การเต้นแอโรบิค กิจกรรมออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มทุกเพศ ทุกวัย ตามสวนสาธารณะ หรือพื้นที่ว่างในแหล่งชุมชน แต่สำหรับผู้สูงอายุ ถ้าหากไม่ใช่คนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การเต้นท่าตามจังหวะเพลง การออกแรงเพียงเบาๆก็สามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ แต่จะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดแต่ละคนที่แตกต่างกัน
“ครูชม” จิรภัทร ภูมิละไม ผู้นำเต้นลานกีฬาแสงทิพย์ ลานกีฬาใต้ทางด่วน พระโขนง สถานที่ออกกำลังกายของชาวบ้านสามชุมชนละแวกใกล้เคียง โดยนำจังหวะเต้นใหม่ๆให้ผู้สูงอายุ ได้ออกกำลังกายกันได้สนุกยิ่งขึ้น และไม่เกิดการบาดเจ็บ
ครูชมเริ่มสอนเต้นมากว่า 10 ปี ตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย เริ่มจากรุ่นพี่เอกพลศึกษา ชวนไปสอนตามลานกีฬา เนื่องจากเห็นว่าชอบเสียงดนตรี และ ชอบออกกำลังกายที่มีเสียงเพลงประกอบ คิดว่าสิ่งนี้น่าจะเหมาะเพราะเป็นคนมีจังหวะในหัวใจ
ในช่วงแรกก็เหมือนกับการสอนเต้นแอโรบิคทั่วไป สอนไปได้สักระยะหนึ่ง ก็สังเกตได้ว่า มีผู้สูงอายุที่มาเต้นแอโรบิคหลายคน ดูไม่สนุกตามจังหวะเท่าไหร่ จึงเข้าไปสอบถาม ว่าครูสอนไม่สนุกตรงไหนบ้าง คำตอบที่ได้มาคือ ทำท่าตามไม่ได้ด้วยอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายคนเราก็ไม่เหมือนเดิม ทำให้บางคนไม่สามารถเต้นแอโรบิคได้ ด้วยกล้ามเนื้อ และ กระดูกที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
กลับมานั่งคิดว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ออกกำลังกายได้ยืนยาวกว่านี้ ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ ครูนึกขึ้นได้ว่า เคยไปดูการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่สนามหลวง เห็นคนต่างชาติยืนเต้นอย่างสนุกสนาน แต่คนไทยกลับนั่งเฉย ครูก็แปลกใจมาก เลยไปถาม เขาบอกว่า ดนตรีไทยมีสุดยอดมาก ทั้งมีความไพเราะ และ สนุกสนาน สิ่งนี้แหละ จะทำให้ทุกคนเต้นได้ แถมเป็นการอนุรักษ์ประเพณีไทยอีก
ครูชมเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่นำการฟ้อนรำ และ บาสโลบ เข้าไปสอน “ทุกคนแปลกใจมาก แต่ก็ชอบ คนที่ไม่เคยรำมาก่อนก็จะยังมีความแข็งไม่อ่อนช้อย แถมเดินไม่ถูกกัน ครูต้องสอนไปทีละนิด ฟ้อนไปทีละเล็กน้อย ตามจังหวะ ยังไงคนมีดนตรีในหัวใจ ไม่ใช่เรื่องยาก
การเต้นแอโรบิค มันไม่ได้เหมาะกับทุกคน ด้วยท่าเต้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเร็วและใช้แรงมากตลอดเวลา อาจทำให้เหนื่อยเกินไป ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุบางคน การฟ้อนรำ หรือ บาสโลบ เป็นท่าเต้นที่ผ่อนแรงลงมา มีความสวยงามเข้าไปด้วยในตัว ซึ่งคนท่ัวไปจะชอบอยู่แล้ว อันนี้ก็เพียงเพิ่มท่า และ ทิศทางเข้าไป แถมทำให้ทุกคนมีความกล้าแสดงออกมากขึ้น ไม่อายใครเวลาไปงานต่างๆ พวกเขาก็สามารถไปเต้นได้
ทุกวันนี้ในช่วงที่ครูจะได้ยินเสียงกรี๊ด เหมือนพวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้ มีรอยยิ้ม ถือว่ามีการตอบรับที่ดี ทำให้เขาได้เหงื่อ ไม่เหนื่อยมาก ออกกำลังกาย 30 นาทีขึ้นไป วัตถุประสงค์ของเราสำเร็จแล้ว มันยังมีผลส่งกลับมาให้เรามีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้นไปด้วย “
สำหรับคนผู้สูงอายุ หรือ คนที่อยากออกกำลังกาย “ครูมองว่าการเต้นมันเป็นสิ่งที่งดงาม ทำให้คนใจเย็นลง สนุกสนาน กล้าแสดงออก ใช้สมองฝึกสมาธิในการก้าวเดิน และทำให้พวกเราได้เจอกัน เชื่อว่าทุกคนบนโลกนี้มีดนตรีในหัวใจเหมือนกัน “
หากใครสนใจสามารถมาร่วมเต้นออกกำลังกายสนุกๆ กับ ครูชม ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.-18.00 น. ที่ลานกีฬาแสงทิพย์ใต้ทางด่วนพระโขนง
