ถ้าใครติดตามทีมชาติอังกฤษช่วงนี้ คงสังเกตว่าชื่อที่ถูกเรียกติดทีมมีทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ และบางชื่อดังที่หายไปชวนให้ขมวดคิ้วอยู่เหมือนกัน
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือการกลับมาของ บูกาโย ซาก้า ดาวเตะอาร์เซน่อล ที่ก่อนหน้านี้เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนพลาดเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กับอันดอร์รา และเซอร์เบีย เมื่อเดือนกันยายน 2025 ไป แต่ล่าสุดเพิ่งคืนสนามให้ทัพปืนใหญ่ แล้วกดสกอร์ในเกมชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 ทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล ตัดสินใจดึงเขากลับมาเติมสีสันให้แนวรุกสิงโตคำรามอีกครั้งในฟีฟ่าเดย์เดือนตุลาคม 2025 ที่มีเกมอุ่นเครื่องกับเวลส์ และคัดบอลโลกกับลัตเวีย โดยซาก้าจะได้เสียบแทน โนนี่ มาดูเอเก้ เพื่อนร่วมสโมสรที่ดันโชคร้ายต้องพักยาวถึงพฤศจิกายนเพราะเจ็บเข่า
ส่วนชื่อที่หลายคนรอคอยอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น และ แจ็ค กรีลิช กลับไม่มีในลิสต์ ซึ่งอาจทำให้แฟน ๆ แอบงงอยู่บ้าง แต่ก็มีเหตุผลรองรับทั้งนั้น เบลลิงแฮมเพิ่งหายจากการผ่าตัดไหล่และเพิ่งได้ลงตัวจริงให้ เรอัล มาดริด แค่เกมเดียว ขณะที่โฟเด้นกับกรีลิช แม้เปิดฤดูกาลได้ดี แต่ทูเคิลอยากเห็นความต่อเนื่องมากกว่านี้
นอกจากนั้นยังมีการปรับทัพเล็ก ๆ อย่าง จาเรลล์ ควานซาห์ จากเลเวอร์คูเซ่น ถูกเรียกเข้ามาแทน ติโน่ ลิฟราเมนโต้ ซึ่งต้องพักยาวเพราะเจ็บเข่า รวมถึงการเก็บชื่ออย่าง เอลเลียต แอนเดอร์สัน, เจด สเปนซ์ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เอาไว้ แม้จะมีนักเตะที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาอย่าง อดัม วอร์ตัน ก็ตาม
เมื่อมองให้ลึก สิ่งที่ทูเคิ่ลทำ คือการให้รางวัลแก่ผู้เล่นที่พาทีมเก็บชัยเหนืออันดอร์ราและโดยเฉพาะเกมที่ถล่มเซอร์เบีย 5-0 คนที่โชว์ฟอร์มดีในวันนั้นจึงยังได้ไปต่อ ไม่ว่าจะเป็นแอนเดอร์สัน ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หรือ มอร์แกน โรเจอร์ส ของ แอสตัน วิลล่า ที่โดดเด่นจนถูกจับตามองว่าอาจมาแทนบทบาทของเบลลิงแฮมได้พอดี
แม้ทูเคิ่ลจะชื่นชอบกรีลิชและโฟเด้น แต่เขาเลือกจะไม่แตะอะไรที่กำลังไปได้สวย “ของที่ไม่เสียหาย ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อม” ดูจะเป็นคติที่โค้ชชาวเยอรมันยึดเอาไว้ในตอนนี้
อาจพูดได้ว่า นี่คือการผสมผสานระหว่างความต่อเนื่อง กับการเผื่อพื้นที่สำหรับอนาคต ทีมชาติอังกฤษของทูเคิ่ลจึงยังคงน่าติดตามว่า จะเดินเกมอย่างไรในเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2026
เรื่อง : ชินภัทร มุทะสัง นักศึกษาฝึกงาน
ที่มา :
https://www.bbc.com/sport/football/articles/cpw1e1lzdjwo