จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการจับสลากของรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรป
54 ชาติสมาชิกของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า จะถูกแบ่งลง 12 กลุ่ม กลุ่ม A-F กลุ่มละ 4 ทีม กลุ่ม G-L กลุ่มละ 5 ทีม เพื่อแย่งตั๋ว 16 ใบ สู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก
โดยแชมป์กลุ่ม รวม 12 ทีม จะเข้ารอบสุดท้ายทันที ขณะที่รองแชมป์กลุ่ม 12 ทีม บวกกับโควต้าจาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2024-25 ที่มีอันดับคะแนนรวมดีที่สุด แต่ยังไม่ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายหรือเพลย์ออฟผ่านเงื่อนไขใด ๆ อีก 4 ทีม รวม 16 ทีม จะต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ แบ่ง 4 สาย สายละ 4 ทีม จับคู่ในสายน็อกเอาต์แบบนัดเดียวรู้ผล 2 รอบ เพื่อหาผู้ชนะหนึ่งเดียวจากแต่ละสาย รับตั๋วอีก 4 ใบที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม กว่าที่จะจัดแต่ละทีมเข้าตามกลุ่มต่าง ๆ ได้นั้น มันมีเงื่อนไขต่าง ๆ ยุ่บยั่บวุ่นวายเต็มไปหมด และจากหลากหลายสาเหตุเสียด้วย
ก่อนอื่นเลย อันที่จริงชาติสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า มี 55 ชาติ แต่มี 1 ชาติที่โดนตัดสิทธิ์ก่อนใคร นั่นคือ รัสเซีย ที่มีกรณีพิพาทในการรุกราน ยูเครน อย่างไรก็ตาม เบลารุส ที่เป็นคู่หูชาติสำคัญ ไม่โดนแบนไปด้วย ทำให้เหลือ 54 ชาติ
และเหตุผลเรื่องกรณีพิพาทระหว่างประเทศ ทำให้หลายชาติไม่อาจเจอกันได้ โดยชาติที่ไม่สามารถเจอกันได้จากกรณีนี้ ประกอบด้วย เบลารุส กับ ยูเครน, โคโซโว กับ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีนา และ โคโซโว กับ เซอร์เบีย รวมถึง ยิบรอลตาร์ กับ สเปน
อันที่จริง ชาติที่ห้ามเจอกันด้วยปัญหาคู่พิพาทจะมีมากกว่านี้ แต่การแบนรัสเซีย ทำให้ตัดปัญหาไปได้ 2 คู่ เพราะ รัสเซีย ห้ามเจอกับ โคโซโว และ ยูเครน นอกจากนี้ อาร์เมเนีย กับ อาเซอร์ไบจาน แม้ห้ามเจอกัน แต่เนื่องจากทั้งสองชาติอยู่โถทีมวางเดียวกัน จึงไม่สามารถเจอกันได้อยู่แล้ว
เงื่อนไขต่อมา คือ สภาพอากาศ ซึ่งบางชาติมีฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด ประกอบด้วย เอสโตเนีย, หมู่เกาะแฟโรห์, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และ นอร์เวย์ ทำให้ ยูฟ่า ออกเงื่อนไขว่า แต่ละกลุ่มจะสามารถมีชาติจากลุ่มอากาศหนาวเหล่านี้อยู่ได้ไม่เกิน 2 ชาติต่อกลุ่ม
อันที่จริง ชาติในกลุ่มนี้จะต้องมี ยูเครน, รัสเซีย และ เบลารุส รวมอยู่ด้วย แต่เนื่องจากรัสเซียถูกแบน ส่วนยูเครนยังไม่สามารถเล่นเกมเหย้าในประเทศตัวเองได้ ต้องเล่นสนามกลาง เช่นเดียวกับเบลารุส ที่โดนลงโทษห้ามเล่นในบ้านเพราะสนับสนุนรัสเซีย ทำให้ถูกตัดออกไปจากกลุ่มนี้
อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขพิเศษเฉพาะ ไอซ์แลนด์ กับ หมู่เกาะแฟโรห์ เนื่องจากสองชาตินี้มีอากาศหนาวแบบสุดขั้ว ดังนั้น พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกันไม่ได้ เท่านั้นไม่พอ ยังจะต้องเล่นเป็นทีมเยือนในเกมช่วงเดือนมีนาคม กับพฤศจิกายน อันเป็นช่วงฤดูหนาวอีกด้วย
เงื่อนไขต่อมาอีกที่ส่งผลกับการจับสลากคือ การเดินทาง เมื่อบางชาติในกลุ่มนี้อยู่สุดขอบทวีป ทั้งทางเหนือ อย่าง ไอซ์แลนด์ และทางตะวันออก อย่าง คาซัคสถาน ชาติที่ไม่อยากเตะบอลแข่งกับทวีปเอเชีย กับ อาเซอร์ไบจาน ซึ่งแฟนบอลคงเห็นแล้วกับการที่ เชลซี ตัดสินใจใช้นักเตะชุดสองไปเยือน อัสตาน่า ทีมดังของคาซัคสถาน ในรายการ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
นั่นทำให้มีการออกกฎขึ้นมาว่า หากชาติในกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งมี 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม 1 ไอซ์แลนด์ กับ อาร์เมเนีย, ไซปรัส กลุ่ม 2 อาเซอร์ไบจาน กับ ยิบรอลตาร์, ไอซ์แลนด์, โปรตุเกส และ กลุ่ม 3 คาซัคสถาน ซึ่งแท้จริงตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย แต่ย้ายมาแข่งฟุตบอลในโซนยุโรป กับ อันดอร์รา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ยิบรอลตาร์, ไอซ์แลนด์, มอลตา, ไอร์แลนด์เหนือ, โปรตุเกส, ไอร์แลนด์, สกอตแลนด์, สเปน, เวลส์ ต้องมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันในการจับสลาก จะอยู่ได้เพียง 2 ชาติเท่านั้น หากมีทีมอื่นถูกหยิบเข้ามาด้วย จะถูกดีดไปกลุ่มอื่น
และเงื่อนไขสุดท้าย ก็มีที่มาจากทัวร์นาเมนต์ที่ ยูฟ่า จัดขึ้นมาเองอย่าง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เพราะในฤดูกาล 2024-25 ยูฟ่า ตัดสินใจเพิ่มทีมในรอบชิงแชมป์เป็น 8 ทีม ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเพลย์ออฟเลื่อนชั้นตกชั้นระหว่างลีกอีกด้วย โดยรอบชิงแชมป์จะแข่งใน ฟีฟ่า เดย์ ช่วงเดือนมีนาคม และมิถุนายน ส่วนเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นตกชั้น แข่งแค่ช่วง ฟีฟ่า เดย์ เดือนมีนาคม
เรื่องดังกล่าว ทำให้ยูฟ่าต้องสับรางขนานใหญ่ เริ่มจากทีมผู้ชนะของเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายในรอบชิงแชมป์ของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะต้องไปเล่นในกลุ่มที่มี 4 ชาติเท่านั้น เพื่อให้ใน ฟีฟ่า เดย์ ช่วงเดือนมีนาคมและมิถุนายน 4 ชาติดังกล่าวจะได้เตะ เนชั่นส์ ลีก
ส่วนชาติผู้แพ้ใน เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาสามารถอยู่ได้ทุกกลุ่ม แต่หากไปอยู่ในกลุ่มที่มี 5 ทีม จะเริ่มรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกทีหลัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพื่อให้ใน ฟีฟ่า เดย์ ช่วงเดือนมีนาคม จะได้เตะ เนชั่นส์ ลีก
เช่นเดียวกับชาติที่ต้องเตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นตกชั้นระหว่างลีก แม้สามารถอยู่ได้ทุกกลุ่ม แต่หากไปอยู่ในกลุ่มที่มี 5 ทีม ก็จะไม่สามารถอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมที่แพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศของ เนชั่นส์ ลีก รอบชิงแชมป์ หรือทีมที่ต้องเตะเพลย์ออฟเช่นกันได้ โดยจะเริ่มรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกทีหลัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพื่อให้ใน ฟีฟ่า เดย์ ช่วงเดือนมีนาคม จะได้เตะ เนชั่นส์ ลีก
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อได้ว่า แฟนบอลจำนวนไม่น้อยน่าจะงง แต่เมื่อฟุตบอลเริ่มแข่งกันจริง ๆ ก็น่าจะเห็นภาพมากขึ้นเอง
ที่มา:
https://ia800804.us.archive.org/19/items/draw-procedures-for-the-uefa-preliminary-draw-for-the-fifa-world-cup-26/Draw_Procedures_for_the_UEFA_Preliminary_Draw_for_the_FIFA_World_Cup_26.pdf
https://digitalhub.fifa.com/m/445599b755be1b8a/original/Draw-Procedures-for-the-UEFA-Preliminary-Draw-for-the-FIFA-World-Cup-26.pdf
https://en.wikipedia.org/wiki/2026_FIFA_World_Cup_qualification_(UEFA)
