"เสื้อบอล" นับเป็นไอเทมที่แฟนบอลสามารถเข้าถึงสโมสรอีกทั้งยังจับต้องได้ง่าย และเมื่อเข้าถึงช่วงเวลาสำคัญของทีมมักจะมีการเปิดตัวเสื้อรุ่นพิเศษออกมาให้แฟนบอลได้เก็บสะสม เช่นเดียวกับสโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ในศึกฟุตบอลไทยลีก 2 ที่ได้มีการเปิดตัวเสื้อฟุตบอลรุ่นพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 25 ปี ของทีม
แต่อย่างไรก็ตามการเปิดตัวเสื้อแข่งดังกล่าวกลับกลายเป็นประเด็นที่ทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ยังคงต้องรอคำตอบกันจนถึงทุกวันนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปี 2023 ทางพยัคฆ์ล้านนา หรือ เชียงใหม่ เอฟซี ได้เปิดตัวเสื้อฟุตบอลรุ่นพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 25 ปี ออกมาให้แฟนบอลได้จับจองเป็นเจ้าของ ราคาตัวละ 1,190 บาท พร้อมเปิดพรีออเดอร์จำนวน 2,025 ตัวเท่านั้น
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสื้อแข่งรุ่นนี้มีความสวยงามอย่างมากจากการร่วมงานกับ KELME พาร์ทเนอร์ชุดแข่ง ทั้งการใช้โทนสีดำเป็นครั้งแรก เพิ่มความโดดเด่นด้วยโทนสีชมพูบานเย็น สีแดง และ สีน้ำเงิน ที่ล้วนมีความหมายทำให้เสื้อแข่งรุ่นนี้มีเจ้าของจนหมดเกลี้ยง
ทว่าเป็นที่ทราบกันดีหากมีการสั่งจองแบบพรีออเดอร์ ผู้สั่งซื้อจำเป็นจะต้องรอของที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต แต่ดูเหมือนว่าแฟนบอลที่สั่งพรีออเดอร์เสื้อรุ่นพิเศษนี้จะรอนานเกินไป...
มีแฟนบอลหลายต่อหลายรายที่ได้ทักข้อความไลน์ของสโมสรเกี่ยวกับเสื้อแข่งรุ่นพิเศษนี้ในช่วงเดือนมกราคมเกี่ยวกับการจัดส่งเสื้อแข่ง โดยทางสโมสรแจ้งว่าจะดำเนินการเรียบร้อยภายในสิ้นเดือน จนกระทั่ง ปัจจุบัน เดือนเมษายน ปี 2024 แฟนบอลยังไม่ได้รับเสื้อที่สั่งพรีออเดอร์ไปแต่อย่างใด และสโมสรยังไม่มีการออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้
ล่าสุดวันที่ 6 เมษายน ทางเพจเฟซบุ๊กทางการ KELME Thailand ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นเสื้อแข่งที่ทุกคนรอคอย พร้อมเผยว่าทางแบรนด์เองก็ยังคงรอคอบความชัดเจนจากสโมสรเช่นกัน เพราะว่าเสื้อแข่งตำนวน 2,025 ตัว ได้รับการผลิตเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
"เพื่อให้ความเข้าใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทางเรา KELME ได้ผลิตสินค้าทั้งหมด 2,025 ตัว เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา และ ไม่มีการล่าช้าใดๆ จากการผลิตรวมไปถึงขั้นตอนการขนส่ง ตามที่สโมสรแจ้งให้กับแฟนบอลทราบ (ซึ่งไม่เป็นความจริง)"
"อย่างไรก็ตามสินค้าไม่สามารถส่งให้ทางสโมสรได้เนื่องจากทางสโมสรไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงทางการค้า และ ส่งผลกระทบต่อแผนงานของทางเรามาเป็นระยะเวลา 4 เดือน" ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก KELME Thailand
ท้ายที่สุดแล้วคงจะต้องมาดูว่าเรื่องนี้ติดขัดตรงไหน แต่เชื่อว่าจะมีทางออกที่ดีที่สุดให้สำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต, สโมสรหรือแฟนบอลที่สามารถจบเรื่องนี้ได้ในที่สุด
