ฮิลดา บาร์ซี เชฟชาวไนจีเรียและทีมงานของเธอ เริ่มทำอาหารตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ 11 พ.ค. ในตู้กระจกใสที่ตั้งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในไนจีเรีย ในห้องนั้นนอกจากจะมีอุปกรณ์การทำครัวและวัตถุดิบต่างๆแล้ว ยังมีนาฬิกาอันใหญ่ที่คอยนับเวลาไปเรื่อยๆว่าผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว
ข้างนอกตู้กระจกใส มีประชาชนชาวไนจีเรียและสื่อมวลชน ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ฮิลดา และทีมงานอยู่ตลอดทั้งวัน
ฮิลดา เริ่มทำเมนูแรกคือซุปและสตูว์ต่างๆ ตามด้วยเมนูท้องถิ่นของไนจีเรีย เธอต้มผัดแกงทอดอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ โดยทุกๆชั่วโมงเธอจะพักเพียง 5 นาที แต่หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง ฮิลดา จะต้องวางมือจากทุกอย่าง เพื่ออาบน้ำ , นอน 1 ชั่วโมง และ ตื่นมาตรวจร่างกาย หากแพทย์ระบุว่าร่างกายเธออ่อนเพลียเกินไปจนไม่สามารถทำอาหารต่อไปได้ การจับเวลาจะหยุดลงทันที
แต่ไม่มีปัญหาสำหรับ ฮิลดา เธอผ่านการตรวจร่างกายฉลุย และทำอาหารต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์ 15 พ.ค.
ช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 15 ฮิลดา ทำอาหารมาราธอนต่อเนื่องเป็นเวลา 97 ชั่วโมง ซึ่งมันทำลายสถิติเก่าของเชฟชาวอินเดียที่เคยทำไว้ 87 ชั่วโมงไปแล้ว
แต่ทุกคนรอบข้าง ทั้งทีมงาน , ครอบครัว และ ผู้คนนอกตู้กระจกที่ส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอ บอกว่าเธอสามารถทำสถิติ 100 ชั่วโมงได้สบายๆ
ในตอนนั้น ฮิลดา ปล่อยมือจากด้ามจับกระทะ เธอร้องไห้ ความรู้สึกเหนื่อยล้า ผสมกับความกดดันและความภาคภูมิใจในตัวเองประเดประดังเข้ามาไม่หยุด ใจหนึ่งเธออยากหยุดแล้ว แต่หากกัดฟันสู้ต่ออีกเพียง 3 ชั่วโมง เธอจะกลายเป็นสุดยอดเชฟ ที่ยากจะมีใครมาทำลายสถิติเธอได้
ฮิลดา ตัดสินใจทำต่อไป กระทั่งเวลาเดินไปครบ 100 ชั่วโมง เสียงเฮก็ดังขึ้น ฮิลดา ได้ออกมาจากตู้กระจก ผู้คนปรบมือแสดงความยินดีกับเธอ และตัวเธอเองก็บอกว่าเธอมีความสุขมาก เพราะการกระทำของเธอจะส่งผลดีต่อเด็กยากไร้ในไนจีเรีย UN จะเล็งเห็นจุดประสงค์ของเธอ และจะต้องดำเนินการช่วยเหลือเด็กที่มีความเสี่ยงต่อความอดอยากในไนจีเรีย
อย่างไรก็ตามแม้ฮิลดา ไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่าการช่วยเหลือเด็กที่อดอยากในบ้านเกิด แต่เรื่องของเธอดังไปเข้าหู guinness world records ที่รับทราบเรื่องนี้และจะส่งทีมงานมาตรวจสอบสถิติดังกล่าว เพื่อทำการประกาศเข้าเป็นสถิติโลกอย่างเป็นทางการต่อไป
