แม้จะไม่ได้อยู่กับสโมสรมาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่ดูเหมือน หลุยส์ ฟาน กัล อดีตผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” ในระหว่างปี 2014 ถึง 2016 จะใส่ใจแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ตลอด เพราะล่าสุดเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตี แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ไม่กี่วันหลังจากพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ หลุยส์ ฟาน กัล ถูกสโมสรเด้งพ้นเก้าอี้ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็มักจะพูดถึงทีมปีศาจแดงในแง่ลบอยู่เสมอ
วิจารณ์การลำดับความสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดย หลุยส์ ฟาน กัล อ้างว่าในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด สโมสรดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่ผลกำไรเชิงพาณิชย์มากกว่าความสำเร็จในสนาม
ล่าสุดหลังจบฤดูกาล 2024-25 หลุยส์ ฟาน กัล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน Sky Sports ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่เขาคุมทีมแม้แต่น้อย เป็นสโมสรเชิงพาณิชย์ ยังคงเน้นเรื่องผลกำไรทางธุรกิจ มากกว่าความสำเร็จในสนามฟุตบอล
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่สโมสรฟุตบอล ผมเคยพูดแบบนั้นมาก่อนแล้ว และนั่นเป็นเรื่องยากเสมอ เมื่อผู้จัดการทีมไม่ได้ตัดสินใจว่าผู้เล่นคนใดควรเข้ามา มันก็เป็นเรื่องยากมาก”
และเมื่อถูกถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ผู้จัดการทีมมีสิทธิ์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการเซ็นสัญญากับผู้เล่นเข้าสู่ทีม หลุยส์ ฟาน กัล ตอบว่า
“ผมคิดว่ามันควรจะเป็นแบบนั้น เพราะถ้าเป็นแบบนั้น คุณก็สามารถไล่ผู้จัดการทีมออกได้เมื่อเขาทำผลงานห่วยแตก แต่ถ้ามีคนอื่นเป็นคนซื้อนักเตะเข้ามา มันก็จะกลายเป็นปัญหา”
“คุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับตัวผู้จัดการทีม ต้องเข้าใจแนวทางของเขา เพราะเขาคือคนที่ต้องฝึกนักเตะเหล่านั้น”
นอกจากนี้ หลุยส์ ฟาน กัล ยกได้กรณีของ อาร์เน่อ กับ ลิเวอร์พูล มาเป็นแนวทางให้ปฏิบัติตาม “อาร์เน่อ คือคนที่บอกกับผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคว่าเขาต้องซื้อนักเตะคนนี้ และต้องใส่ใจเรื่องนี้ด้วย”