จบลงไปแบบเกินคาดคิด สำหรับ ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 59 เกมชิงแชมป์ประจำฤดูกาล 2024 ของอเมริกันฟุตบอล NFL
สกอร์ที่ออกมาถือว่าขาดลอย เมื่อ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ชนะ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ขาดลอย 40-22 แบบที่อินทรีมรกตนำหัวหน้าเผ่าขาดลอย 34-0 ก่อนผ่อนเกมในช่วงท้าย
สิ่งที่ทำให้อีเกิ้ลส์คว้าชัยแบบขาดลอยหนนี้ ประการแรกหนีไม่พ้น เกมรับ จากการดูแลของ วิค ฟานจิโอ โค้ชเกมรับฝั่งฟิลาเดลเฟีย ที่หยุดเกมบุกของชีฟส์ได้อย่างอยู่หมัด
รูปแบบการเล่นแบบพื้นฐาน Four-man rush ใช้แค่แนวป้องกัน 4 คนแรกของฝ่ายรับ ไล่กดดันควอเตอร์แบ็กทีมคู่แข่ง เพิ่มเติมด้วยการทิ้งผู้เล่นตำแหน่งเซฟตี้ไว้แนวหลัง 2 คน ป้องกันลูกขว้างยาว ประสบความสำเร็จดีเกินคาด เมื่อแนวป้องกันของฝ่ายบุกหยุดไม่อยู่ แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กชีฟส์ จึงกลายเป็นเป้าโจมตี
สถิติหลังจบเกมของมาโฮมส์อาจดูไม่น่าเกลียดนัก ขว้างทำระยะ 257 หลา 3 ทัชดาวน์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกันคือ มาโฮมส์โดนแซ็กไปถึง 6 ครั้ง แถมยังขว้างบอลโดนอินเตอร์เซปต์ 2 ครั้งตั้งแต่ครึ่งแรก และทั้ง 2 ครั้ง อีเกิ้ลส์เอาไปต่อยอดเป็น 2 ทัชดาวน์ 14 คะแนน
ด้านเกมบุก ยิ่งเป็นฝั่งอีเกิ้ลส์ที่เหนือกว่า มาดีทั้งเกมขว้างจาก เจเลน เฮิร์สต์ ควอเตอร์แบ็กที่คว้าตำแหน่ง MVP เกมซูเปอร์โบวล์ไปครอง หลังขว้างทำระยะ 221 หลา 2 ทัชดาวน์ วิ่งเองอีก 72 หลา 1 ทัชดาวน์ แม้เสีย 1 อินเตอร์เซปต์ แต่ไม่มีผลต่อเกม แถมมี เซควอน บาร์คลี่ย์ ตัววิ่งคนสำคัญมาช่วยสร้างเกม ส่วนฟากชีฟส์ เกมวิ่งดับสนิทจากปัญหาผู้เล่นตัววิ่งที่ไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์ ทำระยะรวมกันได้เพียง 49 หลา ทำให้ต้องพึ่งเกมขว้างของมาโฮมส์เป็นหลัก
อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้อีเกิ้ลส์ชนะเกมนี้ คงเป็นเรื่องของทีมเวิร์ก ที่ เจเลน เฮิร์สต์ รวมถึง นิค ซิริอานนี่ เฮดโค้ชของทีมเน้นย้ำหลังเกมว่า จะไม่อาจคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้เลย หากขาดความเป็นหนึ่งเดียวกันในทีม
อันที่จริง ในฤดูกาล 2024 อีเกิ้ลส์เกือบหมิ่นเหม่สู่ภาวะทีมแตก เมื่อ 4 สัปดาห์แรกชนะสลับแพ้ สถิติ 2-2 แต่พอได้บายวีกในสัปดาห์ที่ 5 ทีมก็กลับมาพูดคุย แก้ปัญหา จนสุดท้ายกลับมาชนะ 10 เกมติด เข้ารอบแบบไม่ยากเย็น และไปต่อยาว ๆ
NFL ฤดูกาล 2024 จบลงด้วยความสำเร็จของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ พร้อมเน้นย้ำประโยคคลาสสิกของอเมริกันฟุตบอล เพราะนอกจาก "Teamwork makes the dream work" ดูเหมือนคราวนี้ "ทีมบุกมีไว้ขายตั๋ว ทีมรับมีไว้เป็นแชมป์" อีกครั้ง