แลนซ์ อาร์มสตรอง อดีตนักปั่นจักรยานชาวอเมริกัน ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนทั่วโลก ยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับอาการ PTSD ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ถูกจับว่าใช้สารกระตุ้นตลอดการเป็นนักปั่นอาชีพ
อดีตแชมป์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 7 สมัย และนักปั่นที่เอาชนะโรคมะเร็งอัณฑะ สูญสิ้นทุกสิ่งอย่างทั้งเกียรติยศ ชื่อเสียง และเงินทอง เมื่อเขาถูกตรวจพบในปี 2012 ว่าใช้สารกระตุ้นอย่าง Erythropoietin เพิ่มสมรรถภาพและสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมา จนทำให้เขาประสบความสำเร็จในการแข่งขันจักรยานมากมายในอดีต
การเปิดใจยอมรับความผิดกับ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังในปี 2013 ทำให้ อาร์มสตรอง ต้องเผชิญกับการถูกฟ้องร้องคดีต่างๆ ถูกปลดจากทำเนียบแชมป์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ เงินรางวัลที่เคยได้ก็ต้องส่งคืนผู้จัดและสปอนเซอร์ทั้งหมด และผลกระทบที่เขาได้รับหลังจากนั้นคืออาการ PTSD (ภาวะความเครียดที่เกิดจากเหตุการณ์สะเทือนใจ) ที่ทำให้เขาต้องพบแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดอย่างหนัก
อดีตนักปั่นวัย 52 ปี เผยผ่านรายการ The Great Unlearn ทาง Youtube ว่า "ชีวิตผมเปลี่ยนไป จากฮีโร่สู่คนที่ไม่เหลืออะไรเลยในชั่วข้ามคืน ผู้คนมากมายรู้สึกยินดีกับสิ่งนี้ หลายคนมองเป็นเรื่องตลก หลายคนคิดว่าผมควรโดนแล้ว และหลายสิ่งก็ถูกต้อง ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่ผมก็สมควรแล้วที่เป็นแบบนี้"
"รายได้ที่ผมเคยมีสูงที่สุดตอนนี้เหลือแค่ 0 แล้ว คุณคงจะผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้โดยไม่เจอกับทุกข์ทรมานในการเป็น PTSD ผมคิดว่าสังคมเราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ PTSD มาตลอด มันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จากคนที่เคยอยู่ในสงคราม พบกับความสูญเสีย เคยเห็นความตายตรงหน้า และการสังหารผู้อื่น ทว่า PTSD ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับทหาร และมันก็ไม่ได้มีไว้สำหรับผมเหมือนกัน"
หลังพบว่าตัวเองเป็น PTSD อาร์มสตรอง เข้ารับการรักษาด้วยการพบจิตแพทย์ที่เทนเนสซี่ เพื่อพาตัวเองออกจากฝันร้ายที่หลอกหลอนจิตใจ "ผมใช้เวลา 5 วันในการบำบัด อยู่กับแพทย์ตัวต่อตัววันละ 10 ชั่วโมง ขณะเดียวกันผมเองก็มุ่งสมาธิอยู่กับการออกกำลังกาย ความฟิต สุขภาพ ผมวิ่งเยอะมาก รวมถึงว่ายน้ำ และก็เล่นกอล์ฟด้วย"
ทั้งนี้ อดีตเจ้าของริสแบนด์สีเหลือง "Livestrong" ในตำนาน บอกว่าทุกวันนี้เขายังคงออกกำลังกาย รวมถึงหากิจกรรมอื่นๆ ทำเช่นจัดรายการพอดแคสต์อย่าง The Move ที่เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์สมัยแข่งจักรยาน กับ The Forword ที่ชวนบุคคลต่างๆ มาพูดคุยกัน รวมถึงหาโอกาสรับการบำบัดเพื่อลดความเสี่ยงและยับยั้งไม่ให้ภาวะ PTSD ตามมาหลอกหลอนตัวเขาในปัจจุบัน