News

กำแพง 10 วินาที ที่ "บิว" ภูริพล ต้องทำให้ได้เพื่อไปโอลิมปิก ยากแค่ไหน

ภูริพล บุญสอน มีโอกาสเป็นนักวิ่งคนแรกของย่านอาเซียน ที่ทำเวลาต่ำกว่า 10 วินาที ในการวิ่ง 100 เมตร ซึ่งหากทำได้ จะทำให้ภูริพล ได้ไปโอลิมปิก 2024 ในทันที โดยปัจจุบัน เวลาที่ดีที่สุด ที่ภูริพลทำได้ คือ 10.06 วินาที (ไม่รับ 10.02 วินาที ที่ไม่ได้รับการรับรองเพราะแรงลม)

 


แต่กำแพง 10 วินาทีนั้น ยากแค่ไหน Main Stand เรารวบรวมปัจจัยซึ่งรวบรวมจากงานวิจัยต่างๆ ไว้ที่นี่

1.จุดสตาร์ท

ทุกสถิติโลกอันยิ่งใหญ่หรือการวิ่ง False Start ที่สุดแสนน่าเสียดายต่างมีจุดเริ่มต้นเหมือนกัน นั่นคือทุกคนต้องออกตัวจากแท่นสตาร์ทและเร่งความเร็วจาก 0 ไปทำเวลาให้ดีที่สุด มีการวิจัยว่าปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายมนุษย์จากวินาทีที่เสียงปืนปล่อยตัวดังจนดีดตัวออกจากแท่นสตาร์ท จะไม่มีทางเร็วกว่า 0.1 วินาทีได้ และตัวแผ่นเซนเซอร์ดังกล่าวจะคอยเช็คว่าแรงกดของเท้านักกีฬานั้นเป็นอย่างไร ดังนั้น การออกสตาร์ทดีจึงสำคัญมาก

2.ทำตามสัญชาตญาณ

"คุณต้องเชื่อมั่นในสัญชาตญาณ เหมือนกับการกระพริบตาและหายใจ ห้ามคิดว่าแขนแกว่งกว้างหรือแคบเกินไปไหมอีกเด็ดขาด" คือคำแนะนำของ จัสติน แกตลิน เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรในโอลิมปิกปี 2004 และผู้ทำเวลาวิ่งได้เร็วสุดเป็นอันดับห้าของโลก ด้วยเวลา 9.74 วินาที

"คุณต้องผ่อนคลายส่วนหัวของคุณ พยายามทำตัวให้ต่ำเหมือนคุณกำลังผลักอะไรไว้ในช่วง 10-15 ก้าวแรก นี่จะช่วยให้คุณผ่านช่วง 20-25 เมตรแรกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและทรงพลัง แล้วจึงค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งท่าตรง"

นอกจากนี้ อย่าวอกแวกกับการหันหลังไปมองคู่แข่ง เพราะเคยมีกรณีศึกษาที่ อโต โบลดอน นักวิ่งชาวตรินิแดด ที่พลาดคว้าอันดับ 3 จากการที่เหลือบไปมองคู่แข่งอย่าง แฟรงค์ เฟรเดริก ชาวนามิเบีย จากที่ได้เหรียญเงินอยู่ กลับโดนแซงเป็นเหรียญทองแดง

3.นักวิ่งทุกคน ความเร็วลดลงในช่วงกลาง

นักวิ่งส่วนมากจะทำความเร็วแตะจุดพีกของตัวเองระหว่างระยะทาง 35-65 เมตร ก่อนจะเริ่มทำความเร็วได้ลดลงจากความล้าของกล้ามเนื้อในร่างกาย ที่ยังคงมีการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ในปัจจุบัน

อโต โบลดอน ระบุว่า "ทุกคนต่างทำความเร็วได้ช้าลงในช่วง 35-40 เมตรสุดท้าย หากคุณเห็นใครที่ดูเหมือนวิ่งฉีกจากนักวิ่งคนอื่นไปได้ นั่นแปลว่าเขามีความเร็วลดลงช้ากว่าคนอื่น ไตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์เดินดิน ยังไงเขาก็ต้องชะลอความเร็วลงในช่วง ⅓ สุดท้ายของการวิ่ง 100 เมตร"

4.ไม่ฝืนร่างกายจนเกินไป

จากความจริงที่ว่า นักวิ่งทุกคน ความเร็วลดลงในช่วงกลาง ทำให้นำมาซึ่งความจริงที่ว่า ในช่วงท้าย เราไม่ควรฝืนร่างกายตัวเองจนเกินไป

"คุณต้องอย่าโลภ เพราะตามทฤษฎีแล้วมันไม่มีใครวิ่งได้เร็วขึ้นหลังวิ่งผ่านไป 70 เมตร คุณแค่ต้องมั่นใจว่ายังวิ่งต่อไปตามเทคนิคและรูปแบบของตัวเอง เมื่อคุณอยู่ในจุดนั้นแล้วอย่าพยายามเอื้อมหาอะไรที่มากเกินไป เพราะเมื่อไหร่ที่คุณพยายามฝืนตัวเอง ข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นมา" จัสติน แกตลิน แชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองฝืนมากเกินไป จนโดนยูเซน โบลต์ แซงในช่วงท้าย

5.จังหวะเข้าเส้นชัย

ลำตัว คือส่วนที่ถูกนำมาใช้ตัดสินว่านักวิ่งเข้าเส้นชัยในวินาทีที่เท่าไหร่ จึงทำให้นักวิ่งทั้งหลายต่างพยายามยื่นลำตัวโดยเฉพาะส่วนหน้าอกตัวเองให้เข้าเส้นชัยก่อนเป็นส่วนแรก ดังนั้น การยื่นลำตัวเกินไป อาจเป็นการชะลอความเร็วลง

ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่ถูกแชร์ผ่านงานวิจัยและบทสัมภาษณ์จากนักวิ่งระดับโลก แต่การจะไปถึงจุดนั้น ในทางทฤษฎี ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะถึงเวลาแข่งขันจริง จะมีปัจจัยอีกมากมาย ในการกำหนดปัจจัยการทำเวลาที่เกิดขึ้น

แต่หากภูริพล บุญสอน ยังไม่สามารถทำเวลาได้ต่ำกว่า 10 วินาทีจริง ก็ยังมีโอกาสไปโอลิมปิก จากเกณฑ์อันดับโลก โดยจะต้องสถิติให้ดีที่สุด โดยปัจจุบัน มีนักวิ่งเพียง 18 คนที่ทำเวลาได้ต่ำกว่า 10 วินาที ส่วนที่เหลือจะคัดเลือกจากอันดับโลก ที่จะรันจนครบ 56 คน หากมีนักกีฬาที่ทำเวลาถึง ENTRY STANDARD ไม่ครบ

10 วินาทีนี้ จึงสำคัญมากสำหรับ "บิว ภูริพล" สำหรับการไปเก็บตัวที่สหรัฐฯ ในรอบนี้ 

Author

วิรวิชญ์ เจริญเชื้อ

The handsome boy like Jackson Wang and the best singer of Main Stand.

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ