Feature

ชีวิต 20 ปีบนสังเวียนของ 'จอห์น ซีน่า' กับพระเอกตลอดกาลที่ให้ตายก็ไม่เป็นฝ่ายอธรรม | Main Stand

หากคุณเป็นแฟนมวยปล้ำของ WWE ที่ติดตามมาตลอดช่วง 15-20 ปีที่ผ่านมา คำว่า "Cena Sucks" (ไอ้ห่วยซีน่า) คงเป็นคำกล่าวที่คุ้นหูของทุกคนเป็นอย่างดี

 


จอห์น ซีน่า คือเอซของ WWE ยาวนานนับสิบปี ในฐานะหัวหอกของสมาคมเขาสร้างยุครุ่งเรืองพาค่ายขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคู่ควรกับดีกรีแชมป์โลก 16 สมัยอย่างแท้จริง

นอกจากสร้างมิติใหม่ในแง่บวกแล้ว จอห์น ซีน่า ก็กลายเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งคนแรกของ WWE ที่ไม่ได้มีคนเชียร์เยอะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนก็เกลียดเขาก็มากเช่นกัน ชนิดที่เรียกว่า ณ เวลานั้นไม่เคยมีพระเอกของสมาคมคนไหนถูกเกลียดเท่าซีน่ามาก่อน จนถึงกับมีการเรียกร้องจากแฟน ๆ ว่าถ้าซีน่าจะโดนโห่ขนาดนี้ ทำไมไม่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นฝ่ายอธรรมให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

แต่ไม่ว่าจะโดนโห่มากแค่ไหน จอห์น ซีน่า ก็ไม่เคยถูกพลิกบทบาทให้เป็นฝ่ายอธรรม และเลือกจะยืนหยัดพิสูจน์ตัวเองว่า เนื้อแท้ของเขาคือสุดยอดฝ่ายธรรมะที่แฟนทุกคนต้องการ ก่อนที่เวลาจะผ่านมาครบ 20 ปีในวงการมวยปล้ำของ จอห์น ซีน่า คำตอบได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิด

ติดตามเรื่องราวของพระเอกตลอดกาลแห่ง WWE คนนี้ได้ที่ Main Stand

 

จากอธรรมที่ใครก็รัก สู่ธรรมะที่หลายคนเกลียด

เส้นทางการเป็นนักมวยปล้ำของ จอห์น ซีน่า กับสมาคมใหญ่อย่าง WWE เริ่มต้นด้วยการถูกบิวต์ในฐานะนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะใจสู้อนาคตไกล โดยหลังจากเปิดตัวกับค่ายไม่ถึงหนึ่งเดือน เขาก็ได้ชนะนักมวยปล้ำอดีตแชมป์โลกที่เพิ่งเป็นคู่เอกในศึกใหญ่ประจำปีอย่าง เรสเซิลมาเนีย เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้นอย่าง คริส เจอริโก 

ชัดเจนมาตั้งแต่ไกลว่า WWE วาง จอห์น ซีน่า เป็นหนึ่งในอนาคตของสมาคม แต่ด้วยคาแร็กเตอร์นักสู้อันจืดชืดทำให้เขาไม่เป็นที่นิยม จนพอหนุ่มรายนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นฝ่ายอธรรม เขาก็ได้พบกับคาแร็กเตอร์แรปเปอร์ปากเสีย ที่ออกมาแรปด่านักมวยปล้ำคนอื่นแบบไม่รู้จักจบ 

 

 

ถึงจะเป็นตัวโกงด้วยบทบาทบนหน้าจอโทรทัศน์ แต่การเป็นแรปเปอร์อธรรมปากเสียได้เปิดโอกาสให้ จอห์น ซีน่า ได้โชว์เสน่ห์ของเขาออกมา แฟนมวยปล้ำชอบฟังเขาแรปโจมตีนักมวยปล้ำคนอื่น เพราะทุกถ้อยคำในการด่าของซีน่าสามารถไปกระตุกต่อมฮาของแฟนมวยปล้ำได้เป็นอย่างดี 

ภายในระยะเวลาอันสั้น จอห์น ซีน่า จึงกลายเป็นนักมวยปล้ำขวัญใจของแฟน ๆ ทั้งที่เป็นฝ่ายอธรรม จนสุดท้ายในช่วงปลายปี 2003 ซีน่าจึงถูกพลิกกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง เพื่อให้แฟน ๆ เชียร์เขาได้แบบสุดเสียงเต็มที่กันไปเลย 

จอห์น ซีน่า ยังคงรักษาความนิยมของตัวเองไว้ได้แม้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นฝั่งธรรมะ แต่เขาก็ไม่ทิ้งคาแร็กเตอร์ของการเป็นแรปเปอร์ปากเสียที่คอยด่านักมวยปล้ำตัวโกง สร้างความสะใจให้กับคนดูที่ได้เห็นนักมวยปล้ำขวัญใจได้ด่าฝ่ายอธรรมที่แฟน ๆ เกลียดเข้าไส้

ซีน่าได้ปะทะกับเหล่านักมวยปล้ำตัวโกงชั้นนำที่ล้วนเป็นนักสู้ที่คนดูโคตรเกลียด ไม่ว่าจะเป็น บูเกอร์ ที, คาร์ลิโต้ และ เจบีแอล ซึ่งการได้เป็นพระเอกที่ล้มนักมวยปล้ำเหล่านี้ยิ่งทำให้ซีน่าเป็นขวัญใจของแฟน ๆ มากขึ้นไปอีก 

ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปในทิศทางที่ WWE ต้องการ เขาคว้าแชมป์ยูเอสในปี 2004 ก่อนจะก้าวมาคว้าแชมป์โลก WWE ในปี 2005 แถมระหว่างนั้นก็ได้ไปถ่ายภาพยนตร์ The Marine เรียกได้ว่า WWE ได้พระเอกคนใหม่ของสมาคมที่มาสายพระเอกจ๋า ๆ นับตั้งแต่หมดยุคสมัยของ ฮัลค์ โฮแกน ตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90s 

อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญของ จอห์น ซีน่า มาเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2005 หลังจาก WWE ตัดสินใจแล้วว่าจะปั้นให้เขาเป็นนักมวยปล้ำเบอร์ 1 ของสมาคม จึงได้ทำการย้ายเขาจากโชว์รองอย่าง SmackDown ไปสู่โชว์หลักอย่าง Raw เพื่อให้ซีน่าได้มีโอกาสปล้ำกับนักมวยปล้ำเบอร์ดัง ๆ มากขึ้น

เพื่อปรับบุคลิกให้เป็นเป็นหน้าตาของสมาคม จอห์น ซีน่า จึงต้องทิ้งคาแร็กเตอร์ของการเป็นแรปเปอร์ปากเสียของเขาไป และกลายมาเป็นนักสู้ที่จะไม่มีวันยอมแพ้ ตามสโลแกนใหม่ประจำตัวอย่าง Never Give Up และบวกกับบทของการเป็นทหารนาวิกโยธินผ่านภาพยนตร์ The Marine ด้วยเช่นกัน

ในแง่หนึ่งคาแร็กเตอร์นี้ทำให้ จอห์น ซีน่า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ของการสร้างฐานแฟน WWE นั่นคือเด็กและเยาวชนมากขึ้น แต่ในด้านตรงกันข้ามมันก็ทำให้ซีน่าเสียแฟน ๆ กลุ่มผู้ใหญ่ที่เคยชื่นชอบเขาสมัยเป็นแรปเปอร์ปากดีจอมด่าฝ่ายอธรรมไป 

ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ครั้งนี้ทำให้ซีน่าเสียเสน่ห์หลายอย่างที่เคยสร้างให้เขาเป็นที่นิยมของแฟน ๆ ทั้งความกวนและมุมเฮฮาที่หายไป กลายเป็นชายหนุ่มที่ขึงขัง ตั้งใจขึ้นสู้ พูดแต่คำที่ดูพระเอกจ๋าจนโดนแซวว่าเหมือนหลุดมาจากนิยาย ซึ่งมันได้สร้างความขัดใจให้กับแฟน ๆ หลายคนที่เห็นเขาพลิกคาแร็กเตอร์กลับด้านเช่นนี้

แต่ปัญหาที่สำคัญของซีน่าไม่ใช่แค่การถูกเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ ยังรวมถึงความเก่งกาจจนเกินไปของเขายามขึ้นสู้บนเวทีที่แกร่งชนิดที่เรียกได้ว่า ถ้าไม่ถูกโกง เป็นไปไม่ได้เลยที่ จอห์น ซีน่า จะแพ้ในแมตช์การปล้ำ 

ยิ่งประกอบกับการที่เขาย้ายมาอยู่โชว์ Raw ทำให้เขาต้องสู้กับนักมวยปล้ำที่เป็นที่นิยมของผู้ชม ทั้ง คริส เจอริโก, เคิร์ท แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์ และ ทริปเปิล เอช ซึ่งแม้ว่าหลายคนในรายชื่อข้างต้นจะเป็นฝ่ายอธรรม แต่พวกเขาก็เป็นตัวโกงที่มีแฟนส่งเสียงเชียร์ในสนามตลอด 

ซึ่งนักมวยปล้ำเหล่านี้ล้วนเรียงหน้ามาแพ้ให้กับ จอห์น ซีน่า ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะ WWE กำลังสร้างให้ซีน่าเป็นเบอร์ 1 ของสมาคม แต่ที่ไม่ปกติคือแฟน ๆ ไม่ได้อยากเห็นซีน่าชนะนักมวยปล้ำเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อก้าวสู่จุดสูงสุด หรือพูดง่าย ๆ คือคนดูไม่ได้อินกับเนื้อเรื่องในการผลักดัน จอห์น ซีน่า ครั้งนี้ เพราะมันเป็นการเอาชนะนักมวยปล้ำหลายคนที่แฟน ๆ กำลังชื่นชอบ และอยากให้พวกเขาเป็นแชมป์มากกว่า

นั่นจึงทำให้แฟนมวยปล้ำหลายคนมองว่าซีน่าเป็นนักมวยปล้ำที่ถูกโอเวอร์เรตหรือได้รับการผลักดันเกินจริง ซึ่งจากคาแร็กเตอร์นักสู้ผู้ไม่มีวันยอมแพ้ของซีน่าก็ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีบทบาทความแข็งแกร่งบนเวทีมากกว่านักมวยปล้ำคนอื่นจริง ๆ ซีน่าจึงไม่สามารถเลี่ยงข้อครหานี้ได้เลย 

สุดท้ายพอเวลาผ่านไปความแข็งแกร่งของซีน่าที่ยังไม่เคยหายไปไหนจึงทำให้แฟน ๆ บางส่วนไม่ชอบเขา และแสดงความเกลียดชังออกมาด้วยการโห่ โดยไม่สนว่าเขาจะเป็นธรรมะหรืออธรรมก็ตาม

 

ยืนหยัดกับการเป็นฝ่ายธรรมะ 

ในความเป็นจริงแล้ว จอห์น ซีน่า ไม่ใช่นักมวยปล้ำที่แย่ เขามีจุดเด่นในการปล้ำแมตช์สไตล์ฮาร์ดคอร์ สามารถปล้ำหนัก ๆ ทนรับการฟาดกับเก้าอี้ บันได หรือโต๊ะได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวของซีน่าก็สร้างแมตช์คุณภาพออกมาได้ตลอด ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลนักมวยปล้ำยอดเยี่ยมประจำปี 2007 จากสองสื่อใหญ่ของวงการมวยปล้ำทั้ง PWI และ WON 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า จอห์น ซีน่า ได้รับความเคารพจากแฟนมวยปล้ำจำนวนมากเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีแฟนหลายคนที่มองข้ามความดีงามของเขาในฐานะนักมวยปล้ำที่ครบเครื่องทั้งการปล้ำ, เสน่ห์บนเวที และการพูด เพราะบทบาทบนเวทีที่เก่งกว่าคนอื่นมากเกินไป 

อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญของ จอห์น ซีน่า มาเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2008 เมื่อย้อนไปในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซีน่าได้รับบาดเจ็บบริเวณคอจนต้องพักการปล้ำ ก่อนจะมีคิวกลับมาปล้ำอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อปล้ำในศึก Survivor Series

แต่แมตช์การกลับมาของซีน่าไม่ใช่แมตช์ธรรมดา ๆ แต่เป็นแมตช์ชิงแชมป์โลก World Heavyweight กับ คริส เจอริโก และซีน่าก็คว้าแชมป์ได้ทันที 

แมตช์นี้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ อย่างมาก เพราะซีน่ากลับมาปล้ำแมตช์แรกหลังจากพักการปล้ำโดยไม่มีการปูเนื้อเรื่อง และสร้างโมเมนตัมใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กลับเอาชนะเจอริโก้ซึ่งในเวลานั้นคือนักมวยปล้ำอธรรมที่ดีที่สุดใน WWE รวมถึงเป็นนักมวยปล้ำที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2008 อีกด้วย 

นั่นจึงทำให้ความเกลียดชังพุ่งเข้าหา จอห์น ซีน่า แบบเต็มที่ เขากลายเป็นนักมวยปล้ำลูกรักที่มีภาพของการผลักดันเกินหน้าเกินตาจากสมาคมอย่างชัดเจน จนทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่มีทั้งคนรักและคนเกลียดครึ่งต่อครึ่งอย่างชัดเจน 

เมื่อเสียงเฮกับเสียงโห่ที่สลับกันยาม จอห์น ซีน่า ขึ้นปล้ำกลายเป็นเรื่องปกติ ทำให้ในช่วงปี 2009 มีกระแสเรียกร้องจากแฟน ๆ ให้เปลี่ยนซีน่าจากนักมวยปล้ำธรรมะให้เป็นอธรรมตามเสียงโห่ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ของแฟนมวยปล้ำ

เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เวลานักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะได้รับเสียงโห่หนัก ๆ จากแฟนมวยปล้ำ WWE จะตัดสินใจเปลี่ยนนักมวยปล้ำคนนั้นให้กลายเป็นฝั่งอธรรมอยู่บ่อย ๆ แต่กับ จอห์น ซีน่า ไม่มีทีท่าเลยว่านักมวยปล้ำรายนี้จะหันหน้าเข้าสู่ด้านมืด ในทางตรงกันข้ามเขามีแต่จะดูพระเอกมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ว่า WWE ไม่อยากเปลี่ยน จอห์น ซีน่า เป็นฝ่ายอธรรม แต่เป็นตัวของนักมวยปล้ำชื่อดังที่ยืนยันว่า ในชีวิตการเป็นนักมวยปล้ำของเขาจะไม่ยอมกลับไปเป็นนักมวยปล้ำตัวร้ายอีกต่อไปแล้ว

"ช่วงปี 2009 ผมมีอำนาจที่จะต่อรองกับ WWE ผมสามารถกำหนดทิศทางเนื้อเรื่องของผมได้ และผมยืนยันกับพวกเขาว่า ผมจะไม่เป็นฝ่ายอธรรม" 

"ผมคิดว่าเราต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่จะทำให้สมาคมเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ ยังคงกลับมาชมโชว์ของพวกเราอยู่ตลอด" จอห์น ซีน่า กล่าวย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขายืนยันว่าจะไม่ยอมเป็นฝ่ายอธรรม

ในความเป็นจริงแล้วนักมวยปล้ำส่วนใหญ่ชอบที่จะเป็นฝ่ายอธรรมมากกว่าฝ่ายธรรมะ เนื่องจากพวกเขาจะทำงานได้ง่ายกว่า มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจมากกว่า ขณะที่นักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะจะต้องสร้างภาพให้เป็นคนดีอยู่ตลอดเวลาทั้งในและนอกสนาม

แต่ไม่ใช่กับ จอห์น ซีน่า ในด้านหนึ่งเขาคิดถึงภาพใหญ่ของสมาคม WWE เสมอ เขารู้ดีว่าตัวเขาคือสตาร์เบอร์ 1 ของค่าย เป็นคนที่ขายของที่ระลึกได้มากที่สุด เป็นนักมวยปล้ำของสมาคมที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นหน้าตาของสมาคมที่ในเวลานั้นหากนึกถึง WWE ก็ต้องนึกถึง จอห์น ซีน่า 

การพลิกซีน่าเป็นอธรรมจะเป็นการละทิ้งทุกอย่างที่สมาคมสร้างมา ซึ่งอาจจะดีต่อเนื้อเรื่องบนเวทีมวยปล้ำแต่ไม่ดีกับธุรกิจแน่นอน เขาจึงเลือกที่จะเป็นนักมวยปล้ำธรรมะและยอมรับเสียงโห่ต่อไป ถึงจะโดนคนเกลียดแต่เขาก็ช่วยให้สมาคมเดินหน้าต่อและเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้แม้หลายคนจะชอบการเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมเพราะทำงานง่ายกว่า แต่สำหรับซีน่า การเป็นนักมวยปล้ำพระเอกขวัญใจเด็ก ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากใจสำหรับเขา ในทางตรงกันข้ามเขากลับชอบมาก ๆ ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กทั่วโลกทุกคนที่ชื่นชอบในตัวเขา

"ผมรู้สึกสบายใจนะกับสิ่งที่ผมทำ เพราะนี่คือตัวตนที่ผมเป็น … ผมไม่คิดจะต่อรองหรือไปโต้เถียงกับใครก็ตามที่ไม่ชอบผมหรอก มันไม่มีประโยชน์"

"แต่สิ่งที่สำคัญคือ ผมต้องแคร์ทุกคนที่รักผม เพราะพวกเขาจะอยู่กับผมตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม และพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นคนมอบพลังให้ผมสำหรับสร้างสิ่งดี ๆ ใหม่ ๆ ให้กับตัวผมเองและกับทุก ๆ คน" จอห์น ซีน่า กล่าว

ไม่เพียงแค่พูด แต่ซีน่ายังลงมือทำด้วย เพราะเจ้าตัวได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Make-A-Wish ที่ช่วยสานฝันให้กับเด็กผู้ป่วย โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (มิถุนายน 2022) ซีน่าได้สานฝันให้เด็กที่อยากพบเขาสักครั้งในชีวิต ได้เจอตัวจริงแล้วมากกว่า 650 ครั้ง มากกว่าคนดังคนใดบนโลกนี้ที่ร่วมมือกับองค์กรอีกด้วย

 

พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ 

แน่นอนว่าซีน่าก็ยืนหยัดกับการเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะต่อไป พร้อมกับเสียงโห่ของแฟนมวยปล้ำที่ไม่เคยหายไปไหนและมีแต่จะดังขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากบทบาทของ จอห์น ซีน่า ยังคงแข็งแกร่งเหนือมนุษย์และเก่งกาจจนชนะนักมวยปล้ำไม่ซ้ำหน้าต่อไป

จนกระทั่งในปี 2011 ซีเอ็ม พังค์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำคู่แข่งของ จอห์น ซีน่า ในแง่ของความนิยม และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำที่เบียดซีน่าลงจากตำแหน่งนักมวยปล้ำของขายดีเบอร์ 1 ลงได้ 

บวกกับคาแร็กเตอร์ของซีน่าที่ถึงทางตันและไม่มีอะไรใหม่ ๆ มานาน ทำให้ช่วงต้นปี 2012 กระแสเรียกร้องให้ จอห์น ซีน่า เปลี่ยนตัวเองเป็นฝ่ายอธรรมก็เสียงดังอย่างถึงที่สุด 

แต่สุดท้ายก็ไม่มีการเปลี่ยนเป็นฝ่ายอธรรมของซีน่า ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็น ซีเอ็ม พังค์ ที่ต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายอธรรม และซีน่ายังคงยืนหยัดเป็นพระเอกของสมาคมต่อไป

"ผมคิดว่ามันก็เป็นเรื่องที่ตลกดีเหมือนกันที่เราไม่ได้ จอห์น ซีน่า กลับมาเป็นฝ่ายอธรรมเลย ทั้งที่เราทุกคนมีไอเดียอยู่ในหัว และรู้ว่ามันดีแน่ ๆ แต่ก็ไม่มีใครเคยทำให้มันเกิดขึ้น"

"ผมเข้าใจว่าที่มันไม่เคยเกิดขึ้นเพราะซีน่าไม่เคยอยากเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรม และ วินซ์ แม็คแมน ก็มอง จอห์น ซีน่า เป็นพระเอกตัวพ่อเสมอ แต่แฟนมวยปล้ำไม่ได้คิดแบบนั้น"

"สำหรับผมการที่ซีน่าโดนโห่ขนาดนี้มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากนะ ผมอยากให้ทุกคนเปิดใจ ฟังความต้องการของแฟนมวยปล้ำ ผมเชื่อว่า จอห์น ซีน่า จะเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำอธรรมตลอดกาล ถ้าเรากล้าพลิกให้เขาเป็น" จิม รอสส์ อดีตผู้บรรยายมวยปล้ำของ WWE กล่าว 

เสียงโห่ที่ จอห์น ซีน่า ได้รับเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น และเขาก็ยืนเป็นพระเอกของสมาคมมายาวนานจนเรียกได้ว่านานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ WWE ยุคใหม่ นั่นคือยาวนานเป็นสิบปีเลยทีเดียว 

แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อ จอห์น ซีน่า อายุมากขึ้น มันถึงเวลาที่เขาจะต้องถอยหลังเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน ประกอบกับตัวของซีน่าก็อยากจะไปเอาดีทางด้านการแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าสำหรับเขาในตอนนี้

นั่นคือจุดที่ทุกอย่างพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะนักมวยปล้ำที่ WWE ดันขึ้นมาแทนที่ จอห์น ซีน่า อย่าง โรมัน เรนจ์ กลับไม่มีอะไรสู้หรือเทียบเท่าซีน่าได้เลย … WWE พยายามจะปั้น โรมัน เรนจ์ ให้เป็น จอห์น ซีน่า คนต่อไป แต่ทุกอย่างก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เขาปล้ำดีไม่เท่าซีน่า เขาพูดไม่เก่งเหมือนซีน่า และเขาไม่มีเสน่ห์แบบซีน่า และที่สำคัญคือเขาโดนโห่ยิ่งกว่า จอห์น ซีน่า

ในขณะที่เป้าหมายของแฟน ๆ เปลี่ยนไปหา โรมัน เรนจ์ … จอห์น ซีน่า กลับกลายเป็นนักมวยปล้ำขวัญใจของแฟน ๆ อีกครั้ง เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่าต่อให้ซีน่าเป็นนักมวยปล้ำพระเอกที่ดูน่าเบื่อ แต่ก็ไม่มีใครที่เหมาะกับตำแหน่งนี้มากไปกว่า จอห์น ซีน่า อีกแล้ว เขาคือคนที่ทำได้ดีที่สุด และลึก ๆ แฟนมวยปล้ำก็รู้ว่าพวกเขารักผู้ชายคนนี้มากเพียงใด ต่อให้ปากจะโห่เขาอยู่ก็ตาม

เวลาอันชื่นมื่นของแฟนมวยปล้ำกับ จอห์น ซีน่า เกิดขึ้นไม่นานนัก เพราะซีน่าตัดสินใจเลิกเป็นนักมวยปล้ำแบบฟูลไทม์ หันไปเป็นนักแสดงที่นาน ๆ ครั้งจะกลับมาขึ้นสังเวียน ขณะที่แฟน ๆ ไม่มีใครอยากให้เขาจากวงการมวยปล้ำไปเลย

ทุกครั้งที่ จอห์น ซีน่า กลับมา WWE ก็แทบไม่มีเสียงโห่อีกต่อไป หรือถ้ามีก็ไม่ได้เป็นการโห่จากความเกลียดชังเหมือนในอดีต แต่เป็นเพียงการหยิกแกมหยอกเท่านั้น แฟนมวยปล้ำแทบทุกคนให้ความเคารพรักต่อ จอห์น ซีน่า จากใจจริง

ในวันนี้ไม่มีใครสงสัยอีกต่อไปแล้วว่า ทำไม จอห์น ซีน่า ถึงเลือกจะเป็นพระเอก ไม่ยอมเป็นฝ่ายอธรรม ทั้งที่เขาได้รับความเกลียดชังอย่างมาก เพราะ จอห์น ซีน่า คือชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรกับตำแหน่งฮีโร่ของ WWE เป็นนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะเบอร์หนึ่งที่จะมอบความสุขและความสนุกให้กับทุกคน

ล่าสุด จอห์น ซีน่า กลับมาสู่สังเวียนมวยปล้ำอีกครั้งเพียงฉลองการครบรอบ 20 ปีในวงการมวยปล้ำของเขา พร้อมกับเสียงเชียร์ และเสียงปรบมือทั่วสนาม และแล้วเสียงตะโกน "Cena Sucks" ก็ได้เปลี่ยนเป็น "Thank You Cena" (ขอบคุณซีน่า)

 

 

"Larger Than Life" คือหนึ่งในแกนหลักสำคัญของการทำมวยปล้ำแบบ WWE และ จอห์น ซีน่า คือคนแบบนั้น เขาสามารถเป็นแรงบันดาลใจ มอบความสุข และความทรงจำดี ๆ ให้กับคนมากมายทั่วโลก โดยที่หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จอห์น ซีน่า คือส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขาและรักผู้ชายคนนี้อย่างไม่รู้ตัว

จอห์น ซีน่า ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อที่ถูกต้อง เขาเลือกที่จะเป็นนักมวยปล้ำพระเอกโดยไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเป็นฝ่ายอธรรมตามที่หลายคนเรียกร้อง เพราะสุดท้ายแล้วนี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขา จอห์น ซีน่า ที่ทุกคนเห็นในสังเวียนมวยปล้ำ กับ จอห์น ซีน่า นอกสังเวียน คือคนคนเดียวกัน ไม่มีอะไรปรุงแต่ง

นี่คือสิ่งที่ท้ายที่สุดสามารถมัดใจแฟนมวยปล้ำทั่วโลกเอาไว้ได้ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาของ จอห์น ซีน่า เขาได้เลือกทางที่ถูกต้องมอบความสุขให้กับแฟนมวยปล้ำ และที่สำคัญที่สุดเขาได้พาวงการมวยปล้ำให้โด่งดังไปทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในฐานะพระเอกของสมาคมที่โด่งดังที่สุดอย่าง WWE 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

กว่าจะเป็น จอห์น ซีน่า : บทเรียนที่สอนให้รู้ว่า "ถ้าอยากเด่นต้องหาตัวตนให้เจอ"

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.sportskeeda.com/wwe/news-john-cena-discusses-never-turned-heel-wwe#:~:text=John%20Cena%20was%20informed%20in,the%20board%20at%20that%20point.
https://people.com/movies/john-cena-on-his-popularity-kids/
https://www.givemesport.com/1686005-john-cena-why-did-vince-mcmahon-never-turn-him-heel-in-wwe
https://www.wrestlinginc.com/news/2022/06/the-staggering-number-of-make-a-wish-visits-granted-by-john-cena/

Author

ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง

let me fly you to the moon, my eyes have always followed you around the room 'cause you're the only.

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา