเทศไทยได้

Main Stand ขออธิบายถึงสิ่งที่นักวิ่งระยะสั้นจะได้รับเมื่อเดินทางไปฝึกฝนที่สหรัฐอเมริกา พวกเขาจะเก่งขึ้นมากแค่ไหน ? จะเก่งขึ้นจริงหรือไม่ ? ติดตามได้ที่นี่

 

ถึงเวลา Train & Race Smart

เหตุผลหลักที่ทำให้นักวิ่งจากทั่วโลกต้องเดินทางไปเก็บตัวที่สหรัฐอเมริกาก็เป็นเพราะว่าประเทศแห่งนี้มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผูกพันกับกีฬาวิ่งมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้วงการวิ่งอเมริกันมีการค้นพบการพัฒนาเทคนิคและสภาพร่างกายนักกีฬาวิ่งในทุกระดับ ตั้งแต่ นักวิ่งระดับทีมชาติ, นักวิ่งระดับสโมสร, นักวิ่งเยาวชน ไปจนถึงนักวิ่งสมัครเล่นเพื่อการกุศล

เมื่อบวกกับสภาพสังคมทุนนิยมเต็มขั้นของสหรัฐอเมริกา องค์กรเอกชนมากมายจึงหันมาจับธุรกิจกีฬาวิ่งในรูปแบบสถาบันพัฒนาทักษะของนักวิ่ง ส่งผลให้แผนการฝึกซ้อมหรือเคล็ดลับทางเทคนิคที่ควรจะเป็นความลับในแคมป์ทีมชาติสหรัฐอเมริกาถูกเปิดเผยสู่โลกภายนอก แถมยังมีการพัฒนาบริการให้มีคุณภาพมากขึ้นเนื่องจากการแข่งขันที่เกิดขึ้นตามกลไกตลาดเสรี

การเดินทางไปฝึกซ้อมที่สหรัฐอเมริกาจึงไม่เพียงเป็นการเปิดรับความรู้ใหม่ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ยังเป็นการฝึกฝนที่เปิดโอกาสให้นักวิ่งแต่ละคนสามารถพัฒนาจุดแข็งและลบจุดอ่อนของตัวเองได้ตามต้องการ เนื่องจากสถาบันพัฒนาทักษะในรูปแบบเอกชนได้มีการนำเสนอเคล็ดลับและเทคนิคมากมายเกินจินตนาการมาใช้เพื่อตอบโจทย์นักวิ่งทุกระดับและทุกรูปแบบให้ได้มากที่สุด

สำหรับนักวิ่งระยะสั้นพวกเขาสามารถก้าวไปเรียนรู้เทคนิคการวิ่งในทุกมิติ เริ่มต้นจากการฝึกซ้อมที่ไม่เพียงถูกต้องตามตำราแต่ยังเป็นการฝึกซ้อมที่ฉลาดและเหมาะสมกับร่างกาย เพราะการวิ่งระยะสั้นถือเป็นกีฬาที่ใช้ร่างกายค่อนข้างหนัก การฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งโดยยังรักษาร่างกายได้มากที่สุดจึงถือเป็นเทคนิคที่สามารถเรียนรู้ได้จากผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐอเมริกา

เมื่อฝึกซ้อมอย่างฉลาดแล้ว การลงแข่งขันอย่างชาญฉลาดก็ถือเป็นข้อได้เปรียบที่นักวิ่งจะได้รับในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน เพราะเนื่องจากกีฬาวิ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศแห่งนี้ การแข่งขันวิ่งที่เปิดโอกาสให้นักแข่งได้ประลองฝีมือจึงมีเยอะมาก เมื่อบวกกับการมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำได้ว่านักวิ่งควรลงแข่งขันในรายการไหนเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างไร นี่จึงเป็นโอกาสดีที่นักวิ่งจากทั่วโลกจะได้รับในประเทศสหรัฐอเมริกา

Train Smart & Race Smart จึงถือเป็นแนวคิดสำคัญที่นักวิ่งจากทั่วโลกจะได้เรียนรู้ ซึ่งท้ายที่สุดนักวิ่งจะได้พัฒนาฝีมือและความคิดไปสู่อีกระดับ เพราะการได้ฝึกซ้อมและลงแข่งขันท่ามกลางยอดฝีมือในสหรัฐอเมริกาย่อมทำให้นักกีฬามีเป้าหมายที่ทะเยอะทะยานซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของนักกีฬาทุกคน

 

การพัฒนาที่ต้องอาศัยเวลาทดลอง

ไม่เพียงการวิ่งในสหรัฐอเมริกาจะมีแผนการฝึกซ้อมหรือเทคนิคเคล็ดลับเล็กน้อยที่สามารถดึงศักยภาพนักกีฬาออกมาได้มากที่สุด แต่ความล้ำหน้าในส่วนนี้ของพวกเขาไม่ได้จำกัดแค่กับการฝึกสอน (coaching) เท่านั้นแต่ยังรวมถึงปัจจัยหลักส่วนอื่นที่จะช่วยพัฒนานักวิ่งที่มีพรสวรรค์ให้กลายเป็นนักวิ่งที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง ทั้งเรื่องความแข็งแกร่งและการรักษาสภาพร่างกาย รวมถึงการให้ความสำคัญกับโภชนาการที่จะเหมาะสมกับนักกีฬาวิ่ง

เห็นได้ชัดว่าสองปัจจัยหลังที่หยิบยกมาถือเป็นการพัฒนานักกีฬาในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นหลัก ซึ่งการพัฒนาในรูปแบบนี้มักจะจำกัดอยู่ในประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจระดับแถวหน้าเท่านั้น เนื่องจากการพัฒนานักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์ย่อมใช่ต้นทุนมาก แตกต่างจากแบบแผนและเทคนิคการฝึกซ้อมที่สามารถกระจายตัวไปได้ทั่วโลก เนื่องจากเป็นเคล็ดลับที่ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกสอนแต่ละบุคคล แถมยังเป็นแนวความรู้ที่สามารถแพร่หลายได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง

การเดินทางไปเก็บตัวที่สหรัฐอเมริกาของนักวิ่งจากทั่วโลกจึงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ศึกษาเรื่องเล็กน้อยอย่างการลดไขมันในร่างกาย, การฟื้นฟูในช่วงหยุดจากการแข่งขัน, อาหารที่เหมาะสมกับนักวิ่งแต่ละประเภท หรือการได้พูดคุยกับโค้ชที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อยแต่มีความสำคัญมากในวงการกีฬาที่สามารถตัดสินผลได้เพียงเสี้ยววินาทีอย่างกีฬาวิ่ง

อย่างไรก็ตามการจะกอบโกยประโยชน์จากวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เหนือกว่าในสหรัฐอเมริกา นักวิ่งจะต้องเข้าไปคลุกคลีและฝึกฝนอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลานาน เพราะร่างกายของนักกีฬาแต่ละคนแตกต่างกันออกไป และก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์ในรูปแบบอื่นที่การหาผลลัพธ์ที่ถูกต้องย่อมเกิดจากการทดลองซํ้าหลายต่อหลายครั้ง การจะหาวิธีการฝึกซ้อม, วิธีการดูแลร่างกาย หรือการพัฒนาความแข็งแกร่งที่ถูกต้องสำหรับนักกีฬาวิ่งแต่ละคนจึงต้องเกิดขึ้นโดยอย่างใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญในระยะหนึ่ง

การกอบโกยประโยชน์ของความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาซึ่งเข้มข้นกว่าในสหรัฐอเมริกาจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักวิ่งระยะสั้นทุกคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเดินทางไปเก็บตัวภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนย่อมไม่ส่งผลอะไรมากนักกับตัวนักกีฬา การเดินทางไปฝึกฝนที่สหรัฐอเมริกาจึงควรจะเกิดขึ้นในเวลาที่นักกีฬามีความพร้อมที่จะอยู่ที่สหรัฐอเมริกายาวนานนับปี เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาตักตวงความรู้ได้อย่างเต็มที่ และพัฒนาตัวเองจนเป็นนักวิ่งที่ดีกว่าเดิมได้จริง

ดังนั้นแล้วนักวิ่งระยะสั้นจึงมีแต่ประโยชน์หากเลือกไปฝึกซ้อมที่สหรัฐอเมริกา แต่มันก็ต้องเป็นการฝึกซ้อมระยะยาวถึงจะช่วยให้พวกเขาจะได้ฝึกซ้อม, ลงแข่งขัน, เรียนรู้ทักษะ และทดสอบเพื่อหาผลลัพธ์ที่ถูกต้องที่สุดสำหรับนักกีฬารายนั้น หากนักวิ่งยังไม่พร้อมที่จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา การฝึกซ้อมอยู่ที่บ้านเกิด (ในกรณีนักวิ่งบ้านเราคือประเทศไทย) ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะมาตรฐานการฝึกซ้อมในหลายประเทศก็ใกล้เคียงกับประเทศมหาอำนาจมากขึ้นแล้ว

การเดินทางไปฝึกซ้อมที่สหรัฐอเมริกาจึงถือเป็นการเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้ายเพื่อพัฒนานักวิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นสุดยอดนักกีฬาตามแต่ศักยภาพของพวกเขาจะไปถึง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.elle.com/beauty/news/a38577/i-trained-like-a-track-and-field-olympian-for-a-weekend/
https://www.interexchange.org/articles/career-training-usa/2014/09/11/running-culture-in-the-u-s/
https://share.america.gov/running-in-america-popular-inclusive-fun/

Author

ณัฐนันท์ จันทร์ขวาง

Love is not blind – it sees more, not less.But because it sees more, it is willing to see less.

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น