ในยุคที่นักเตะไทยเดินทางไปโลดแล่นบนแผ่นดินญี่ปุ่นกันอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แฟนคลับชาวไทยให้ความสนใจตามมาก็คือของที่ระลึกประจำสโมสร รวมถึงสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้อย่าง “เสื้อแข่งขัน” ของทีมที่ผู้เล่นขวัญใจย้ายไปค้าแข้ง
แต่หลายคนต้องผงะเมื่อได้เห็นราคา เพราะเสื้อแข่งของสโมสรในเจลีกแต่ละตัวนั้นเข้าขั้นแพงหูฉี่ บางทีมหากจัดเต็มฟูลออปชั่นสนนราคาก็จะเกินครึ่งหมื่น แพงกว่าเสื้อแข่งของสโมสรในลีกชั้นนำของโลกด้วยซ้ำ
หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดราคาเสื้อแข่งของทีมในเจลีกถึงมีราคาสูงขนาดนี้ แต่ทุกอย่างมีเหตุผลและที่มาที่ไป มาร่วมหาคำตอบได้ที่ Main Stand ?
แพงขนาดไหน
เสื้อแข่งของสโมสรในเจลีก ถูกกล่าวขานกันว่ามีราคาสูงมากเลยทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาแฟนบอลชาวไทยอาจจะไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเริ่มมีนักเตะซูเปอร์สตาร์จากไทยเดินทางไปค้าแข้ง ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และอีกหลายคน
แต่เมื่อเห็นราคาเสื้อของแต่ละทีมแล้วต้องตกใจเพราะเสื้อของแต่ละคนนั้นมีราคาที่สูงถึง 4,000-5,000 บาท ยิ่งเมื่อเทียบกับอัตราค่าแรงของเมืองไทยด้วยแล้ว นับว่าเกือบ 1 ใน 3 ของฐานเงินเดือนคนจบปริญญาตรีเลยทีเดียว
ในขณะที่สโมรในไทยลีกส่วนใหญ่มีราคาเสื้ออยู่ที่ประมาณ 500-900 บาท หรือที่แพงสุดอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ใช้แบรนด์ระดับโลกอย่าง NIKE ก็อยู่ที่ 1,100 บาทเท่านั้น
ที่สำคัญไม่ได้แพงแค่เฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับไทย แต่ยังถือว่าแพงเมื่อเทียบกับลีกระดับท็อปของโลกด้วย เช่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสื้อสำหรับแฟนบอลหรือ Replica Jersey จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 บาท ขณะที่เสื้อเวอร์ชั่นเพลย์เยอร์เกรดเดียวกับที่นักเตะใส่ลงแข่งขัน หรือ Authentic Jersey จะอยู่ที่ราว 4,000-5,000 บาท
แต่สำหรับทีมในเจลีกส่วนใหญ่แต่ละทีมจะจัดจำหน่ายในรูปแบบเดียวคือ Replica Jersey ซึ่งเมื่อเทียบเท่ากับลีกยุโรปก็ยังมีราคาที่สูงกว่าอยู่ดี โดยมีบางแบรนด์อย่าง NIKE และ UMBRO ที่มีจำหน่าย Authentic Jersey ด้วย ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก อยู่ที่ตัวละประมาณ 20,000 เยน หรือราว 5,800 บาท
หากยังไม่เห็นภาพ เสื้อฤดูกาล 2022 ของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล สมัยที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงเล่นให้ ภายใต้แบรนด์ PUMA หากเป็นเสื้อที่สกรีนชื่อพร้อมเบอร์ผู้เล่นแล้วจะมีราคา 20,900 เยน หรือประมาณ 6,045 บาท ขณะที่เสื้อ Authentic Jersey แมนฯ ยูไนเต็ด ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซีซั่น 2021-22 ที่สกรีนชื่อพร้อมเบอร์เช่นกัน ขายบนเว็บไซต์อยู่ที่ราคา 164.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,279 บาท
ขณะที่ในฤดูกาล 2025 เสื้อแข่งของ เซเรโซ่ โอซาก้า ที่ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ไปเล่นให้ ราคาสูงถึง 6,000 บาท ส่วนเสื้อทีม เอฮิเมะ เอฟซี ที่มี เอกนิษฐ์ ปัญญา อยู่กับทีมนั้น เสื้อทีมราคา 4,000 บาท ถ้ามีเบอร์ชื่อด้วย ราคา 4,900 บาท
พูดง่าย ๆ คือเสื้อเกรดแฟนบอลของทีมในเจลีกแพงกว่าเสื้อเกรดผู้เล่นของทีมสโมสรในยุโรปเสียอีก เรียกได้ว่าแพงของจริง แต่ทำไมถึงแพง และทำไมยังขายได้ ติดตามกันต่อได้เลย
คุณภาพต้องมาก่อน
เดิมทีกีฬาฟุตบอลไม่ใช่กีฬายอดฮิตในประเทศญี่ปุ่น ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงอินและให้ความสำคัญกับเบสบอลมากกว่า จึงจะเห็นได้ว่าสินค้าเกี่ยวกับทีมเบสบอลนั้นมีราคาที่สูงยิ่งกว่า กระทั่งทุกอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นหลังจากการเกิดของฟุตบอลลีกอาชีพ หรือ “เจลีก” เมื่อปี 1993 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับทีมชาติญี่ปุ่นและเพิ่มความนิยมให้มีแฟนบอลมากขึ้น
ช่วงแรกทุกสโมสรยังใช้แบรนด์ท้องถิ่นที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก โดยเจ้าตลาดในขณะนั้นคือ Mizuno ซึ่งนอกจากจะผลิตชุดแข่งขันแล้วยังมีรองเท้าสตั๊ดและอุปกรณ์ฟุตบอลอื่น ๆ ด้วย
และอย่างที่ทุกท่านคุ้นเคยกันดีถึงความเป็นญี่ปุ่นที่ทำอะไรแล้วต้องทำให้สุด เมื่อพวกเขามุ่งมั่นเอาดีด้านฟุตบอล ชุดแข่งขันที่ผลิตออกมาจึงได้รับการใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด พิถีพิถันทั้งเนื้อผ้าและการตัดเย็บ เพื่อให้นักเตะได้สวมชุดแข่งที่ดีที่สุดลงวาดลวดลายในสนาม
เพื่อให้ได้เสื้อแข่งขันที่มีคุณภาพดีย่อมหมายถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งวัตถุดิบรวมถึงแรงงานที่ใช้ในการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ในเวลานั้นหลายแบรนด์ยังแปะโลโก้เป็น “Made In Japan” แตกต่างจากสโมสรในยุโรป ที่มีฐานผลิตจากจีนและอาเซียนที่มีอัตราค่าแรงต่ำกว่า
อย่างไรก็ตามแม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่แฟนบอลญี่ปุ่นที่คลั่งไคล้ในทีมรักของตนก็พร้อมจะควักเงินสนับสนุน และเมื่อลีกได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มมีสตาร์ต่างชาติข้ามทวีปมาโชว์ฝีเท้าก็ยิ่งทำให้ฟุตบอลได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เสื้อแข่งขันขายดีขึ้นไปด้วย จนทำให้ช่วงปี 1997 เป็นต้นมา เริ่มมีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น NIKE, ADIDAS, PUMA, UMBRO, NEW BALANCE ฯลฯ
เมื่อเริ่มมีผู้ผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันของแต่ละแบรนด์ก็สูงตาม จะเห็นได้ว่าเสื้อที่ผลิตออกมาล้วนแล้วแต่มีคุณภาพที่ดีขึ้นทั้งการตัดเย็บ เนื้อผ้า รูปทรง ตะเข็บ ตลอดจนลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่แม้จะใช้แบรนด์ใหญ่แต่ก็มีการออกแบบเฉพาะของตัวเอง ไม่ได้ใช้ลายผ้าที่เป็นแพตเทิร์นพื้นฐานเหมือนกับสโมสรในยุโรป
ทว่าความนิยมของเจลีกนั้นมีเฉพาะแค่ในประเทศเท่านั้นไม่ได้แพร่หลายไปประเทศอื่น ๆ ในโลก จึงเป็นปัจจัยต่อมาที่ทำให้เสื้อแข่งขันของพวกเขายิ่งแพงขึ้นไปอีก
Demand & Supply
ความนิยมของเจลีกมีเพิ่มมากขึ้นก็จริงแต่ไม่ได้ถึงขั้นบูมออกไปนอกประเทศ ทำให้กำลังซื้อส่วนใหญ่จะมาจากคนในชุมชนท้องถิ่นที่สโมสรนั้น ๆ ตั้งอยู่เท่านั้น แม้แต่แฟนบอลเองถ้าไม่ใช่สโมสรที่เชียร์ก็ไม่ค่อยที่จะเสียเงินซื้อเสื้อทีมอื่นมาสะสม
ที่สำคัญเสื้อแข่งของพวกเขาไม่ได้ถูกส่งออกไปที่ห้างสรรพสินค้าหรือมีตัวแทนจัดจำหน่ายตามประเทศต่าง ๆ เหมือนสโมสรในยุโรป ยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียยังไม่แพร่หลายด้วยแล้ว การจะสั่งซื้อเสื้อทีมในเจลีกข้ามประเทศสักตัวนับเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
เมื่อกำลังซื้อมีเพียงแค่คนในท้องถิ่น หลายสโมสรจึงต้องทำพรีออเดอร์ให้แฟนบอลสั่งจองล่วงหน้าเพื่อที่จะได้ทราบจำนวนแล้วตั้งสายพานการผลิตให้เหมาะสม เพราะผู้ผลิตต้องการให้มีเสื้อเหลือค้างในสต็อกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อผลกำไรสูงสุดและป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน
การเปิดพรีออเดอร์นั้นหลายทีมมักจะเปิดเพียงแค่ฤดูกาลละ 2 รอบเท่านั้น โดยรอบแรกช่วงก่อนเปิดซีซั่นใหม่ให้แฟนบอลที่เป็นสมาชิกได้จับจองก่อน ส่วนกองเชียร์ขาจรทั่วไปต้องรอในรอบหลัง ซึ่งบางครั้งก็เลยมาถึงเกือบครึ่งฤดูกาลแล้วก็มี
ดังนั้นสโมสรในเจลีกที่เลือกใช้เสื้อแข่งคุณภาพสูงจึงต้องตั้งราคาเสื้อในราคาที่สูงตาม โดยไม่สามารถที่จะทำราคาให้ต่ำลงมาเพื่อหวังกำไรจากยอดขายจำนวนมากได้
หนึ่งในแฟนบอลที่จะเล่าประสบการณ์เรื่องนี้ได้ดีคนหนึ่งก็คือ ณัฐปคัลภ์ กลีบบัว หรือ “อะตอม” แฟนบอลชาวไทยที่หลงใหลในเสื้อสโมสรเจลีกอย่างหัวปักหัวปำ
จากจุดเริ่มต้นที่ได้เห็นทีมชาติญี่ปุ่นลงแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ด้วยยูนิฟอร์มลวดลายไฟอันโดดเด่น ทำให้เขาเริ่มเจาะลึกให้ความสนใจไปที่สโมสรในแดนอาทิตย์อุทัยมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเริ่มสะสมเสื้อทีมในเจลีกเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2011 โดยซื้อเสื้อฤดูกาลใหม่ของ 14 ทีมที่ตัวเองชื่นชอบทุกซีซั่น ทั้งแบบเหย้า เยือน Player และ Replica รวมแล้วปัจจุบันมีเสื้อทีมในเจลีกกว่า 500 ตัวในครอบครอง
“สมัยก่อนการจะซื้อเสื้อสโมสรในเจลีกเป็นเรื่องยากมาก มันไม่ได้อัปเดตเร็วเหมือนทุกวันนี้ ต้องอาศัยดูผ่านนิตยสารรายเดือนหรือรายสัปดาห์ที่เข้ามาในเมืองไทย เวลาจะสั่งซื้อเสื้อก็ต้องพอรู้ภาษาญี่ปุ่นบ้างเพราะเว็บไซต์ทีมในเจลีกส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด”
“สิ่งที่ทำให้เสื้อทีมในเจลีกมีราคาที่แพงยิ่งถ้าเทียบกับทีมในยุโรป สำหรับผมมองว่าเป็นเพราะประเทศญี่ปุ่นทำอะไรจะทำสุด คัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดทุก ๆ รายละเอียด เพียงแต่เสื้อทีมในเจลีกจะมีจำนวนการผลิตที่จำกัด ผลิตออกมาหรือเปิดให้จองแล้วหมดคือหมดเลยไม่ทำซ้ำ รวมถึงค่าเงินเยนที่จะส่งผลกระทบหากสั่งซื้อหรือจัดส่งมาที่ประเทศไทยด้วย” อะตอม เผย
คุณค่าทางจิตใจ
ปัจจัยต่อมาที่ส่งผลให้เสื้อทีมเจลีกมีราคาที่สูงเพิ่มมากขึ้นมา ก็คือการตบเท้าเข้ามาค้าแข้งของซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ดิเอโก ฟอร์ลัน, ฮริสโต สตอยคอฟ, อันเดรส อิเนียสต้า, ลูคัส โพดอลสกี้, เฟร์นานโด ตอร์เรส ฯลฯ
นักเตะเหล่านี้ได้เพิ่มมูลค่าทางการตลาดและช่วยอัปมูลค่าของที่ระลึกให้สูงยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เสื้อ Authentic Jersey ของ อิเนียสต้า ฤดูกาล 2020 ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรวิสเซล โกเบ วางจำหน่ายอยู่ที่ 35,000 เยน หรือประมาณ 10,000 บาท ขณะที่เสื้อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ราคา 164.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,279 บาท
เสื้อของสตาร์เหล่านี้ล้วนส่งผลด้านคุณค่าทางจิตใจและเพิ่มแรงจูงใจให้แฟนบอลตัดสินใจที่จะเลือกซื้อมาเก็บสะสม ถึงแม้ว่าจะเป็นเสื้อมือ 2 แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาด
ขณะที่เสื้อทั่วไปแม้จะมีราคาที่สูงและหาซื้อยากไม่ต่างกัน แต่พอสิ้นสุดฤดูกาลแล้วเข้าสู่ตลาดมือ 2 ราคาจะดรอปลงเกือบ 50% เพราะเสื้อแข่งเหล่านี้ไม่ได้รับความนิยมด้านการสะสมในตลาดมากเท่าไหร่นักโดยเฉพาะในฝั่งยุโรป
นอกเสียจากว่าจะเป็นชุดที่มีความพิเศษจริง ๆ เช่น เป็นเสื้อที่ทีมใส่คว้าแชมป์ หรือเป็นเสื้อที่ปักเบอร์ไอคอนคนสำคัญ ซึ่งยังมีตัวแปรที่ส่งผลถึงราคาทั้งสภาพความสมบูรณ์ของเสื้อ และไซส์เสื้อที่ยิ่งมีขนาดใหญ่ หรือ XL จะยิ่งได้ราคาที่ดีกว่า
เสื้อมือ 2 ส่วนใหญ่ที่พอจะได้รับความนิยมจะถูกนำไปประมูลในเว็บไซต์ ขณะที่เสื้อค้างสต็อกบางส่วนที่ไม่ติดหมายเลขจะนำไปจำหน่ายในงานมีตติ้งแฟนคลับประจำปีในราคาที่ถูกลงเล็กน้อย ส่วนเสื้อที่ไม่ได้รับความนิยมหรือเป็นเสื้อของนักเตะที่แยกทางกับสโมสรได้ไม่ดีจะถูกนำไปเลหลังกองรวมกันตามร้านขายเครื่องกีฬา
ดังนั้นคุณค่าของเสื้อทุกตัวจึงอยู่ที่มุมมองของแต่ละบุคคลมากกว่าเรื่องราคา
“ผมมองว่าเสื้อเจลีกมันมีความ Unique หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ มันมีความเป็นญี่ปุ่นชัดเจน ทั้งลวดลายการออกแบบ ลวดลายสปอนเซอร์ ที่พอเห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นเสื้อของประเทศญี่ปุ่นถึงจะไม่ใช่คนที่ติดตามฟุตบอลก็ตาม ยิ่งถ้าเทียบกับสโมสรในยุโรปบางทีมที่เสื้อมีความคล้ายกัน ทำให้เราอาจไม่รู้เลยว่ามันเป็นเสื้อของทีมลีกประเทศไหน” อะตอม ทิ้งท้าย
แหล่งอ้างอิง :
https://www.footyheadlines.com/2021/12/japanese-kits-are-incredibly-expensive.html?fbclid=IwAR3Gu96s5-Xy7tCMsHEBGNr673dkzh8Qp8Bpy7GQrrbO32vfcuc1VB870iE
https://www.reddit.com/r/JLeague/comments/ehsbj5/why_arent_j_league_jerseys_available_to_buy_in/
https://www.vissel-kobe.co.jp/special/uniform/2020/en/
https://us.store.manutd.com/manchester-united/mens-jerseys/t-14647835+ga-01+d-7883452960+z-9-394356639?pageSize=72&sortOption=HighestPrice