การประกาศจัดโชว์คอนเสิร์ตรายละ 6 รอบที่สิงคโปร์ของสองศิลปินซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Coldplay และ Taylor Swift สร้างแรงสั่นสะเทือนระดับแผ่นดินไหวไปทั่วอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายหลัง ที่ปักหมุดหมายมาแสดงสดในถิ่นเมอร์ไลออนเพียงแห่งเดียวในภูมิภาค ขณะที่ยอดทีมฟุตบอลขวัญใจคนทั่วโลกอย่าง ลิเวอร์พูล ก็เลือกสนามกีฬาแห่งชาติที่สิงคโปร์เป็นเวทีอุ่นเครื่องปีที่ 2 ติดต่อกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาแฟน ๆ ชาติอาเซียนอื่นต้องเปิดศึกแย่งชิงตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตกันแบบดุเดือดจนเว็บไซต์จองตั๋วถึงกับล่ม นับเป็นอีกครั้งที่คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) และรัฐบาลสิงคโปร์ ประสบความสำเร็จในการนำศิลปินระดับโลกและอีเวนต์ความบันเทิงต่าง ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมตอกย้ำสถานะศูนย์กลางแห่งกิจกรรมความบันเทิงฝั่งเอเชียตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดเมื่อปี 2009
กระทรวงการท่องเที่ยวและรัฐบาลสิงคโปร์ มีส่วนอย่างไรกับงานอีเวนต์ระดับโลกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศของพวกเขา Main Stand จะพาไปหาคำตอบกัน
เหตุเกิดจากคอนเสิร์ต Coldplay
ปกติแล้ว สิงคโปร์ ถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายของบรรดาศิลปินต่าง ๆ ที่แวะมาเปิดคอนเสิร์ตเป็นประจำเมื่อพวกเขาจัดเอเชีย ทัวร์ นอกเหนือจากประเทศใหญ่ เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ฮ่องกง ที่ต้องไปอยู่แล้วเพราะกำลังสนับสนุนทางเม็ดเงินที่แน่นหนา ขณะที่ภาคอาเซียนนอกจากสิงคโปร์ จุดหมายที่ศิลปินแวะมาเล่นคอนเสิร์ตกันบ่อย ๆ ก็มีทั้ง มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ ประเทศไทย
แต่แล้วเมื่อปฏิทินพลิกมาถึงปี 2023 แผ่นดินสิงคโปร์กลับลุกเป็นไฟอย่างเร่าร้อนเมื่อ Coldplay วงป็อปร็อกชั้นแนวหน้าของอังกฤษ เดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตชื่อ "Music Of The Spheres World Tour" โชว์ในระดับ สเตเดียม ทัวร์ (ทัวร์ที่เล่นในสนามกีฬา) ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ วันที่ 23-24 และ 26-27 มกราคม ปี 2024 ซึ่งก็มีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมและมีแฟน ๆ ไปต่อคิวซื้อตั๋วทั้งแบบออนไลน์และหน้าเคาน์เตอร์กันยาวเหยียด โดยเฉพาะฝั่งออนไลน์ที่ต่อคิวรอบนเว็บไซต์มากกว่า 1,000,000 คิว แฟนเพลงบางคนจึงแทบเป็นลมที่เห็นคิวตัวเองอยู่ที่ 8 แสนกว่า
การประกาศเล่นคอนเสิร์ต 4 วันบนแผ่นดินสิงคโปร์ ทำให้สาวกของ Coldplay ตั้งคำถาม เพราะศิลปินที่แวะมาเล่นคอนเสิร์ตในเอเชียส่วนใหญ่มักเล่นกันเยอะสุดแค่ 2-3 รอบ ทว่าปริศนายังไม่ทันกระจ่าง ตั๋วคอนเสิร์ตทั้ง 4 วันของ คริส มาร์ติน และผองเพื่อน ก็ถูกจับจองเกลี้ยงไปแล้วภายในวันเดียว และในเวลาไม่นานเจ้าของเพลงฮิต Yellow กับ Fix You ก็ประกาศเพิ่มโชว์อีกสองรอบ เป็นวันที่ 30-31 มกราคม 2024 นั่นเท่ากับว่าพวกเขาจะเล่นคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ถึง 6 รอบ ซึ่งไม่เคยมีศิลปินต่างประเทศตัวท็อปเบอร์ไหนโชว์ในอาเซียนเยอะเท่านี้มาก่อน
และแม้ว่า Coldplay จะเพิ่มโชว์อีก 2 รอบ แต่กระแสตอบรับของแฟนเพลงก็ยังคงรุนแรงเช่นเดิม เมื่อบัตรเข้าชมโชว์ทั้ง 2 รอบเปิดขายและหมดเกลี้ยงในวันเดียว ส่วนประเทศอื่นกระแสตอบรับก็ดีเช่นกันทั้ง ฟิลิปปินส์ ในวันที่ 19 มกราคม 2024 ที่ฟิลิปปินส์ อารีนา กับ ประเทศไทย ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ที่บัตรขายหมดตั้งแต่วันแรกจนต้องเพิ่มรอบในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 รวมเป็นสองรอบ ส่วน มาเลเซีย รับหน้าที่เปิดหัวโชว์ย่านอาเซียนในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2023 ที่สนามบูกิต จาลิล
เหตุผลที่บัตรคอนเสิร์ต Coldplay ในย่านอาเซียนขายหมดทุกประเทศ ส่วนหนึ่งเพราะ Coldplay ได้ชื่อว่าเป็นวงที่จัดคอนเสิร์ตได้อลังการและมีโปรดักชั่นจัดเต็มทั้งแสงสีเสียง เวที รวมถึงมีการจุดพลุยิ่งใหญ่แบบไม่มีกั๊ก เพลงฮิตก็มีให้ร้องตามเพียบ ประกอบกับมีข่าวลือว่า Coldplay จัด World Tour หนนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะพวกเขาเปรยว่าจะยุบวงเพราะความอิ่มตัว นั่นเลยทำให้แฟน ๆ ย่านอาเซียนต้องต่อสู้แย่งชิงตั๋วเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งในโชว์ประวัติศาสตร์ และเข้าไปร้องเพลงฮิตของพวกเขาทั้ง 9 อัลบั้มร่วมกันอีกสักครั้งเป็นการอำลา
ฝันที่เป็นจริงของ "สวิฟตี้ อาเซียน" ที่เดียวที่ ... สิงคโปร์
เปลวไฟแห่งความร้อนแรงของ Coldplay ยังไม่ทันมอด พายุเฮอร์ริเคนก็พัดเข้ามาถล่มสิงคโปร์อีกระลอกเมื่อ เทย์เลอร์ สวิฟต์ สุดยอดป็อปสตาร์หญิงอันดับ 1 ของอเมริกา ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตย่านอาเซียนอีกครั้งในรอบ 9 ปี กับทัวร์โปรโมตอัลบั้ม The Eras Tour ที่กระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 หลังจากเธอกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง จนบัตร Sold Out ทุกเวที
เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทำให้ชาว "สวิฟตี้" ย่านอาเซียนตื่นเต้นกันมาก เพราะเธอไม่ได้แวะมาทัวร์ย่านนี้นานแล้วนับตั้งแต่ทัวร์อัลบั้ม The 1989 World Tour เมื่อปี 2015 ทว่าการประกาศเล่นคอนเสิร์ตหนนี้ทำให้แฟนเพลงรู้สึกเจ็บปวดเสียใจ เพราะเธอประกาศว่าจะเดินทางมาเล่นที่สนามกีฬาแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 2-4 มีนาคม ปี 2024 พร้อมดอกจันตัวโต ๆ ว่า "โชว์ประเทศเดียวในอาเซียน"
นั่นเลยทำให้เว็บไซต์จองตั๋ว Ticketmaster ของสิงคโปร์ลุกเป็นไฟเพราะมีแฟนเพลงของเธอมาสมัครสมาชิก ลงทะเบียนรอลุ้นโอกาสซื้อตั๋วกันเป็นจำนวนมากจนทะลุ 1 ล้านรายชื่อจนเว็บไซต์ล่มไปเลยชั่วขณะ และด้วยกระแสตอบรับที่แรงเกินห้ามใจ ป็อปสตาร์หญิงจากเพนซิลวาเนียจึงประกาศเพิ่มการแสดงอีก 3 รอบ เป็นวันที่ 7-9 มีนาคม ปี 2024 เท่ากับว่าทัวร์สิงคโปร์รอบนี้เธอจะแสดงทั้งหมด 6 รอบเช่นเดียวกับ Coldplay วงป๊อปรุ่นพี่ที่แวะมาเล่นก่อนเธอ
แม้ความจริง เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะมีโปรแกรมเล่นคอนเสิร์ต The Eras Tour ที่โตเกียวโดม ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ ปี 2024 รวมทั้งสิ้น 4 โชว์ แต่ด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางและราคาที่พักในประเทศหัวแถวในเอเชียนั้นสูง ทำให้แฟน ๆ ของเทย์เลอร์ที่อาศัยอยู่ในอาเซียนส่วนใหญ่ เลือกที่จะไปชมการแสดงของเธอที่สิงคโปร์มากกว่า เนื่องจากความสะดวกในเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเที่ยวที่ไม่รุนแรงเท่าญี่ปุ่นและอยู่ใกล้กว่า ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไม่นาน
ด้วยตัวศิลปินที่ยังได้รับความนิยมระดับสูงอยู่ในจุดพีกของอาชีพ มีผลงานเพลงฮิตมากมายจาก 10 อัลบั้ม และมีแฟนเพลงที่พร้อมสนับสนุนทั่วทุกทวีป ดังนั้นจึงไม่ต้องบอกเลยว่าสงครามแย่งชิงตั๋วคอนเสิร์ต The Eras Tour ตลอด 6 โชว์ที่สิงคโปร์ดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหน แถมยังสร้างความมั่งคั่งทางธุรกิจให้แก่สิงคโปร์แบบมหาศาลไปด้วยในตัว
"หงส์แดง" อุ่นเกือกที่สิงคโปร์ 2 ปีติด
นอกจากคอนเสิร์ตสุดอลังการของสองศิลปินบิ๊กเนม สิงคโปร์ก็ยังมีอีเวนต์เอาใจคนดูบอล โดยเฉพาะสาวกของ ลิเวอร์พูล เมื่อยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาเปิดสังเวียนช่วงพรีซีซั่น ลงแข่งที่สนามกีฬาแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์ สองนัดคือการเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2023 และดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา วันที่ 2 สิงหาคม 2023 ซึ่งก็ได้รับกระแสที่ดีมี "เดอะ ค็อป" ฝั่งเอเชียตีตั๋วเข้าไปชมกันมากมาย
ถือเป็นครั้งที่สองติดต่อกันแล้วที่ลิเวอร์พูลมาอุ่นเครื่องที่สิงคโปร์ หลังจากปี 2022 แวะมาดวลกับ คริสตัล พาเลซ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ วันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งก่อนหน้านั้นในวันที่ 12 กรกฎาคม พวกเขาก็มาฟาดแข้งศึกแดงเดือดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ประเทศไทย จนเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของงานอีเวนต์กีฬาในไทย
เรื่องน่าสนใจก็คือ สิงคโปร์คือประเทศเดียวที่ทีมของ เยอร์เกน คล็อปป์ แวะมาเตะพรีซีซั่นในปี 2023 นอกจากแฟนบอลจะรู้สึกคุ้มค่าตั๋วที่ได้เห็น "หงส์แดง" ฟาดแข้งกับทีมชั้นนำภายใต้บรรยากาศอันคึกคักที่สนามกีฬาแห่งชาติ พวกเขาก็จะได้ใช้เวลาปรับตัวทำความคุ้นเคยกับนักเตะใหม่ที่เพิ่งเสริมมาอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิก โซบอสไล และลองระบบการเล่นใหม่ ๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่เปิดมาก็บิ๊กแมตช์เลยคือการไปเยือน เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริจด์ ในวันที่ 13 สิงหาคม
ด้วยศักยภาพของสิงคโปร์ที่จัดงานอีเวนต์ยักษ์ใหญ่มากมาย รวมถึงเป็นสังเวียนที่ลิเวอร์พูลคุ้นเคยเพราะปักหมุดมาเตะที่ประเทศนี้หลายครั้งแล้ว แถมตัวสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ก็เพียบพร้อมด้วยคุณภาพ รองรับความจุได้มหาศาล เดินทางสะดวกด้วยขนส่งสาธารณะต่าง ๆ แถมยังปลอดภัย ทำให้ไม่น่าแปลกใจหากเราจะเห็นลิเวอร์พูลเลือกมาอุ่นเครื่องที่แดนเมอร์ไลออนกันอีกหลายครั้ง
ยกระดับสิงคโปร์สู่ฮับความบันเทิงแห่งอาเซียน
นอกจากภาคเอกชนที่เป็นส่วนประกอบหลักสำหรับการดีลศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกประการคือการสนับสนุนจาก คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) และรัฐบาลสิงคโปร์
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ที่ คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ได้แสดงวิสัยทัศน์เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจไว้ว่า พวกเขามีเป้าหมายกำหนดให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางแห่งกิจกรรมและความบันเทิงแห่งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการนำศิลปินชื่อดังระดับโลกมาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศ หรือจัดอีเวนต์กีฬาต่าง ๆ ด้วยจุดประสงค์คือสร้างการจดจำในฐานะ "ศูนย์กลางแห่งความบันเทิงในเอเชีย" รวมถึงกระตุ้นภาคเศรษฐกิจของประเทศ
แอชลีน ลู ผอ.ฝ่ายพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว และหนึ่งในคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ เปิดเผยว่าที่ผ่านมาอีเวนต์ต่าง ๆ ทั้งกีฬาและคอนเสิร์ต ทาง STB ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนทำงานกับผู้จัดงานอย่างใกล้ชิด พร้อมเสนอแนะไอเดียต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งในแง่ตัวเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวและการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ต่าง ๆ ให้พร้อมรองรับแขกบ้านแขกเมือง และสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้จัดงานระดับโลกไว้วางใจเลือกจัดงานที่สิงคโปร์ต่อไป
"กลยุทธ์ของเราก็คือการทำให้สิงคโปร์อยู่ในสถานะประตูสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมของเรา การเชื่อมต่อที่ดีกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค มีวัฒนธรรมและธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงการนำเสนออีเวนต์คุณภาพสูงสู่สายตาผู้บริโภค ทั้งหมดนี้จะทำให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับผู้จัดงาน" แอชลีน ลู กล่าว
หลักฐานสำคัญที่ช่วยให้สิงคโปร์เป็นที่ยอมรับในสายตาคนทั่วโลกคือการจัดแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฟอร์มูล่า วัน ที่ทางภาครัฐบาล การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ และเอกชน จับมือกันเจรจากับทาง FIA เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ F1 มาตั้งแต่ปี 2008 และปัจจุบันคือสังเวียนแข่ง F1 แห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน หลังประเทศมาเลเซียจัดแข่ง F1 ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017
ซึ่งผลที่ออกมาก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทั้งการแข่งขันที่มีเอกลักษณ์ ดวลความเร็วบนถนน มาริน่า สตรีท เซอร์กิต ยามค่ำคืน วางแทร็กให้รถวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มีผู้เข้าชมหลัก 3 แสนคนตลอดสัปดาห์ ก่อนตบท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลกที่สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีเช่น Linkin Park, Maroon 5, MUSE, Liam Gallagher, Red Hot Chili Peppers, Gwen Stafani, John Williams ซึ่งศิลปินบางรายเลือกมาเล่นที่สิงคโปร์ที่เดียวในอาเซียนเท่านั้น สิ่งนี้บ่งบอกว่าพวกเขามองเห็นความสำคัญของสิงคโปร์มากเพียงใด
เสถียรภาพทางการเมืองที่ศิลปินมั่นใจ
ไม่ว่าศิลปินคนไหนก็อยากจะมาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศที่มีการเมืองดี เพราะมันจะทำให้พวกเขาและเธอขึ้นแสดงบนเวทีได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล เห็นได้ชัดเจนคือคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่เมืองไทยเมื่อปี 2014 ในช่วงเวลาที่เธอกำลังโด่งดังสุดขีดกับอัลบั้ม RED ที่มีเพลงโคตรฮิตทั้ง Red, 22, Begin Again ฯลฯ เวลานั้นสวิฟตี้ชาวไทยโรมรันแย่งชิงตั๋วคอนเสิร์ตที่ อิมแพ็ค อารีน่า กันสุดเดือด แต่สุดท้ายคอนเสิร์ตกลับต้องยกเลิกเพราะการทำรัฐประหารของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปีดังกล่าว
เหตุการณ์รัฐประหารครั้งที่ 13 ในเมืองไทย ส่งผลให้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ต้องประกาศแสดงความเสียใจกับแฟนเพลงที่ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยกับแฟนเพลงและตัวศิลปิน จนกลายเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตศิลปิน เพราะไทยแลนด์คือประเทศเดียวที่เธอประกาศยกเลิกจัดคอนเสิร์ตตลอดการดำรงชีพเป็นศิลปิน และหลังจากนั้นประเทศไทยก็ไม่อยู่ในแผนที่สำหรับทัวร์คอนเสิร์ตของเทย์เลอร์อีกเลย
ตัดภาพมาที่งานคอนเสิร์ตต่าง ๆ ในสิงคโปร์ นอกจาก STB และภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญแล้ว ภาครัฐบาลของสิงคโปร์ก็มีส่วนช่วยผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงแห่งเอเชียเช่นกัน ภายใต้การนำของ ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพสูง โดย ดร.บาร์กาธันนิชา อาบู บาการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรการท่องเที่ยวของสตรีในสิงคโปร์ มองว่าประเทศของเธอมีความมั่นคง ปลอดภัย และมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วน คริสโตเฟอร์ คู ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของบริษัท MasterConsult Services วิเคราะห์ว่า การที่สิงคโปร์เปิดรับโชว์ทุกรูปแบบ เสื้อผ้าหน้าผมที่ศิลปินจัดได้เต็มที่ โอบรับความหลากหลายทั้งเรื่องเพศและศาสนา ทำให้ศิลปินต่าง ๆ รู้สึกสบายใจในการปักหมุดเปิดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ ขณะที่ทาง อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย เคยมีการร้องเรียนเรื่องศิลปินและแดนเซอร์แต่งกายไม่เหมาะสม ไม่เปิดรับผู้คนกลุ่มเพศทางเลือกมากนักเพราะขัดต่อหลักศาสนาอิสลามที่คนส่วนใหญ่นับถือ แม้กระทั่งเพลงฮิตบางเพลงหากมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศหรือการเมืองก็จะโดนสั่งไม่ให้เล่นเช่นกัน
"ทั้งหมดเลยกลายเป็นว่า โดยทั่วไปแล้วสิงคโปร์เป็นสถานที่ ๆ เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการเปิดคอนเสิร์ตของศิลปิน" คริสโตเฟอร์ คู ระบุ
การฟื้นคืนทางเศรษฐกิจหลังยุคโควิด
มองในส่วนการท่องเที่ยวหลังการประกาศคอนเสิร์ตของ Coldplay และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ถือว่าประสบผลตั้งแต่โชว์ยังไม่เริ่ม Agoda แพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ชื่อดังที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีเปิดเผยว่า หลังจากที่ Coldplay ประกาศแสดงสด 6 โชว์ที่สิงคโปร์และบัตรขายหมดไปแล้ว ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากคลิกเข้ามาจับจองโรงแรมที่พักกันเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8.7 เท่า โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแฟนเพลงจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ ประเทศไทย แต่ก็ยังมี อินเดีย, เวียดนาม, ฮ่องกง รวมถึงสหรัฐอเมริกา เข้ามาใช้บริการจับจองด้วย
เรื่องนี้ เอ็นริค คาซาลส์ รองประธานของ Agoda ฝั่ง SEA เผยว่า "การจองที่พักที่สูงขึ้นในช่วงนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงแรงดึงดูดใจที่ไม่อาจปฏิเสธได้สำหรับการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลก และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้แฟนเพลงของพวกเขาตัดสินใจออกเดินทาง ความทุ่มเทของแฟนเพลงนั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริง ๆ เพราะต่อให้เดินทางไกลแค่ไหนพวกเขาก็ยินดีที่จะเดินทางไปเพื่อชมโชว์ของศิลปินคนโปรด"
เช่นเดียวกับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทันทีที่ประกาศโชว์ 6 รอบ แพลตฟอร์มจองที่พักทั้ง Agoda กับ Booking.com ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการกันถล่มทลายทั้งที่ยังไม่ประกาศขายบัตร พร้อมเสียงบ่นจากแฟนเพลงที่เห็นว่าที่พักต่าง ๆ ในสิงคโปร์ฉวยโอกาสอัพราคาให้สูงขึ้นในช่วงที่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะมาเปิดคอนเสิร์ต เช่นจากเดิมค่าที่พัก 3 วัน 2 คืน ราคารวมแล้วไม่ถึงหลักหมื่นบาท กลับถูกอัพเพิ่มทะลุ 12,000 บาทไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกันรัฐบาลสิงคโปร์ยังมีส่วนอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในเรื่องการควบคุมราคาขายบัตรคอนเสิร์ตให้อยู่ในราคาที่เป็นมิตรที่ไม่แพงเกินเอื้อม ยกตัวอย่างคอนเสิร์ต Coldplay บัตรราคาเริ่มต้นที่ 68 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1,890 บาท) ขณะที่ตั๋วยืนด้านล่างราคา 168 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 4,670 บาท) ส่วนตั๋วนั่งแพงสุดจะอยู่ที่ 298 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 8,280 บาท) แตกต่างกับคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศในเมืองไทยที่ส่วนใหญ่มักเปิดราคาบัตรที่ 2,000 บาทขึ้นไป
ลองจินตนาการว่าสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ที่จุคนได้มากถึง 55,000 ที่นั่ง แล้วคอนเสิร์ตของ Coldplay กับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ จัดทั้งหมดรายละ 6 รอบ เท่ากับว่าในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ปี 2024 มีการประเมินว่าสิงคโปร์จะได้อ้าแขนรับแฟนเพลงในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางแวะมาชมคอนเสิร์ตของทั้ง 2 ศิลปินรวมกันแล้วกว่า 660,000 คน และแน่นอนว่าชาวต่างชาติย่อมไม่ได้มาแค่ดูคอนเสิร์ตอยู่แล้ว แต่จะต้องแวะเที่ยวสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในประเทศ ลิ้มลองสตรีทฟู้ดข้างทางอันเป็นเอกลักษณ์ และจับจ่ายใช้สอยซื้อของฝากกลับบ้าน จนเกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว
การได้ทั้ง Coldplay และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาเปิดคอนเสิร์ตในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงบอลกระชับมิตรของ ลิเวอร์พูล และการแข่งขัน F1 ที่กลับมาจัดแข่งตามปฏิทินเดิมได้แล้ว ถือเป็นช่วงเวลาทองของสิงคโปร์อย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในมืออย่างมีประสิทธิภาพ บวกกับความมีเสถียรภาพทางการเมืองที่ภาครัฐสนับสนุน จนสามารถดึงดูดศิลปินและอีเวนต์กีฬาระดับโลกให้มามอบความบันเทิงในประเทศได้ในโมงยามที่พวกเขากำลังต้องการเม็ดเงินมหาศาลเพื่อฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจให้กลับมาแข็งแกร่งสมกับการเป็นประเทศแนวหน้าของ SEA อีกครั้ง
ทั้งหมดนี้จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมสิงคโปร์ถึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮับแห่งความบันเทิงแห่งเอเชีย ซึ่งคำนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด และพวกเขาจะเป็นหมุดหมายสำคัญของงานอีเวนต์ระดับโลกอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า รอติดตามกันได้เลย
แหล่งอ้างอิง
https://www.straitstimes.com/singapore/s-pore-economy-gets-boost-from-shows-by-stars-like-taylor-swift-coldplay-and-jacky-cheung
https://theindependent.sg/top-musical-acts-from-coldplay-to-taylor-swift-in-singapore-are-part-of-governments-effort-to-make-sg-the-events-entertainment-capital-of-asia/
https://www.channelnewsasia.com/singapore/concerts-singapore-coldplay-taylor-swift-tickets-venue-3579936
https://mothership.sg/2023/06/coldplay-concert-ticketing-singapore/