ดายอง นัดนักข่าวเกาหลีใต้ไปพบที่สนามบินอินชอน ก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องเดินทางไปเล่นที่ลีกฝรั่งเศส โดยดายองยอมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการบูลลี่และทำร้ายร่างกายเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียน จนทำให้เธอและคู่แฝดแจยอง ถูกแบนไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับวงการวอลเลย์บอลเกาหลีใต้ได้เลยนับตั้งแต่ปี 2021
ดายอง ยอมรับผิดทุกอย่างตามที่เป็นข่าว แต่เธอก็อธิบายว่า พยายามนัดเจอกับเหยื่อที่ถูกบูลลี่แล้วแต่ไม่เป็นผล พร้อมกับปกป้องฝาแฝดของเธอด้วยว่า แจยอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้
"ปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนเป็นปัญหาของฉันในสมัยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตอนนี้ฉันได้รับความเสียหายมากมาย เพราะความผิดของฉัน แต่แฝดพี่ของฉันเล่นวอลเลย์บอลไม่ได้ เพราะเป็นฝาแฝดกับฉัน”
“ฉันต้องการแก้ไขในส่วนนั้น และฉันขอโอกาสนี้ เพื่อขอโทษแฟนๆ อีกครั้ง”
“หลังจากเหตุการณ์นั้น ฉันได้พบกับผู้เสียหายด้วยตัวเองและขอโทษอย่างจริงใจ และพยายามขอให้ได้รับการให้อภัย แต่เพื่อนเหล่านั้นยังคงหลีกเลี่ยงการพบปะ และไม่สามารถติดต่อได้ พวกเขาขอเงินเยียวยา 100 ล้านวอนต่อคน (ราวๆ 2.64 ล้านบาทต่อคน) ดังนั้น จึงยังไม่ได้รับการให้อภัย”
อี ดา ยอง ยังพูดอย่างใจเย็นว่า “ทั้งหมดที่ฉันพูดได้ คือ ฉันขอโทษสำหรับทุกอย่าง ถ้าฉันมีโอกาสอีกครั้ง ฉันอยากจะขอโทษเพื่อนๆในตอนนั้นและขออโหสิกรรม”
อย่างไรก็ตามหลังดายอง ยอมเปิดปากพูดถึงเรื่องนี้ แม้จะยังมีแฟนๆวอลเลย์บอลและชาวเนติเซ่นที่ยังไม่ยอมรับและแบนฝาแฝดคู่นี้ต่อไป แต่ก็มีบางส่วนที่เห็นใจ และมองว่าทั้งหมดนั้นมันคือเรื่องราวในอดีต ที่ทั้งคู่พยายามแก้ไขแล้ว
หากไปตามดูในอินสตาแกรมของ ดายอง จะเห็นว่า คอมเมนต์ส่วนใหญ่ให้กำลังใจเธอและชื่นชมที่เธอปกป้องแฝดผู้พี่ เพราะการที่จะออกมาพูดแบบนี้มันคงรวบรวมความกล้าอย่างมาก
แต่กระแสฝั่งที่ไม่เห็นใจ ก็มีเหตุผลโต้แย้งว่า แผลในใจของเหยื่อที่ถูกกระทำมันไม่ได้หายไปเลยแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ซึ่งในขณะที่ดายอง กำลังบินไปเล่นที่ฝรั่งเศส อาจมีเหยื่อที่ไม่สามารถใช้ชีวิตต่อบนเส้นทางความฝันของตัวเองได้อีกเลย พร้อมกับยกเคสของ โก ยูมิน และ คิม อินฮยอก สองนักวอลเลย์บอลชายเกาหลีใต้ ที่ถูกบูลลี่เรื่องหน้าตาอย่างหนักทั้งจากคนในทีมและจากโซเชียล มีเดีย จนท้ายที่สุดทั้งคู่ทนต่อไปไม่ไหว จนตัดสินใจฆ่าตัวตายในที่สุด