ในการแข่งขันรอบ 4 ทีมสุดท้ายที่อังกฤษจะเจอกับเนเธอร์แลนด์ของศึกยูโร 2024 มีประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อสงสัยของแฟน ๆ ลูกหนังคือการที่ยูฟ่าแต่งตั้งผู้ตัดสินที่เคยมีประวัติรับสินบนและล็อคผลการแข่งขัน
โดยผู้ตัดสินที่รับหน้าที่ตัดสินในเกมรอบ 4 ทีมสุดท้ายของศึกยูโร 2024 ที่อังกฤษจะเจอกับเนเธอร์แลนด์คือ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ผู้ตัดสินชาวเยอรมันที่เคยมีประวัติการรับสินบนและล็อคผลการแข่งขัน ก่อนได้รับโทษแบน 6 เดือน
เหตุการณ์อันแสนเลวร้ายในการแข่งขันฟุตบอลครั้งนั้นย้อนกลับไปในปี 2005 เมื่อ โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ผู้ตัดสินชาวเยอรมันรับเงินจากเจ้าของบาร์แห่งหนึ่งชื่อ อันเต้ เซพิน่า ที่ลงเงินเดิมพันไว้ในการแข่งขันฟุตบอลลีกของเยอรมนีกว่า 2 ล้านยูโร ในเกมที่ พาเดอร์บอร์น พบกับ ฮัมบูร์ก โดยทาง เซพิน่า ได้ทำการว่าจ้าง ฮอยเซอร์ ล็อคผลการแข่งขันด้วยเงินกว่าพันยูโร
ภายหลังจากรับเงินมาแล้ว ฮอยเซอร์ นำเงินจำนวนนี้ไปว่าจ้างผู้ตัดสินที่มีชื่อว่า เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ และ โดมินิก มาร์ค อีกหนึ่งทอด และนอกเหนือจากผู้ตัดสินแล้วยังมีอดีตนักเตะจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุน นามว่า สเตฟเฟน คาร์ล ที่มีส่วนในการล็อคผลการแข่งขันด้วยเช่นกัน
เกมแรกที่ ฮอยเซอร์ รับหน้าที่ล็อคผลแข่งขัน คือเกมที่ พาเดอร์บอร์น เปิดรังเหย้าแข่งขันกับ ฮัมบูร์ก ซึ่งในเกมนี้ ฮอยเซอร์ มอบจุดโทษให้แก่ทีมเจ้าบ้าน 2 ครั้ง และทำให้การแข่งขันในเกมนี้ พาเดอร์บอร์น ชนะ ฮัมบูร์ก 4-2 และเมื่อผลเป็นเช่นนั้นทำให้ เซพิน่า ที่ลงเดิมพันในแมตช์นี้รับเงินเข้ากระเป๋าเน้นๆ 750,000 ยูโร
และเมื่อได้เงินมาอย่างง่ายดายใครเล่าจะไปหยุด อันเต้ เซพิน่า เดินหน้าว่าจ้าง ฮอยเซอร์ อย่างต่อเนื่องและยังคงรับหน้าที่ล็อคผลการแข่งขันอีก 9 นัด และได้เงินมาจากการติดสินรวมแล้ว 67,000 ยูโร และ โดมินิก มาร์ค ผู้ตัดสินอีกคนที่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ยังได้รับเงินรวม 36,000 ยูโร
แม้ว่า มาร์ค ผู้ตัดสินรายหลังจะรับหน้าที่ตัดสินในลีกรองของเยอรมนีหรือเกมกระชับมิตรของลีกตุรกี แต่เหตุการณ์ล็อกผลทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีของฟุตบอลเยอรมนีเลยทีเดียว
ในส่วนของ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ถูกว่าจ้างด้วยเงิน 300 ยูโร เพื่อล็อคผลเกมระหว่าง วัปเพอทอลเลอร์ เอสวี และ แวร์เดอร์ เบรเมน
แต่สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็ได้รับการตรวจสอบจากสมาคมฟุตบอลเยอรมนีหรือ DFB และมีหลักฐานชี้ว่ามีการกระทำผิดรับสินบนเพื่อล็อกผลการแข่งขันโดยผู้ที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้ประกอบไปด้วย ผู้ติดสิน โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ถูกแบนจากการตัดสินตลอดชีวิต, โดมินิค มาร์ค ได้รับโทษแบน 18 เดือน และ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ถูกแบน 6 เดือน
ผู้ว่าจ้าง อันเต้ เซพิน่า ถูกจำคุก 35 เดือน (2 ปี 11 เดือน) และญาติที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 2 คน ได้รับโทษจำคุก 12 และ 16 เดือน และ สเตฟเฟน คาร์ล อดีตนักเตะของ ดอร์ทมุนด์ ถูกแบน 8 เดือนและต้องบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ภายหลังจากการรับโทษ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ กลับมารับหน้าที่เป็นผู้ตัดสินต่ออีกครั้งหลังหายจากวงการราว 18 ปี ด้วยสาเหตุที่ตัวเขาเองมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในปี 2005 ผู้สื่อข่าว ESPN รายหนึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
“ตอนนั้นเขา (เฟลิกซ์ ซวาเยอร์) อายุแค่ 23 ปี เขารับเงินจากผู้ตัดสินที่แก่กว่า ซึ่งผู้ตัดสินรายนั้นทำการล็อคผลการแข่งขันไว้แล้ว และวันหนึ่ง ซวาเยอร์ ไปหาสมาคมฟุตบอลเยอรมนีแล้วเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวนี้ ทำให้ผู้ตัดสินรายดังกล่าวโดนแบนตลอดชีวิต ถ้าถามว่าเขาควรตัดสินรึเปล่า กรณีล็อคผลมันก็เกือบ 19 ปีที่แล้วและซวาเยอร์ก็เป็นคนที่เปิดโปงทุกอย่าง นั่นแหละคือสาเหตุที่เขาโดนแบนเพียง 6 เดือน เหตุการณ์พวกนี้ไม่สงผลต่ออังกฤษหรอก”
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ โดนกล่าวหาจากนักเตะกองกลางชาวอังกฤษอย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม หลังจากที่เขาไม่ให้จุดโทษกับทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ส่งผลให้ในเกมดังกล่าว ดอร์ทมุนด์ พ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค 3-2 ในปี 2021 และภายหลังจบเกมทำให้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ออกมากล่าวถึงการตัดสินครั้งนี้ว่า
“คุณเอาผู้ตัดสินที่เคยล็อคผลการแข่งขันมาตัดสินในเกมนัดที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีเนี่ยนะ คุณคาดหวังว่าไงละ” ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวทำให้จู้ด เบลลิ่งแฮม โดนปรับ 40,000 ยูโรจากสมาคมฟุตบอลเยอรมนีจากข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อพิสูจน์
นอกเหนือจากกรณีดังกล่าว เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ยังไม่เคยมีประเด็นเรื่องการตัดสินที่ผิดพลาดอีกเลยนับแต่นั้น
อย่างไรก็ตามยูฟ่ามีความเชื่อมั่นและได้แต่งตั้งให้ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ กลับมาตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 โดยจะรับหน้าที่ตัดสินในนัดที่ อังกฤษ จะเจอกับ เนเธอร์แลนด์ วันพฤหัสที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามกองหลังอังกฤษอย่าง ลุค ชอว์ ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า
“เราต้องเคารพการตัดสินใจของยูฟ่าว่าเขาเลือกใครมาเป็นผู้ตัดสิน มันไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยเพราะเราต้องมุ่งไปที่เกมไม่ใช่การตัดสินของผู้ตัดสิน ในเวลาที่เราอารมณ์เสีย เราใช้อารมณ์มากไป ไม่ว่าใครจะถูกเลือก หรือใครจะมาตัดสิน เราต้องพร้อมรับมือ”
ในการศึกยูโร 2024 เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ได้รับหน้าที่ตัดสินมาแล้วทั้งหมด 3 เกมก่อนหน้านี้โดยเกมแรกเขาตัดสินในเกมที่อิตาลี เจอกับ อัลเบเนีย เกมที่สองเขาตัดสินในเกมที่โปรตุเกส เจอกับ ตุรกี และเกมที่สามที่ตัดสินในเกมของ เนเธอร์แลนด์ เจอกับ โรมาเนีย
แม้ว่าจะยูฟ่าจะเลือก เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ที่เคยมีประวัติเรื่องการรับสินบนแต่เชื่อว่าผู้ตัดสินชาวเยอรมันพร้อมทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อความเป็นกลางสำหรับทั้งสองชาติที่ต้องการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
