ซอคเกอเร็กซ์ บริษัทผู้จัดกิจกรรมฟุตบอลระดับโลกได้จัดทำรายงาน “ฟุตบอล ไฟแนนซ์” ซึ่งเก็บข้อมูลและจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็งที่สุดในโลกเป็นประจำทุกปี
โดยข้อมูล 5 ด้านที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่
1) มูลค่านักเตะ
2) สินทรัพย์ เช่น สนามแข่งขัน, สนามซ้อม
3) เงินในบัญชีธนาคาร
4) การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม
5) หนี้สิน
ซึ่งจะถูกนำมาคิดคำนวนหาค่าดัชนีการเงินฟุตบอล หรือ Football Finance Index (FFI) เพื่อใช้ค่านี้ในการจัดอันดับว่าทีมไหนที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็งที่สุดในโลก
กาลเวลาผ่านไป หลายสิ่งก็ผันเปลี่ยน โดย 10 สโมสรที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในปี 2019 ประกอบด้วย ...
10. เชลซี
ทีมดังแห่งย่านลอนดอนตะวันตกทีมนี้เคยสั่นสะเทือนวงการลูกหนังในยุค 2000 ต้นๆ กับการทุ่มซื้อหนักจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการหลั่งไหลเข้าวงการลูกหนังของมหาเศรษฐี ทว่าเวลาผ่านไป พลังเงินก็หดหาย ยิ่งมีปัญหาความสัมพันธ์ อังกฤษ-รัสเซีย เข้ามาผสม โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีเจ้าของทีมผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงเจ้าหนี้เพียงหนึ่งเดียวของสโมสรก็ทำอะไรได้ไม่ถนัด แม้จะแก้ลำด้วยการขอสัญชาติอิสราเอลแล้วก็ตาม ส่งผลให้ค่า FFI ของทีมสิงโตน้ำเงินครามมีเพียง 1.89 เท่านั้น และตกจากอันดับ 9 เมื่อปีกลายสู่อันดับ 10 ในปีนี้
สำหรับค่า FFI มีที่มาจาก มูลค่านักเตะ 852 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 167 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 332 ล้านยูโร และ หนี้สิน 576 ล้านยูโร ขณะที่ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร มีอยู่ 9.5 พันล้านยูโร
9. ยูเวนตุส
แม้เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดตลอดกาลของอิตาลีจะสร้างความสั่นสะเทือนวงการด้วยการคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทัพ จนทำให้มูลค่านักเตะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่กลับเห็นชัดกว่าคือ หนี้สินที่เพิ่มขึ้น และสินทรัพย์ของ ตระกูลอันเญลลี่ เจ้าของสโมสรที่ลดน้อยลงกว่าเดิม ด้วยเหตุดังกล่าวจึงส่งผลให้ค่า FFI ลดลงเหลือ 1.96 เช่นเดียวกับอันดับที่ตกจาก 9 เมื่อปีก่อนสู่ 8 ในปีนี้ ถึงกระนั้น ทีมม้าลายก็ยังคงเป็นทีมที่มีการเงินมั่นคงที่สุดในอิตาลีอยู่ดี
โดยค่า FFI มาจาก มูลค่านักเตะ 768 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 164 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 140 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 253 ล้านยูโร และ หนี้สิน 437 ล้านยูโร ขณะที่ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 7.2 พันล้านยูโร
8. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แม้ทีมแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษมากที่สุด 20 สมัย จะเป็นต้นแบบของการนำธุรกิจมาผสานเข้ากับฟุตบอลจนประสบความสำเร็จและให้ทีมอื่นเป็นแบบอย่าง ทว่าการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรของตระกูลเกลเซอร์ตั้งแต่ปี 2005 ก็ได้ทำให้สโมสรแห่งนี้มีหนี้สินอย่างมหาศาล จากการที่เจ้าของใหม่กู้ยืมเงินจากธนาคารมาซื้อ
และแม้จะยังสามารถบริหารหนี้สินได้ดี แต่ดอกเบี้ยที่นับวันมีแต่จะเพิ่มก็ได้ทำให้ตัวเลขหนี้สินของสโมสรพุ่งทะยาน ส่งผลต่อค่า FFI ลดลงเหลือเพียง 1.99 เช่นเดียวกับอันดับที่ตกจาก 7 เมื่อปีก่อน สู่ 8 ในปีนี้ ถึงกระนั้น ทีมปีศาจแดงก็ยังเป็นชื่อที่หอมหวลชวนแก่การลงทุนเช่นเดิม
โดยค่า FFI ของพวกเขานั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 855 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 279 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 331 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 138 ล้านยูโร และ หนี้สิน 751 ล้านยูโร ขณะที่ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 3.93 พันล้านยูโร
7. บาร์เซโลน่า
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมี ลิโอเนล เมสซี่ หนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในปัจจุบันอยู่กับทีมร่วมกับสตาร์ดังๆ อีกหลายราย ทำให้ทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งสเปนกลายเป็นทีมที่มีมูลค่าของนักเตะสูงที่สุดกว่าทีมไหนๆ ซึ่งสามารถเอามาช่วยหักลบกับหนี้สินอันมหาศาล ตลอดจนธรรมชาติของสโมสรซึ่งมีแฟนบอลเป็นผู้ถือหุ้น ทำให้ไม่มีเงินจากนักลงทุนมาช่วยอัดฉีดได้ ทำให้ค่า FFI ที่ 2.05 ดีดทีมดังแห่งแดนกระทิงดุขึ้นจากอันดับ 13 เมื่อปีก่อน สู่อันดับ 7 ในปีนี้
ค่า FFI ของพวกเขานั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 1,143 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 146 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 93 ล้านยูโร และ หนี้สิน 435 ล้านยูโร
6. เรอัล มาดริด
หลายคนเชื่อว่า การสูญเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น่าจะทำให้มูลค่านักเตะของทีมราชันชุดขาวลดลง แต่อันที่จริง ตัวเลขดังกล่าวกลับเพิ่มขึ้น เมื่อทาง ซอคเกอเร็กซ์ ได้ประเมินศักยภาพของแข้งสายเลือดใหม่ที่สโมสรแห่งนี้มีไว้สูงไม่น้อย ขณะเดียวกัน สินทรัพย์ และ เงินในบัญชีธนาคาร ที่มากกว่า ตลอดจน หนี้สิน ที่น้อยกว่าฝั่ง บาร์เซโลน่า ทำให้พวกเขายังคงรักษาอันดับ 6 จากปีก่อนไว้ได้อย่างเหนียวแน่นด้วยค่า FFI 2.38 ซึ่งถือเป็นทีมจากสเปนที่มีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งที่สุดอีกด้วย
โดยค่า FFI ของพวกเขานั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 969 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 333 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 178 ล้านยูโร และ หนี้สิน 294 ล้านยูโร
5. อาร์เซน่อล
หลายคนเข้าใจว่า การเทคโอเวอร์สโมสรจนเป็นของ สแตน โครเอนเก้ โดยสมบูรณ์ 100% น่าจะช่วยให้ไอ้ปืนใหญ่มีตัวเลขความเข้มแข็งทางการเงินสูงกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมกลับนำมาซึ่งหนี้สินที่มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล สวนทางกับมูลค่าสินทรัพย์และเงินในธนาคารที่ลดลง ค่า FFI ที่ 2.43 จึงทำให้อันดับของ “เดอะ กันเนอร์ส” ลดตัวจากอันดับ 2 เมื่อปีกลายสู่อันดับ 5 ในปีนี้
โดยค่า FFI นั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 554 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 492 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 206 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 243 ล้านยูโร และ หนี้สิน 291 ล้านยูโร นอกจากนี้ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร ยังมีมากถึง 6.9 พันล้านยูโร
4. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
แม้การสร้างสนามใหม่ที่จนถึงวันเขียนบทความนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยพร้อมใช้งาน 100% เสียทีจะมาพร้อมกับหนี้สิน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้สินทรัพย์ของสโมสรเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุดังกล่าว ค่า FFI ที่ 2.66 จึงทำให้ทีมไก่เดือยทองเขยิบขึ้นจากอันดับ 5 เมือปีก่อนสู่อันดับ 4 ในปีนี้
ตัวเลข FFI มาจาก มูลค่านักเตะ 554 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 543 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 228 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 115 ล้านยูโร และ หนี้สิน 421 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 3.3 พันล้านยูโร
3. บาเยิร์น มิวนิค
ดูเหมือนว่าการที่มี อาดิดาส, ออดี้ และ อัลลิอันซ์ 3 บริษัทยักษ์ใหญ๋ของเยอรมนีเป็นผู้ถือหุ้น 25% จะเกิดดอกออกผลเอาในปีนี้ เมื่อมีการนำเอาสินทรัพย์ของเจ้าของสโมสรมาคิดคำนวณเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับการลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม ไม่เพียงเท่านั้น ผลประกอบการของทีมเสือใต้ยังถือว่าสุดหรู เพราะไม่เพียงแต่จะไม่มีหนี้ แต่สโมสรแห่งนี้ยังสร้างกำไรได้มากถึง 85 ล้านยูโร
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ค่า FFI ที่ 2.67 สามารถดันราชันลูกหนังเมืองเบียร์ขึ้นจากอันดับ 10 เมื่อปีก่อน สู่อันดับ 3 ในปีนี้อย่างสมาคภูมิ
สำหรับค่า FFI ของทีมนั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 828 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 252 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 151.9 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 118 ล้านยูโร และ กำไร 85 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 3.3 พันล้านยูโร
2. ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความมั่งคั่งทางการเงินของกลุ่ม QSI (Qatar Sports Investments) ส่งผลให้เปแอสเชก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสจนถึงตอนนี้ และจากการที่ QSI เป็นส่วนหนึ่งของ QIA (Qatar Investment Authority) ซึ่งรัฐบาลกาตาร์เป็นเจ้าของ เมื่อบวกกับมูลค่านักเตะที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ทำให้ค่า FFI ที่ 3.84 นำทีมขึ้นจากอันดับ 3 เมื่อปีกลาย สู่อันดับ 2 ของสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุด
โดยที่มาของค่า FFI นั้นแบ่งเป็น มูลค่านักเตะ 820 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 99 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 88.1ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 941 ล้านยูโร และ หนี้สิน 37 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร ซอคเกอเร็กซ์ ประเมินไว้สูงมากๆ ถึง 268,800 ล้านยูโรเลยทีเดียว
1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดอาจจะไม่ใช่สโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดก็จริง แต่ก็ยังถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเมื่อรวมกับสินทรัพย์เจ้าของสโมสรที่มีอย่างมหาศาล และมูลค่านักเตะที่เพิ่มสูงขึ้นจากการครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลอังกฤษช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทีมเรือใบสีฟ้ามีค่า FFI สูงที่สุดด้วยคะแนน 4.21
โดยแบ่งเป็น มูลค่านักเตะ 1,058 ล้านยูโร, สินทรัพย์ 471 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 21 ล้านยูโร, การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 647 ล้านยูโร และ หนี้สิน 80 ล้านยูโร ยิ่งไปกว่านั้น สินทรัพย์เจ้าของสโมสร ยังมีสูงถึง 24,700 ล้านยูโร ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้ารักษาตำแหน่งสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดอีกสมัย
แหล่งที่มา
http://mysoccerex.com/Soccerex_Football_Finance_100_2019_Edition.pdf