กระแส ลิซ่า แบล็กพิงค์ ถูกระงับบัญชีเว่ยป๋อ ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าอาจเป็นเพราะเธอไปร่วมแสดงคาบาเรต์โชว์สุดแซ่บ ที่ฝรั่งเศส ซึ่งก็ค่อนข้างจะเป็นโชว์ที่ดึงตัวตนด้านเซ็กซี่ของลิซ่าออกมาอยู่มาก ในขณะที่จีนเป็นประเทศอนุกรักษ์นิยม
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีดราม่าการแบน หรือ ระงับบัญชีคนมีชื่อเสียงของเว่ยป๋อ
ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุดราม่าเกิดขึ้นกับ หวัง ลู่ เหยา นักกีฬายิงปืนทีมชาติจีนวัย 25 ปีมาแล้ว เพียงเพราะเธอไปไม่ถึงการคว้าเหรียญทอง
ลู่ เหยา เป็นนักกีฬาตัวเต็งในประเภทปืนยาวอัดลมหญิง ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์2020 ที่โตเกียว แต่ปรากฎว่าเธอไปไม่ถึงฝั่งฝัน จบอันดับที่ 16
หลังจากจบการแข่งขัน ลู่ เหยา ออกมาโพสต์ภาพถ่ายตัวเองผ่านกระจก พร้อมกับแคปชั่นขอโทษและบอกว่าเธอจะกลับมาสู้ใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่ภาพนั้นกลายเป็นเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะมันทำให้ชาวจีนไม่พอใจเธอหนักมาก
ผู้คนรุมกระหน่ำเธอหลายข้อความ เช่น
-"นี่คิดว่าตัวเองเป็นดาราเหรอ ถึงลงรูป ถ่ายรูป เซลฟี่ แทนที่จะทำหน้าที่นักกีฬาให้มันดี"
-"เอาเวลาถ่ายรูป ไปตั้งใจซ้อมให้มันดีเถอะนะ"
-"คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหรือไงถึงต้องเซลฟี่อัพเดต แทนที่จะพูดถึงผลงานในสนาม ดันมาขายหน้าตา อยากเป็นดารามากสินะ"
-"หิวแสงมากหรือไง ลงรูปตัวเองเนี่ย"
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพียงเท่านี้มันก็ทำให้ ลู่ เหยา รับมือกับแรงเสียดทานไม่ไหวจนเธอต้องลบโพสต์ดังกล่าวไป แต่ก็ยังมีคนตามไปคอนเมนต์ด่าในโพสต์อื่นๆ และยังมีโพสต์ที่ชวนติดแฮชแท็กแบนลู่เหยาด้วย กระทั่งบัญชีเว่ยป๋อเธอหายไปในที่สุด
คาดว่า ตอนนั้น ลู่ เหยา ปิดบัญชีเพื่อหนีจากคำพูดทิ่มแทงต่างๆ ก่อนจะมีแฟนๆบางกลุ่มเข้ามาปกป้องเธอและให้กำลังใจเธอ บางความคิดเห็นบอกว่า
"ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ควรตัดสินนักกีฬาจากเหรียญทอง และจีนไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสรรเสริญเพียงเพราะคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเท่านั้น ชีวิตยังมีด้านอื่นๆอีกมากนะ"
หลังจากได้รับกำลังใจดีๆ ลู่ เหยา ก็กลับมาใช้เว่ยป๋ออีกครั้ง และอธิบายว่า สาเหตุที่เธอโพสต์ภาพภ่ายตัวเองนั้น เพราะจะเอาไว้เตือนตัวเองว่าในวันที่พ่ายแพ้เธอมีสภาพเป็นยังไง และเธอจะไม่ยอมกลับมาเป็นคนที่แพ้อีกนั่นเอง
แม้เคสของลู่ เหยา ที่เราหยิบยกมา จะไม่ได้เหมือนกับกรณีของ ลิซ่า แต่มันก็สะท้อนได้ถึงความคิดความอ่านของชาวจีนบางส่วน ที่ยังยึดมั่นในเส้นทางอนุรักษ์นิยม และเสพติดความสำเร็จเท่านั้น