Feature

11 แข้งดาวรุ่งผลงานดี “แจ้งเกิด” ในฤดูกาล 2023/24 | Main Stand

เดินทางเข้าใกล้สู่ช่วงโค้งสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 

 


โดยในฤดูกาลปัจจุบัน มีเรื่องราวที่น่าสนใจให้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้พูดถึงอยู่เยอะแยะ มากมาย แต่หนึ่งเรื่องราวที่กลายเป็นประเด็นน่าสนใจมากเป็นอันดับต้นๆ นั่นคือผลงานของ เหล่านักเตะ “ดาวรุ่ง” ที่โชว์ฟอร์มการเล่นออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ผลักดันตนเองขึ้นมา แจ้งเกิดให้เห็นหลายต่อหลายคน

และในวันนี้ Main Stand ได้จัดแผนการเล่น 11 นักเตะ “ดาวรุ่ง” หน้าใหม่ที่ขึ้นมาแจ้งเกิด ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกในการลงเล่นศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีใครอยู่ในลิสต์นี้กันบ้าง ร่วมติดตามไปพร้อมกัน

 

 

[เจมส์ แทรฟฟอร์ด - James Trafford]

อดีตผู้รักษาประตูเด็กปั้น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น ในศึกฟุตบอลยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นส่วนสำคัญพาทัพ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ คว้าแชมป์ไปครอง ด้วยผลงานการเล่นที่โดดเด่นของเจ้าตัวในรายการดังกล่าว เป็นที่มาให้ เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่แต่หน้าเก่าของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัดสินใจทุ่มเงินราวๆ 17 ล้านปอนด์ คว้าตัว เจมส์ แทรฟฟอร์ด ไปร่วมทีม

แม้ว่าในเวลานี้ เบิร์นลีย์ จะรั้งอยู่ในอันดับรองสุดท้ายของตาราง แต่ฟอร์มการเล่นของ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ถือว่าตรงกันข้ามกับผลงานของทีมอยู่พอสมควร โดยในเวลานี้ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ติดอยู่ในอันดับที่ 4 ของตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ “เซฟบอล” มากที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเซฟไปทั้งหมด 106 ครั้ง ตามหลังอันดับ 1 อย่าง โทมัส คามินสกี้ ผู้รักษาประตูของ ลูตัน ทาวน์ อยู่เพียง 6 ครั้งเท่านั้น

 

[คอนเนอร์ แบรดลีย์ - Conor Bradley]

ในช่วงที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาเท้าชั่งทองของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้รับอาการบาดเจ็บอยู่ในขณะนี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่า คอนเนอร์ แบรดลีย์ แบ็คขวาวัย 20 ปี ของทีมที่ได้รับโอกาสในการลงสนามแทน จะสร้างผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เหนือคำบรรยายมากขนาดนี้ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งของทีม ที่เหล่ากองเชียร์สาวก “เดอะค็อป” ต่างให้การยอมรับถึงฟอร์มการเล่นของเด็กหนุ่มรายนี้

โดยในฤดูกาล 2023/24 คอนเนอร์ แบรดลีย์ มีส่วนร่วมในการส่งสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้วรวมทุกรายการทั้งหมด 20 นัด ทำประตูให้กับต้นสังกัดไปได้ทั้งหมด 1 ประตู และ แอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมไปอีก 7 ครั้ง

 

[เทเดน เมนจี้ - Teden Mengi]

จากนักเตะที่ดูเหมือนจะหมดอนาคตไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ เทเดน เมนจี้ เนื่องจากเขา ไม่เคยได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้แต่นัดเดียว ทั้งที่ในทีมเยาวชนของทัพ “ปีศาจแดง” เขาเป็นถึงขั้นกัปตันทีมและกองหลังตัวหลักมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเลือกที่จะอำลาทีม และย้ายไปอยู่กับ ลูตัน ทาวน์ ทีมน้องใหม่ใน ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

และดูเหมือนว่าการตัดสินใจย้ายทีมในครั้งนี้ของเขา จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างมาก สำหรับ เทเดน เมนจี้ เพราะว่าเขากลายเป็นนักเตะ “คนสำคัญ” ที่ต้นสังกัดขาดไปไม่ได้แล้ว
ในชั่วโมงนี้ และด้วยผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขานั้น เป็นที่มาให้หลายสโมสรในประเทศ
อังกฤษต่างให้การจับตามองที่จะดึงตัวดาวเตะร่างยักษ์วัย 21 ปีรายนี้ไปร่วมทีม

 

[จาเรลล์ ควอนซาห์ - Jarell Quansah]

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าในฤดูกาล 2023/24 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จำเป็นที่จะต้อง ผลักดันนักเตะดาวรุ่งจากทีมเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่หลายต่อหลายคน เนื่องจาก ปัญหาสภาพทีมที่หมุนเวียนกันได้รับอาการบาดเจ็บแบบไม่ขาดสาย

ซึ่งนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ เฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูล มากที่สุด คงหนีไม่พ้นชื่อของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ปราการหลังดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่ในฤดูกาลปัจจุบัน ได้รับความไว้วางใจให้ยืนจับคู่ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟเคียงข้างกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีมชาวเนเธอร์แลนด์ โดยในฤดูกาล 2023/24 จาเรลล์ ควอนซาห์ ได้รับโอกาสในการลงสนามไปมากถึง 30 นัด จากทุกรายการ

 

[จาร์แรด แบรนธ์เวท - Jarrad Branthwaite]

ในฤดูกาล 2022/23 จาร์แรด แบรนธ์เวท เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 20 ปี ถูกปล่อยตัวออกไปหา ประสบการณ์เพิ่มเติมกับสโมสร พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ซึ่งเขากลายเป็นส่วนสำคัญของทีม ในการพาต้นสังกัดจากแดนกังหันลมจบในอันดับที่ 2 ของตารางศึกฟุตบอลลีกสูงสุด ประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในปีดังกล่าวมาครองได้สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้เองเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ ฌอน ไดซ์ เฮดโค้ชของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจเลือกเก็บ จาร์แรด แบรนธ์เวท เอาไว้ใช้งานเองในฤดูกาล 2023/24 และไว้เนื้อเชื่อใจ นักเตะดาวรุ่งผู้นี้มอบตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักของทีม ซึ่งผลงานโดยรวมของเขา เรียกได้ว่า “โดดเด่น” เป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีชื่อไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย

 

[แจ็ค ฮินเชลวูด - Jack Hinshelwood]

ในฤดูกาลที่ผ่านมา โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ เฮดโค้ชของไบรท์ตัน ปลุกปั้นสตาร์ดาวรุ่งเด็กปั้น ของทีม อย่าง อีวาน เฟอร์กูสัน ศูนย์หน้าวัย 19 ปี ให้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในศูนย์หน้า “วันเดอร์คิด” ฝีเท้าอันดับต้นๆของศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งในฤดูกาลปัจจุบันเฮดโค้ชฟอร์มแรงรายนี้ ได้ปลุกปั้น เด็กดาวรุ่งขึ้นมาสู่ทีมอีกหนึ่งรายนั่นคือ แจ็ค ฮินเชลวูด ดาวเตะสารพัดประโยชน์วัย 18 ปี

ซึ่งในเวลานี้เจ้าหนู แจ็ค ฮินเชลวูด กลายเป็นหนึ่งในนักเตะตัวหลักของทีมได้เป็นที่เรียบร้อย โดยจุดเด่นของเขาที่นอกเหนือจากการเล่นได้หลายตำแหน่งทั้ง แบ็กขวา, แบ็กซ้าย และ กองกลางตัวรับ นั่นคือการที่มักจะขึ้นไปมีส่วนร่วมในการทำประตูให้ได้อยู่บ่อยครั้ง ผลงานส่วนตัวของเขาดีงามเกินต้านถึงขั้นที่ว่า โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ ออกมายกย่อง แจ็ค ฮินเชลวูด ว่าเป็น “หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาเคยคุมทีมมา”

 

[ค็อบบี้ ไมนู - Kobbie Mainoo]

ถ้าให้พูดถึง “เรื่องดี” เพียงไม่กี่เรื่องของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023/24ปัจจุบัน เชื่อว่าเหล่า กองเชียร์สาวก “ปีศาจแดง” คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันนั่นคือ การขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของ ค็อบบี้ ไมนู กองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่ได้รับโอกาสจาก เอริค เทน ฮาก เฮดโค้ชชาว เนเธอร์แลนด์ ที่มอบโอกาสให้กับดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้

ซึ่ง ค็อบบี้ ไมนู โชว์ผลงานส่วนตัวได้อย่างเป็นที่ประจักษ์อย่างมาก กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถขาดไปได้แล้วในชั่วโมงนี้ และด้วยสไตล์การเล่นที่ “เก่งเกินอายุ” ของเจ้าตัว ส่งผลให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เรียกตัวเจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู ไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย 

 

[ลูอิส ไมลีย์ - Lewis Miley]

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาล 2023/24 เนื่องจาก เกมการแข่งขันที่ต้องลงแข่งหลายรายการมากขึ้น ส่งผลให้นักเตะภายในทีมหลายคน ต่างทยอยกันได้รับอาการบาดเจ็บหายหน้าหายตาในการลงสนามให้กับทีม

ซึ่งเป็นที่มาทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว เฮดโค้ชของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องผลักดันนักเตะดาวรุ่งของทีม อย่าง ลูอิส ไมลีย์ กองกลางดาวรุ่งวัย 17 ปี ให้ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ เพื่อทดแทน การขาดหายไปของรุ่นพี่ภายในทีม 

อย่างไรก็ตาม ลูอิส ไมลีย์ ไม่มีความตื่นสนามใด ๆ ทั้งสิ้น โชว์ผลงานฝีเท้าออกมาได้อย่างสม่ำเสมอกลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆไปแล้วในตอนนี้ และนอกเหนือจากการลงสนามที่อายุน้อยของเจ้าตัวแล้ว เขายังจารึกสถิติเป็นนักเตะที่ทำประตู ด้วยอายุน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมา

 

[ไซม่อน อดินกร้า - Simon Adingra]

ริมเส้นตัวจี๊ดวัย 22 ปีรายนี้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้งกับ ไบรท์ตัน หลังจากถูกปล่อยตัว ออกไปหาประสบการณ์เพิ่มเติมในฤดูกาลที่ผ่านมากับสโมสร ยูนิยง แซงต์ ชิลลัวส์ ในประเทศเบลเยี่ยม ก่อนจะโชว์ผลงานในการยืมตัวได้อย่างร้อนแรง มีส่วนร่วมในการทำประตูไปมากถึง 20 ประตู และยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในปีดังกล่าวไปครอง

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว เป็นสาเหตุให้ โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ เฮดโค้ชของ ไบรท์ตัน เลือกที่จะเก็บดาวเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ใช้งานเองในฤดูกาลปัจจุบัน และด้วยสถานการณ์ในตำแหน่งริมเส้นทั้ง 2 ฝั่งของทีมทั้ง คาโอรุ มิโตมะ, ซอลลี่ มาร์ช และ อันซู ฟาติ ที่มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้โอกาสดังกล่าวตกไปอยู่ที่ ไซม่อน อดินกร้า และไม่เคยทำให้เฮดโค้ชผู้นี้ต้องผิดหวังแม้แต่น้อย เขามีส่วนร่วมในการ ทำประตูให้กับทีมไปมากถึง 10 ประตูจากการลงสนามไปทั้งสิ้น 22 นัด

 

[โรดริโก้ มูนิซ - Rodrigo Muniz]

แม้ว่าในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าของ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ในฤดูกาลปัจจุบันจะมีทั้ง ราอูล ฆิเมเนซ ศูนย์หน้าประสบการณ์สูง และ อาร์มันโด้ โบรย่า ศูนย์หน้าดาวรุ่งที่ยืมตัวมากจาก “สิงห์บลูส์” เชลซี แต่ในปัจจุบันตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงกับกลายเป็นทางด้านของ โรดริโก้ มูนิซ ศูนย์หน้าเชื้อสายแซมบ้า วัย 22 ปี ที่ในช่วงหลังฟอร์มแรงขึ้นมาแบบน่าเหลือเชื่อ ทำประตูไปทั้งหมด 7 ประตู จากการลงสนาม 7 นัดหลังสุด

ด้วยความมีสัญชาตญาณในการจบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมของเจ้าตัว บวกกับรูปร่างที่สูงใหญ่ และเก็บบอลไว้ที่ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้แฟนบอลของทัพ “เจ้าสัวน้อย” ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โรดริโก้ มูนิซ เปรียบเสมือนเป็น “ตัวตายตัวแทน” ของ อเล็กซานดร้า มิโตรวิช อดีตศูนย์หน้าตัวความหวังของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ตัดสินใจ อำลาต้นสังกัดย้ายไปเล่นอยู่ที่ลีกซาอุดีอาระเบีย 

 

[ออสการ์ บ็อบบ์ - Oscar Bobb]

เด็กหนุ่มชาวนอร์เวย์วัย 20 ปีรายนี้เริ่มได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นให้กับทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงหลังที่ผ่านมา แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะยังได้ลงสนามในฐานะผู้เล่น ตัวสำรองเพียงเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ ออสการ์ บ็อบบ์ ได้โอกาสในการลงสู่สนาม เขามักจะ เค้นศักยภาพออกมาให้เฮดโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เห็นอยู่บ่อยครั้ง

และดูเหมือนกับว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะชื่นชอบในฟอร์มการเล่นและทัศนคติส่วนตัวของเจ้าหนู ออสการ์ บ็อบบ์ เป็นอย่างมาก ดูจากการที่เขามักจะออกมา “ชื่นชม” เด็กหนุ่มรายนี้ผ่านสื่อ ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่รอช้ารีบจรดปากกาต่อสัญญาระยะยาวเป็นเวลา 6 ปีให้กับเจ้าตัวเป็นที่เรียบร้อย

 

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ