นับว่าประสบความสำเร็จ ได้กระแสตอบรับที่ดี กับการถ่ายทอดสตรีมมิ่งบน NETFLIX ในศึกมวยเขย่าโลก ไมค์ ไทสัน ปะทะ เจค พอล ที่มีผู้ชมทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ถามว่าปัญหาในการสตรีมมิ่งมีไหม แน่นอนว่ามี เพราะในชวงแข่งขัน มีผู้ที่ร้องเรียนถึงปัญหาทางเทคนิค โดยเฉพาะการกรพะตุกและดูไม่ได้ ซึ่งมีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ก็สามารถดูการถ่ายทอดสดได้ราบรื่น
ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า เมื่อโลกเปลี่ยน ผู้ชมสามารถที่จะเลือกรับชมโปรแกรมที่ต้องการได้ ซึ่งแตกต่างกับ เคเบิลทีวี แบบเดิม ที่ผู้ชมจะต้องรับชมตามผังโปรแกรม
- ดังนั้น NETFLIX ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มการเลือกสำหรับการเลือกเสพสื่อของคน จึงใช้จุดนี้ ในการผลักดันให้การถ่ายทอดสดกีฬาเกิดขึ้น เพราะปัจจุบัน Netflix มีผู้สมัครเป็นสมาชิกกว่า 280 ล้านคนทั่วโลก ขณะเดียวกัน NETFLIX เอง ก็ไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ฟรี นี่จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ผู้ชมรับชมได้อย่างง่ายดาย
“ปัจจุบัน กระแสกีฬาทุกประเภทกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การสตรีมมิ่ง” บ็อบ ดอร์ฟแมน นักวิเคราะห์การตลาดกีฬาอาวุโสจากซานฟรานซิสโกกล่าว
แม้ว่า ปัจจุบัน รายได้จากการขายโฆษณา จะไม่ใช่ปัจจัยหลักที่สร้างรายได้ให้กับสตรีมเมอร์ในปัจจุบัน แต่ก็พบว่า Ad-supported tier (สมัครแพ็กเกจแบบมีโฆษณา ) มียอดสมัครที่พุ่งจาก 40 ล้านเป็น 70 ล้านบัญชีในระยะเวลา 2 ปี กลับเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า การเติบโตของ NETFLIX มียอดผู้ชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนให้เกิดการรับรู้ของแฟนกีฬาทั่วโลกว่า ณ วันนี้ NETFLIX ได้เข้าเป็นหนึ่งในตัวละครการสตรีมมิ่งกีฬา เพิ่มเติม
- แต่ นีล พิลสัน อดีตประธานของ CBS Sports มองอีกมุม เขามองว่า อีเวนต์ใหญ่นี้ถือเป็นสัญญาณที่ควบคู่กันกีฬาและการสตรีม แต่การสตรีมและการถ่ายทอดสดแบบดั้งเดิมจะอยู่คู่กันต่อไป
“นี่เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น... ในความคิดของผม มันเป็นเพียงความแปลกใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม”
“อุตสาหกรรมยังคงถูกขับเคลื่อนโดยกีฬาที่มีการผูกระยะยาว ไม่ว่าจะเป็ร MLS, NFL, Major League Baseball” ที่ Amazon Prime เข้าซื้อ Thursday Night Football ในปี 2021 หรือ MLS เซ็นสัญญามูลค่ามหาศาล 10 ปีกับ Apple TV ในปี 2022 มูลค่ารายงานว่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้น หากพิจารณาถึงคำพูดของอดีตประธาน CBS ก็คงกล่าวได้ว่า หาก NETFLIX จะเข้าสู่วงการนี้จริงๆ คงจะต้องกล้าที่จะลงทุน เพื่อผูกแพลตฟอร์มระยะยาว กับรายการใดรายการหนึ่ง เพราะไฟต์นี้ เป็นไฟต์ที่อาจถูกพูดถึงอย่างถล่มทลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป.. มันก็จะผ่านไป
ขณะที่ปัจจุบัน NETFLIX เอง มีการนำสารคดีกีฬา และจับมือกับ WWE มีการถ่ายทอดสดให้ได้ชมกัน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า นี่อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการรุกตลาดถ่ายทอดสดกีฬา
- แต่หากจะกล่าวว่า นี่เป็นการเปลี่ยนวงการกีฬากับการถ่ายทอดสดเลยหรือไม่ คงจะไม่สามารถบอกได้เต็มปาก ด้วยเหตุผลที่กล่าวไป
รวมถึงโลกปัจจุบัน แม้การสตรีมมิ่งจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจริง แต่การถ่ายทอดทางโทรทัศน์ก็ยังเป็นหนึ่งในช่องทางการบริโภคที่ง่ายที่สุดของผู้ชม ยกตัวอย่างเช่น การถือลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกในไทย ของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งอยู่ในมือ แต่ก็ยังต้องแบ่งสัดส่วนการถ่ายทอดสดไปยัง "ฟรีทีวี" อย่าง MONO29 ด้วยเช่นเดียวกัน
- เอาง่ายๆ ว่า แค่การถ่ายทอดสด "ไทยลีก" เรายังเห็นแฟนบอลมาถามกันอยู่ตลอดว่า "ตกลงมีถ่ายฟรีทีวีมั้ย"
ดังนั้น มันคงจะเป็นเพียงก้าวหนึ่งของการเขย่าวงการจริงๆ แต่จากนี้ ระยะยาว ต้องมาติดตามว่า NETFLIX จะเข้ามาจับการสตรีมมิ่งจริงจังไหม และก็ไม่แน่อีกเช่นกันว่า ระยะยาว เราอาจจะได้เห็นรายการกีฬาในดวงใจ มาถ่ายทอดลงที่ NETFLIX ก็เป็นได้