News

เมื่อ "คิลิยัน เอ็มบัปเป้" ยิงไม่ออก เพราะโดนหน้ากากเนิร์ฟพลัง

ศึกฟุตบอล ยูโร 2024 ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ส่งให้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส เฉิดฉายมากที่สุด เพราะพกพาความมั่นใจมาแบบเต็มเปี่ยม จากการถล่มประตูไป 44 ตุง ทุกรายการกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ฤดูกาลที่แล้ว

 


เอ็มบัปเป้ เดินทางมาลุยศึกชิงแชมป์ยุโรป ด้วยความมุ่งมั่นจะคว้าแชมป์ยุโรปกับทีมชาติ สมัยแรกให้ตัวเองจนได้ ขณะที่สื่อก็คาดการณ์ว่าเขาจะโชว์ฟอร์มเยี่ยม ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ พาทีมของ ดิดิเยร์ เดสชองป์ส คว้าแชมป์ และถูกยกเป็นตัวเต็งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์

แต่หลังจากที่ เอ็มบัปเป้ ได้รับบาดเจ็บจมูกหักเลือดอาบในเกมแรกที่เจอกับ ออสเตรีย จนต้องใส่หน้ากากป้องกันใบหน้าตั้งแต่นั้น ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อหน้ากากที่เขาต้องสวมใส่ สร้างปัญหาให้กับหัวหอกวัย 25 ปี มากกว่าที่หลายคนคิด

เอ็มบัปเป้ กลับมาลงสนามในเกมแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่เสมอ โปแลนด์ 1-1 โดยเจ้าตัวยิงจุดโทษให้กับทีมได้ แต่หากนับประตูแบบโอเพ่นเพลย์ ลากเลื้อยไปยิง หรือหาช่องเข้าฮอร์สยิงเองแบบที่เราเห็นกันจนชินตา เขาส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายไม่ได้เลย

รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ชนะ เบลเยี่ยม 1-0 ที่ แยน แฟร์ตองเก้น ที่ทำเข้าประตูตัวเอง ดาวยิงคนใหม่ของ เรอัล มาดริด มีโอกาสยิงประตูถึง 5 ครั้ง แต่ก็หลุดกรอบ หรือไม่ก็ติดบล็อคกองหลังคู่แข่งตลอด ทำให้ ณ จนถึงตอนนี้ เขายังยิงประตูแบบโอเพ่นเพลย์ไม่ได้

แน่นอนว่าหากเป็นสถานการณ์ปกติ เอ็มบัปเป้ คงมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดแบบต่อเนื่องไปแล้ว แต่ที่มันออกมาแบบนี้ เหตุผลสำคัญก็คือการที่เขาต้องสวมใส่หน้ากากลงสนาม แม้ว่ามันจะมีประโยชน์ในเรื่องการป้องกันใบหน้าไม่ให้บาดเจ็บเพิ่มเติม แต่ก็บดบังทัศนวิสัยในการเล่นฟุตบอลไปด้วย

ใครที่ดู เอ็มบัปเป้ ลงเล่นในเวอร์ชั่นใส่หน้ากาก จะเห็นได้ว่าเขามักใช้มือขยับหน้ากากตัวเองอยู่เป็นระยะ เพราะหน้ากากขยับมาบังดวงตาเขาทำให้มองเห็นไม่สะดวก ใครที่เคยใส่หน้ากากทำกิจกรรมต่างๆ คงรู้ดีว่าต่อให้ทำช่องที่ดวงตาใหญ่แค่ไหน แต่มันก็มองเห็นไม่ชัดเท่ากับตอนไม่ใส่อยู่ดี

แต่ถึงอย่างนั้น ดิดิเยร์ เดสชองป์ส กุนซือของ "เลอ เบลอส์" เชื่อมั่นว่าดาวซัลโวของพวกเขาจะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งหากคุ้นชินกับหน้ากากอันนี้แล้ว

"เขาเริ่มชินกับมันแล้ว เหงื่อที่เข้าตาตอนใส่หน้ากากก็คอยรบกวนเขาด้วยเช่นกัน มันสร้างความซับซ้อนในการมองเห็น ทว่าเขาจำเป็นต้องคุ้นเคยกับมันเพราะอาจต้องใส่มันไปอีก 2-3 สัปดาห์ หรือ 2-3 เดือน" เดเด้ กล่าว

ณ เวลานี้ ฝรั่งเศส ยังคงเป็นทีมเต็งแชมป์ของ ยูโร 2024 ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และเกมรุกที่ดูดีกว่าคู่แข่งแม้จะยิงประตูได้น้อยก็ตาม (ผ่านมา 4 นัด ทำได้แค่ 3 ประตู เป็นคู่แข่งยิงตัวเองไป 2 ลูก อีกลูกคือจุดโทษของ เอ็มบัปเป้)

ดังนั้น สิ่งที่ ฝรั่งเศส และแฟนบอลคาดหวังในเวลานี้ก็คือขอให้ เอ็มบัปเป้ ปรับตัวเข้ากับการเล่นฟุตบอลแบบใส่หน้ากากให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับ "ตราไก่" ในการพุ่งขึ้นไปหยิบแชมป์ยุโรปในโค้งสุดท้าย

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ