Feature

เลื้อยผ่านที่แคบ: "เลี้ยงบอลแบบอิเนียสต้า" ท่านี้ท่านได้แต่ใดมา ? | Main Stand

มีนักเตะไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่หากคุณบอกว่าเขาคือ "โคตรบอล" ทุกคนจะเห็นด้วยแบบแทบไม่มีข้อโต้แย้ง ... หนึ่งในนั้นคือ อันเดรส อิเนียสต้า นักเตะชาวสเปนที่เพิ่งแขวนสตั๊ดไปในวัย 40 ปี 

 


หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ อิเนียสต้า ได้รับการยกย่งให้เป็นโคตรบอลก็เพราะว่าวิสัยทัศน์ในการมองเกมล่วงหน้าของเขา และเมื่อเวลาบอลอยู่กับเท้า เขาคือนักเตะที่ "สั่งได้ดั่งใจ" บอลอยู่กับเท้าเมื่อไหร่หยุดยากเสมอ 

โดยท่าหนึ่งที่เขาใช้ประจำ คือการลากบอลแบบใช้เท้าสองข้างในการแหวกผ่านพื้นที่แคบ ๆ นี่คือ "ซิกเนเจอร์ มูฟ"(Signature Move) ที่มีเบื้องหลังซ่อนอยู่

ติดตามเรื่องทั้งหมดที่ Main Stand 

 

ต้องยกให้ ลา มาเซีย 

"ลา มาเซีย" ไม่ใช่สถานที่แต่คือผู้คน นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานแข้งและเฮดโค้ชของ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจนำเรื่องการสร้างศูนย์เยาวชนให้กับประธานสโมสรในช่วงปี 1979 ด้วยการเสนอให้รื้อระบบเดิมออกไปจนหมด และเอาแม่แบบจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตทีมของเขามาเป็นพิมพ์เขียว ท่านประธานในเวลานั้น โจเซป นูนเญซ เคาะโต๊ะตอบรับทันทีและให้ชื่อมันว่า "ลา มาเซีย" ซึ่งกลายเป็นศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้

ในขณะที่ บาร์เซโลน่า สร้างตำนานโลกลูกหนังอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนสต้า และ ลิโอเนล เมสซี่ พวกเขาก็ยังไม่พอใจแค่นั้น เพราะเด็กทุกคนที่อยู่ใน ลา มาเซีย ต้องไม่ใช่แค่เก่งกาจในสนาม แต่พวกเขายังต้องเติบโตมาเป็นคนคุณภาพด้วย ที่ ลา มาเซีย จึงมีการสอนทุกอย่างเพื่อให้เด็กๆ เพื่อมีความรู้ นอกจากนี้เด็กทุกคนต้องถูกปลูกฝังให้ภูมิใจในความเป็นตัวแทนของชาว "กาตาลัน" อีกด้วย

กว่าเด็ก ๆ จาก ลา มาเซีย จะถูกโปรโมตขึ้นชุดใหญ่พวกเขาต้องผ่านบททดสอบมากมาย อย่างแรกเลยคือเรื่องของระเบียบวินัย หน้าที่หลัก ๆ ของพวกเขาคือตื่นมาทำกิจวัตรเดิม ๆ ทุกวัน ได้แก่การตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย กินอาหารเช้า เรียนหนังสือ และกินข้าวกลางวัน ก่อนจะเลิกเรียนตอน 17:00 น 

เมื่อเรียนเสร็จ เด็ก ๆ จาก ลา มาเซีย จะมีเวลาให้พักราว ๆ ครึ่งชั่วโมง และจากนั้นพวกเขาจะได้ซ้อมฟุตบอลในสนามลากยาวไปจนถึง 20.00 น. และเข้านอนตอน 22.30 น. ไม่เกินนี้ 

มองดูแล้วก็อาจจะไม่ต่างจากโรงเรียนกินนอนที่สนับสนุนเรื่องฟุตบอลเป็นหลักทั่วไป ทว่าสิ่งที่ บาร์เซโลน่า และ ลา มาเซีย แตกต่างคือ พวกเขามีโมเดลการสอนที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น 

ทักษะการครอบครองบอล การเล่นกับบอล และการเรียนรู้ปรัชญาของฟุตบอลของสโมสรที่ประกอบด้วยหลัก ๆ 4 ข้อได้แก่ ความมุ่งมั่น, การถ่อมตน, การให้ความเคารพ และการให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ก ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เด็กทุกคนถูกสอนเป็นอันดับแรก ๆ ในแง่ของด้านฟุตบอลล้วน ๆ  ซึ่งถ้าคุณมองวิธีการเล่น และการปฏิบัติตัวของ อันเดรียส อิเนียสต้า นับตั้งแต่วันที่เขานัดแรกให้กับ บาร์เซโลน่า จนถึงวันที่เขาอายุ 40 ปี ... สิ่งสำคัญที่กล่าวมาทั้งหมดสะท้อนออกมาในอาชีพของเขาโดยแท้จริง

เรื่องความมุ่งมั่น ถ่อมตน ให้ความเคารพ และทำงานแบบทีมเวิร์ก คือจุดเด่นของ อิเนียสต้า มาเสมอ ที่เหลือเป็นสิ่งที่โดดเด่นเฉพาะตัวที่เขาถูกฝึกมาเป็นพิเศษในฐานะผู้เล่นเกมรุกในแบบ บาร์เซโลน่า ที่เขาต่อยอดเอาเองจากประสบการณ์จริงที่ได้เจอในแบบที่ว่ายิ่งมีโอกาสได้เล่นมากขึ้น ทักษะการเอาตัวรอด และวิสัยทัศน์ในการเล่นเกมรุกของเขาเฉียบแหลม และความเยือกเย็นไม่ตื่นตระหนกในสถานการณ์ที่กดดันสุด ๆ แม้กระทั่งการโดนรุม ... ในช่วงพีก ๆ อิเนียสต้า ทำสิ่งแบบนี้โดยที่ไม่มีใครหยุดอยู่ และแน่นอนมันทำให้เขามีสถิติการเสียบอลน้อย ๆ ในแต่ละเกม และเรื่องนี้มีเคล็ดลับ

 

เลี้ยงเก่ง แต่อย่าคิดถึงมันเป็นอันดับแรก

อิเนียสต้า ไม่ใช่นักเตะที่ขึ้นชั้นสู่ชุดใหญ่มาแล้วเก่งเลยในทันที สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมและให้เครดิตเขาคือ เขาเรียนรู้จากสิ่งที่เจอ ปรับตัวจากสิ่งรอบตัว เพื่อให้เจอตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดสำหรับนักเตะในตำแหน่งกองกลางตัวรุก เมื่อเข้าใจบทบาทหน้าที่ และเข้าขากับเพื่อนร่วมทีม เขาไม่จำเป็นต้องเลี้ยงบอลจี้ ใช้สปีดเข้าใส่คู่แข่งตลอดเวลา มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจว่าเวลาไหนควรทำอะไร และเวลาไหนที่ไม่ควรทำสิ่งใด

เดิมทีนักเตะตัวรุกของ บาร์เซโลน่า ที่เป็นคนขับเคลื่อนเกมก่อนหน้า อิเนียสต้า คือ โรนัลดินโญ่ สไตล์ของ โรนัลดินโญ่ อย่างที่ทุกคนต่างรู้และทราบกันดี ความสนุก ความตื่นเต้น เอนเตอร์เทน เร้าใจ ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อบอลอยู่กับเท้าของยอดแข้งชาวบราซิเลี่ยน  

โรนัลดินโญ่ มีความเร็วสูงมากและคล่องแคล่วมากในเวลาเดียวกัน เขาจึงชอบที่จะพาบอลเข้าไปดวล 1-1 กับคู่ต่อสู้แบบไม่ลังเล ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่เขาเลี้ยงเข้าใส่คู่แข่ง ภาพในหัวของ โรนัลดินโญ่ มีไม่รู้กี่แบบที่จะเลี้ยงผ่านคนที่ขวางอยู่ข้างหน้าของเขา การคาดเดาไม่ได้คือความบันเทิงที่โลกฟุตบอลได้รับการวิธีการเล่นของ โรนัลดินโญ่ มาเสมอ 

ทว่าเมื่อ โรนัลดินโญ่ เริ่มศักยภาพเสื่อมถอย ร่างกายไม่ดีเหมือนเดิม ก็เป็นช่วงจังหวะเดียวกันที่ อิเนียสต้า ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่ทัพในการเคลื่อนเกมรุกของ บาร์เซโลน่า เต็มตัวผ่านการทำงานแบบเป็นทีมเวิร์กร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี เอร์นานเดซ และ ลิโอเนล เมสซี่

ฟุตบอลของ อิเนียสต้า แตกต่างกับ โรนัลดินโญ่ ตรงที่อาจจะไม่ได้คล่องแคล่วและเร้าใจเท่า แต่เรื่องของความเล่นง่าย ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเบสิคฟุตบอล ทุกอย่าดูนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน ฟุตบอลของ อิเนียสต้า มีความเป็นทีมเวิร์กมากกว่า ทว่าเมื่อถึงฉากที่เขาต้องโชว์ต้องฉาย อิเนียสต้า ก็มีความคลาสสิกในแบบเฉพาะตัวให้แฟน ๆ ได้ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เสมอ 

"ในฐานะกองกลางตัวรุก ผมมองหาผู้เล่นที่จะส่องบอลไปต่อเสมอ และมันต้องทำไปพร้อม ๆ กับการสแกนดูรอบ ๆ ว่ามีใครอยู่รอบตัวคุณบ้าง ผมให้ความสำคัญมากตรงจุดนี้ ถ้าผมเห็นว่ามีคู่แข่งกี่คนอยู่รอบตัว และคนไหนอยู่ใกล้ผมที่สุด ผมจะเอาตัวรอดจากพวกเขาได้ด้วยวิธีการแตะบอลให้ห่างจากพวกเขา" อิเนียสต้า เริ่มเผยวิธีการเอาตัวรอดในที่แคบ ๆ ที่เราได้เห็นเป็นประจำ 

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าทุกการแตะบอลของเขาเวลาอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ เกิดขึ้นเพื่อการเอาตัวรอด และพยายามหาเพื่อนให้มากขึ้นเพื่อทำให้เขาส่งบอลได้ง่ายขึ้น เพราะคติแรกที่เขาคิดเสมอคือการจ่ายบอลเสียให้คู่แข่งคือสิ่งที่เป็นเหมือนเรื่องต้องห้ามในปรัชญาของฟุตบอล บาร์เซโลน่า 

"ทุก ๆ การจ่ายบอลแต่ละครั้งคือสิ่งที่สำคัญมาก การเสียบอลง่าย ๆ จะทำให้ทีมของคุณต้องกดดัน กลับกันถ้าคุณทำได้แม่นยำในจังหวะเท้าสู่เท้า คู่ต่อสู้จะไม่สามารถแตะต้องคุณได้เลย นี่คือสิ่งที่พวกเราถูกสอนมาเสมอ"

"ถ้าคุณต้องการครองบอลเพื่อรักษาจังหวะเกมให้ครองบอลและเล่นปลอดภัย เล่นง่าย ๆ ไว้ก่อน แต่ถ้าคุณต้องการประตู คุณต้องหาพื้นที่ พยายามจ่ายบอลไปข้างหน้า และขยับเคลื่อนที่ให้มากเข้าไว้ แน่นอนที่สุดในยุคของผม (ที่ บาร์เซโลน่า) เราเล่นด้วยกันมาเป็นเวลานานในระบบหนึ่ง ทุกคนจึงรู้ว่าต้องเคลื่อนที่ไปที่ไหน นั่นทำให้การทำงานของผมง่ายขึ้น"

"ผมไม่ต้องมองก็สามารถรู้ได้ว่าคนที่ผมต้องเล่นด้วยและเชื่อมบอลด้วยตลอดอย่าง ชาบี และ เมสซี่ จะอยู่ตรงไหน" อิเนียสต้า ว่าเช่นนั้น 

เขาไม่ใช่คนที่ชอบเลี้ยงบอลและเก็บบอลไว้กับตัวมากนักถ้าไม่จำเป็น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจาก โรนัลดินโญ่ หรือ เมสซี่ ที่พยายามจะเอาชนะในสถานการณ์ 1-1 อยู่ตลอด  

ทว่าหากถึงช่วงสำคัญที่ต้องทำแบบนั้นจริง ๆ เขาก็ฝึกหนักและเรียนรู้มากพอที่จะเอาตัวรอดด้วยการเลี้ยงบอลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  และแน่นอนว่ามันไม่เป็นสองรองใครเลยในสไตล์การเลี้ยงบอลในแบบของเขา 

 

อิเนียสต้า ซิกเนเจอร์มูฟ

เรื่องการเลี้ยงบอลและเอาตัวรอดแบบ อิเนียสต้า ที่เราได้เห็นประจำเกิดจากการฝึกจาก ลา มาเซีย โดยเฉพาะ นั่นคือการฝึกเรื่องคอนโทรลฟุตบอลด้วยเท้าทั้งสองข้างให้มีความเชี่ยวชาญเท่า ๆ กัน เพราะถ้าคุณสามารถเลี้ยงบอลได้ทั้ง 2 เท้า มันจะเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับคู่แข่งที่จะคาดเดาและดักทางว่าคุณจะเลี้ยงบอลไปทางไหน

เพียงแต่ว่านอกจากทักษะการครองบอลที่ดีแล้ว สิ่งที่ อิเนียสต้า ฝึกเสมอก็คือการฝึกไหวพริบและการคิดเร็วทำเร็ว ซึ่งถ้าสองอย่างสอดคล้องกัน บวกกับมีเพื่อนที่ขยับมารับบอลในพื้นที่สวย ๆ ว่าง ๆ ตลอด ก็จะทำให้เกิดการ "ครองบอลแบบไล่ไม่จน" ที่ อิเนียสต้า แสดงให้เห็นประจำ 

"หลัก ๆ แล้วการเลี้ยงบอลของผมคือการพยายามทำให้ฝั่งตรงข้ามกำลังคิดว่าผมจะไปอีกทางหนึ่ง จากนั้นเมื่อเขาขยับ ผมก็จะเลือกทางอื่นที่พวกเขาเปิดช่อง" อิเนียสต้า เล่า 

"คุณต้องเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนที่ลูกฟุตบอลจะมาถึงคุณแล้ว ผมยกตัวอย่างที่ตัวของผม ผมนั้นหนักแค่ 63 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนักขนาดนี้ผมเข้าปะทะกับใครตรง ๆ ไม่ได้ ดังนั้นผมพยายามจะรักษาระยะห่างของตัวเองกับคู่แข่งเอาไว้เสมอหากมีโอกาส"

"เพราะเมื่อคุณอยู่ห่างจากพวกเขา ผมจะมีเวลากลับตัว พลิก หรือม้วนไปทางอื่น ๆ ได้เร็วกว่าพวกเขามาก หลายครั้งที่ผมเล่นกับผู้เล่นที่ตัวใหญ่กว่าผมมักจะใช้วิธีแบบนี้ เพราะพวกเขามีความคล่องแคล่วน้อยกว่า" 

"ยิ่งถ้าคุณมีเพื่อนร่วมทีมคอยเข้ามาช่วยเล่นในจังหวะ วัน-ทู คุณจะผ่านพวกเขาได้ง่ายกว่าเดิม และถ้าคุณใช้วิธีเหล่านี้ผ่านพวกเขาได้แล้ว 1 ครั้ง พวกเขาจะเริ่มไม่กล้าที่จะเสียบสกัด จุดนี้แหละมันจะทำให้คุณมีพื้นที่และมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก"

สิ่งที่เขาอธิบายทั้งหมดมันแทบจะไม่ต้องมโนภาพอะไรเลย เพราะตอนที่เขาลงเล่น โดยเฉพาะในช่วงกับ บาร์เซโลน่า เขาแสดงวิธีการเล่นแบบนี้ออกมาประจำ ฟุตบอลง่าย ๆ ของเขาทรงประสิทธิภาพอย่างที่สุด และถ้าคุณสังเกตให้ดี อิเนียสต้า มักจะพูดถึงเรื่องการจ่ายบอลและการเล่นกับเพื่อนร่วมทีมเสมอ เพราะนั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการผ่านคู่แข่งหรือคู่ประกบของเขาได้โดยที่เขาไม่ต้องเลี้ยงบอลให้เสี่ยงต่อการโดนเตะ หรือการเปลืองตัวเปล่า ๆ 

เพียงแต่ว่าทุกอย่างถูกฝน เรียนรู้ และทำซ้ำอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาแทบไม่มีจุดอ่อนเมื่อบอลอยู่กับตัว เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องเลี้ยงจริง ๆ เขาจึงสามารถแหวกคู่แข่งในพื้นที่แคบ ๆ ได้เป็นประจำ ไม่ใช่แค่สถานการณ์ 1-1 เท่านั้น ต่อให้ต้องโดนรุมการขึ้นมา การครอบครองบอลที่ผสมผสานกันระหว่างทักษะที่เท้า ไหวพริบที่สมอง และสภาพจิตใจที่เยือกเย็นไม่ตื่นตระหนก ก็ทำให้เขาเอาตัวรอดได้ตลอดเวลา และกลายเป็นภาพจำที่ อิเนียสต้า ทำให้เราเห็นเสมอและมันกลายเป็นการเคลื่อนที่ง่าย ๆ แต่สง่างามที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ... 

ในความง่าย ๆ ที่ยากจะทำตามและมาจนถึงตอนนี้ก็ยังหาใครหยุด อิเนียสต้า ตอนพีก ๆ ไม่ได้ มันยืนยันได้ดีว่าเขาเป็นนักเตะที่พิเศษขนาดไหน การฝึกหนัก ถ่อมตัว เรียนรู้ ให้ความสำคัญกับแท็คติกและการเล่นแบบทีมเวิร์ก คือทัศนคติที่ยอดเยี่ยม แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือพรสวรรค์ที่ทำให้เขาคือความคลาสสิกในแบบที่โลกฟุตบอลต้องคิดถึง เมื่อรู้ว่าเขาได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ 

ถ้าจะให้สรุปว่า อิเนียสต้า เป็นนักเตะประเภทไหน ทำไมถึงเลี้ยงบอลได้นุ่มนวลชวนฝันแม้ในสถานการณ์ที่กดดันยากต่อการเอาตัวรอดขนาดนั้นได้ เราคงต้องยกคำกล่าวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดโค้ชอัจฉริยะที่บอกเล่าถึงตัวตนของอิเนียสต้าได้อย่างเห็นภาพที่สุดว่า

"อันเดรสไม่เพียงแต่มีความสามารถในการมองเห็นทุกอย่างรอบตัว รู้ว่าต้องทำอะไรในสถานการณ์แบบไหน ... แต่สิ่งสำคัญจริง ๆ และไม่มีคนเลียนแบบได้คือเขายังมีพรสวรรค์ในการดำเนินการตามสิ่งที่สมองของเขาคิดได้อย่างแม่นยำ เขาสามารถฝ่าแนวรับได้เพราะเขามองเห็นและทำมันให้เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์จริง" กวาร์ดิโอล่า กล่าว

และถ้าบอกว่าจะมีประโยคไหนจะสื่อความได้ชัดที่สุดในการแขวนสตั๊ดของเขา ก็ต้องบอกว่า "โลกฟุตบอลจะคิดถึงคุณ" ประโยคนี้แหละเหมาะที่สุดแล้วสำหรับความคลาสสิกของเขาคนนี้ ... อ้อ และประโยคดังกล่าวมาจาก ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเถียงกันในเรื่องนี้ต่อ อิเนียสต้า เป็นเช่นนั้น ดังที่ทุกคนกล่าวถึงโดยที่ไม่มีใครยกมือคัดค้านอย่างแน่นอน 

 

แหล่งอ้างอิง

https://soccer-training-info.com/how_to_play_like_iniesta/
https://the18.com/soccer-news/how-play-andres-iniesta-1617-4-ways-improve-your-game
https://briandekorodi.medium.com/andres-iniesta-tactical-breakdown-2b4d7999cece
https://www.fourfourtwo.com/performance/training/andres-iniesta-how-boss-midfield
https://www.goal.com/en/news/what-is-la-masia-barcelonas-famous-youth-academy-star-players-produced/or0mpbswqb671voxzkzpt67j2

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ